เม็ดเสริม 2 : การทำกัวซา
ไทย
English
กัวซา: Playlist
“หมอที่เก่งที่สุดก็คือตัวเรา
และเครื่องมือที่แท้จริงในการบำบัดรักษาโรคคือ ร่างกายของเราเอง”
การกัวซา คือ…คำตอบ
ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจีน ชาวเขา กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษจวบจนปัจจุบัน มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการเอาพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง ปัจจุบันนี้ สังคมเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจรุ่งเรือง แต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลง ยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที่รีบเร่ง ทำให้ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง เป็นผลให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้ราบรื่น ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด และโรคร้ายแรงจากความเจริญก้าวหน้า ยิ่งกว่านั้นโรคที่เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปรกติ ล้วนเป็นโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น “การถอนพิษแบบกัวซา” จึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และยังสามารถพึ่งตนเองได้อีกด้วย
การถอนพิษแบบกัวซาคือ การขูดผิวหนังเพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งเสริมการไหลเวียนของพลังปราณในร่างกาย และเป็นการถอนพิษที่ไม่ถูกจำกัดทั้งเวลาและสถานที่ สามารถทำได้ทุกเวลาที่ต้องการ เพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที ขูดจากศีรษะจนถึงเท้า ก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น กระตุ้นระบบเมตาโบลึซึ่มของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สุขภาพที่แข็งแรง
กัวซาการนวดบำบัดแบบศาสตร์จีน
การนวดบำบัดด้วยกัวซา คือการบำบัดแบบแผนโบราณของจีน กัวซาเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานนับพันปี การนวดบำบัดแบบกัวซาสามารถทำได้ทุกที ทุกเวลา ตามที่ต้องการและเกิดผลจริง เพียงใช้แผ่นกัวซา ขูดจากศีรษะจนถึงเท้า จะช่วยกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น เป็นการกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกาย มีผลต่อร่างกายคือ ทำให้สุขภาพแข็งแรง แก้ปัญหาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว ปวดศีรษะได้ดี
ความนิยมของกัวซา
ปัจจุบันนี้สังคมเจริญก้าวหน้าเศรษฐกิจรุ่งเรืองแต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลงยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที่รีบเร่ง ทำให้ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลงเป็นผลทำให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้ราบรื่น ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิดและโรคร้ายแรง
จากความเจริญก้าวหน้า ยิ่งกว่านั้นโรคที่เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปกติล้วนเป็นโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการออกกำลังกายแบบกัวซาจึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและยังได้ใส่หลักการแพทย์ที่มีเหตุผลลึกซึ้งรวมเข้าไปด้วย มีการปรับปรุงอุปกรณ์กัวซาให้ดีขึ้น นำวิธีรักษากัวซาแบบโบราณที่เรียบง่ายผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้คนยุคปัจจุบันที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับงานสามารถสัมผัส “การออกกำลังกายแบบกัวซา” ได้อย่างง่ายดาย
การออกกำลังกายแบบกัวซา ที่พอเหมาะส่งผลให้ร่างกายและจิตใจ แข็งแรง กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกายและช่วยชะลอความแก่ เป็นต้น คนยุคปัจจุบันทั่วไปที่ยุ่งวุ่นวายทั้งวัน มักถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่จนไม่สามารถจัดเวลาไปออกกำลังกายได้ การออกกำลังกายแบบกัวซา สามารถกระทำได้ทุกเวลาที่ต้องการเพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที ขูดจากศรีษะจนถึงเท้าก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้นกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกายผลลัพธ์ที่ได้คือสุขภาพที่แข็งแรง
ประโยชน์ของกัวซา
การนวดบำบัดแบบ กัวซามีประโยชน์ คือ
1. แก้ปัญหาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว
2. ช่วยในการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย
3. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
4. ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น สุขภาพดีขึ้น
5. เสริมความงาม ชลอความแก่
6. ช่วยบำบัดอาการของโรคต่าง ๆ
7. ทำให้ค้นพบสาเหตุของโรคต่าง ๆ
8. สามารถบอกตำแหน่งของโรคที่เกิดขึ้น
9. ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ
10. ทำให้สุขภาพดีขึ้น
เทคนิคการกัวซา
1. จัดไม้กัวซา ทำมุม 45 องศา
2. ที่ตำแหน่งของกระดูกข้อต่อ สามารถขูดผ่านได้ โดยขูดไม่ลงน้ำหนักแรง
3. พยายามขูดให้ได้พื้นที่ยาว (ส่วนหน้าอก ส่วนท้อง ส่วนใบหน้า ส่วนไหล่ จากนอกเข้าใน ส่วนอื่น ๆ จากบนลงล่าง)
4. ระดับของพิษสะสม จากกการศึกษา พบว่าระดับของลมพิษจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
4.1 พิษสะสมอยู่ในระดับเซลล์เนื้อเยื่อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ขูดผ่านผิวหนังได้เลย บริเวณผิวหนังเรียบ
เช่น ขูดบริเวณแผ่นหลัง ที่เป็นผิวเรียบ ขูดบริเวณใบหน้า แขน ขา ฯลฯ
4.2 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงล่องกล้ามเนื้อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ใช้วิธีแซะ เขี่ย ตามล่องกล้ามเนื้อ ตามล่องกระดูก ล่องซีกโครง
เช่น ปวดตึงตรงบริเวณสะบักทั้ง 2 ข้าง (ที่อยู่แผ่นหลัง ให้อยู่ในท่าเอามือไขว้หลัง ใต้สะบักจะเห็นเป็นล่อง จะช่วยขูดแซะง่ายขึ้น)
4.3 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงไขกระดูก เมื่อกระดูกเคลื่อนที่ผิดรูป พิษก็จะเข้าไปฝังอยู่ในไขกระดูก
เช่น ปวดที่กระดูกก้นกบมาก เราจะต้องกัวซาตรงรูกระดูกก้นกบ เพื่อขับลมพิษออก
(สาเหตุมาจาก นั่งผิดท่าเป็นเวลานาน และไม่ออกกำลังกาย ยึดกล้ามเนื้อ เ้ส้นเอ็น ทำให้ของเสียไปค้างอยู่เวลานี้มาก และทานอาหารไม่สมดุล)
จุดเด่นของ กัวซา
1. วิธีนวดบำบัดง่าย เรียนรู้ได้ง่าย
2. สามารถทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
3. ไม่มีผลข้างเคียงจากการบำบัด
4. สามารถบำบัดได้แม้สวมเสื้อผ้าอยู่
เป็นการแพทย์ดั้งเดิมของชาวไทยภูเขา ชาวจีน พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการเอาพิษออก จากร่างกาย โดยระบายพลังงานที่เป็นพิษจากเลือด ที่ถูกกระตุ้นให้เคลื่อนที่มาระบายพิษ ที่ผิวหนัง ทำให้สามารถบรรเทาอาการ ไม่สบายได้อย่างรวดเร็ว
วิธีกัวซา
ควรทำการกัวซาในสถานที่โล่งโปร่ง และลมไม่โกรกจัด
-ในกรณีที่มีภาวะร้อนเกิน ใช้ขี้ผึ้งย่านาง ขึ้ผึ้งเสลดพังพอน ขี้ผึ้ง แก้หวัด ยาหม่องดำ น้ำมันเขียว น้ำมันเหลือง น้ำมันพืช น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นหรือน้ำเปล่า อย่างใดอย่างหนึ่งทาบนผิวหนังก่อนขูดซา ในบริเวณที่รู้สึกไม่สบายหรือบริเวณที่ถอนพิษจากร่างกายได้ดี เช่น บริเวณหลัง แขน ขา เป็นต้น แม้ไม่มีสมุนไพรทาเลย ก็สามารถขูดซาได้เลย โดยที่ไม่ต้องทาอะไรก็ช่วยถอนพิษได้
–ถ้ารู้สึกหนาวเย็นหรือมีอาการทั้งร้อนเกินและเย็นเกินเกิดขึ้นพร้อมกัน
ควรใช้น้ำอุ่น น้ำมันพืช หรือขี้ผึ้งที่ไม่เย็นเกินไป ทาก่อน ขูดซาหรือขูดซาโดยที่ไม่ต้องทาอะไรเลยก็ได้
-ถ้ามีอาการของภาวะเย็นเกินอย่างเดียว ก็ทาด้วยสมุนไพรฤทธิ์ร้อนก่อนขูดซา เช่น ขี้ผึ้งขมิ้น ขี้ผึ้งไพล ขี้ผึ้งน้ำมันระกำ ขี้ผึ้งน้ำมันงา น้ำมันโกฐ เป็นต้น หรือขูดซาโดยไม่ต้องทาอะไรเลยก็ได้
ใช้อุปกรณ์เรียบง่าย เช่น ช้อน ชาม เหรียญ ไม้หรือวัสดุขอบเรียบต่างๆ
การกัวซาควรเริ่มจากด้านซ้ายก่อนเสมอ ยกเว้นเมื่อเกิดอาการไม่สบาย เด่นชัดที่ด้านขวามากกว่าด้านซ้าย ก็ให้ขูดด้านขวาก่อน การขูดแต่ละครั้งให้ลงน้ำหนักแรงพอสบาย ไม่แรงเกิน ไม่เบาเกิน ความแรงที่ได้ผลดีนั้น ให้ลงน้ำหนักแรงเท่าที่จะไม่เจ็บหรือทรมานมากเกินไป อาจไม่รู้สึกเจ็บเลยหรือเจ็บเล็กน้อยในขีดที่ทนได้โดยไม่ยากไม่ลำบากก็ได้ ลงน้ำหนักสม่ำเสมอ การขูดที่พอดีคือ ขูดให้ผิวมีสีแดง จนกว่าจะไม่แดงไปกว่านั้น หรือขูดจุดละประมาณ 10-50 ครั้ง อาจขูดมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้เท่าที่รู้สึกสบาย
หลังท่ากัวชา ควรเกิน 4-8 ชั่วโมงขึ้นไป จึงสามารถอาบน้ำได้ ถ้าจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำทันทีหลังกัวซาก็ควรอาบน้ำอุ่นหรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น หรือถ้าจำเป็นที่จะ
ต้องรีบอาบน้ำ อาจอาบน้ำธรรมดาหลังกัวชา อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้เลือดที่เคลื่อนมาบริเวณผิวหนังมีเวลาระบายพิษออกไปได้มาก ถ้าเรารีบอาบน้ำเย็นเร็วเกินไป เส้นเลือดจะหดตัวบีบเลือดที่ยังระบายพิษได้ไม่มากกลับคืนไปสู่เชลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะภายในของเรา ท่าให้ระบายพิษได้น้อย
ทิศทางของการกัวซา
-ขูดศรีษะ: ขูดจากกลางศีรษะจนถึงตีนผม จนทั่วศีรษะ
-ขูดใบหน้า: ให้เอากึ่งกลางหว่างคิ้วเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วขูดออกไปเป็นรัศมีวงกลมทุกทิศทุกทางหรือขูดออกด้านข้างก็ได้
สำหรับบริเวณดวงตาให้หลับตาลงแล้วขูดเบาๆ จากหัวตามาหางตาและให้ทั่วบริเวณรอบตาทั้งหมด ลงน้ำหนักและปริมาณการขูดแค่พอรู้สืกสบาย
-ขูดแผ่นหลัง: ส่วนที่ชิดกระดูกสันหลัง ขูดตั้งแต่ต้นคอยาวลงมาจนถึงเอว พื้นที่แผ่นหลังส่วนที่เหลือให้ขูดออกข้าง
-ขูดบริเวณลำตัวด้านหน้า: เริ่มจากกลางหน้าอกให้ขูดลง ใต้ไหล่ด้านหน้าให้ขูดออกข้างหรือขูดลงก็ได้ ใต้ราวนมขูดตามร่องซี่โครงเฉียงเข้าหาสะดือ บริเวณท้องขูดลงหรือขูดเข้าหาสะดือก็ได้
–ขูดคอ แขน มือ สะโพก ขา เท้าและจุดที่ไม่สบายอื่นๆ หรือจุดที่จำทิศทางการขูดไม่ได้: ให้ขูดลงหรือขูดตามทิศที่เราขูดแล้วรู้สืกสบาย ตามหลักปฏิบัติเพื่อความแข็งแรงอายุยืนในพระไตรปิฎก อนายุสสสูตร ข้อที่ 1 การรู้จักทำความสบายแก่ตนเอง
ข้อควรรู้ของการกัวซา
1. การใช้แรงขูดควรสม่ำเสมอ ควรขูดจนเห็นรอย จุดแดงปรากฎขึ้นมาจนกว่าจะไม่แดงไปกว่านั้น (หากขูดสักพักแล้วไม่แดงก็ย้ายจุดขูดได้) หรือขูดจนบริเวณที่ขูดนั้นรู้สึกสบายขึ้น จากนั้นจึงขูดตำแหน่งอื่นต่อไป
2. บางครั้งหลังจากขูดแล้ว 2-3 วัน ตำแหน่งที่ขูดอาจจะมีอาการระบมปรากฏขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปรกติ หลังขูดจนเกิดรอยแดง ณ จุดนั้นๆออกมาแล้ว เราสามารถแปลผลได้ดังนี้
อาการพิษสะสม (ดูที่สีผิว)
สี | ผล |
---|---|
สีชมพูหรือสีแดงเรื่อ ๆ | แสดงว่า ดี |
สีแดงเป็นปื้น | แสดงว่า พิษเริ่มสะสม |
สีแดงเป็นจ้ำเหมือนไข้เลือดออก | แสดงว่า พิษสะสมนานแล้ว |
ถ้าเป็นลักษณะสีแดงช้ำ | แสดงว่า มีพิษสะสมมาก |
ถ้าแดงช้ำจนถึงขั้นสีม่วงหรือสีดำ | แสดงว่า มีพิษสะสมมากถึงขั้นมะเร็งแ |
มักจะมีคำถามว่า เมื่อกัวซาแล้วจะกัวซาอีกครั้งเมื่อไหร่ คำตอบก็คือ เมื่อรู้สึกไม่สบายอีกครั้ง ถ้าเป็นผู้ป่วยหนักอาจจะกัวซาทุกวันหรือวันละหลายครั้งก็ได้ ถ้าการทำนั้นทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวขึ้น
3. ไม่ควรขูดในจุดที่เป็นแผล ฝี หนองหรือจุดที่เมื่อถูกขูดแล้วรู้สีกไม่สบาย เจ็บปวด แสบร้อนทรมานมากเกินไป แต่สามารถขูดตรงข้ามกับจุดที่ไม่สบายนั้นๆ ก็สามารถรักษาจุดที่ไม่สบายนั้นได้