ดาวน์โหลดเอกสารใบสมัคพรรคสัมมาธิปไตย กดที่นี่  ดูขั้นตอนการสมัคร กดที่นี่ 

ดาวน์โหลดเอกสารลงชื่อคัดค้านกาสิโนถูกกฎหมาย และไม่เห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร กดที่นี่  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ที่นี่

2. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ

ระหว่างปี .. 2553 – 2558

(ประเภทข้อมูลที่ 10 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)

ภาคผนวก ก ของวิทยานิพนธ์การศึกษาตามหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (สาธารณสุขชุมชน)

ของ นายใจเพชร กล้าจน

กรณีศึกษาที่2.46
ชื่อนางสาวตะวันเดือน วรรณวงษ์
เพศหญิง
อายุ43 ปี
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
อาการไฟไหม้ ตามผิวหนังบริเวณมือเท้าสองข้าง
วันสัมภาษณ์22 มีนาคม 2558

สาเหตุจากอุบัติเหตุไฟลุกไหม้จากการผลิตขึ้ผึ้งเพราะได้เปลี่ยนวิธีการผลิตจากเดิมที่ใช้การตุ๋นมาเป็นการตั้งพาราฟินละลายในหม้อใบเดียวตั้งตรงบนเตา เนื่องจากความร้อนที่ร้อนจัดที่ระอุในหม้อและส่วนผสมน้ำมันสกัดสมุนไพรที่เดือด จึงได้ยกหม้อลงจากเตาถ่าน เพราะถ้าเเอทิลแอลกอฮอล์ลงหม้อเลยความร้อนจะล้นหม้อแน่ จึงยกหม้อออกจากเตา ก็คิดว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว เพราะหม้อที่เดือดได้ห่างจากเตาไกลแล้ว จึงเทส่วนผสมของสมุนไพรที่สกัดด้วยเอทิลแอลกอฮอล์ เทครั้งแรกเดือดแรง พอเทครั้งที่สอง เดือดมากกว่าเดิม ท่วมปากหม้อนิดหน่อย พอเทครั้งที่สาม ไอระเหยของส่วนผสมได้วิ่งไปที่เตาถ่านเกิดเปลวไฟที่ลามมาเป็นสายถึงกะละมังที่ถืออยู่ ไฟลามมาที่ผ้ากันเปื้อน ไหม้ที่เสื้อผ้า โดยเฉพาะรองเท้าที่สวม ซึ่งเป็นรองเท้านาโน ที่ดูดซับน้ำมันไว้ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกท่วมหลังเท้า ลุกผ้ากันเปื้อน แต่ดึงออกไม่ได้เนื่องจากเป็นเข็มขัด ระหว่างไฟลุกไหม้ ตนเองก็มีสติไม่โยนน้ำสมุนไพรที่มีส่วนผสมเอทิลแอลกอฮอล์ทิ้ง แต่พยายามถือกะละมังยาไปไว้อีกจุด ซึ่งห่างไกลจากเตา จากนั้นจึงวิ่งออกจากหลังบ้านมาที่หน้าบ้าน มีคนจะฉีดน้ำใส่เพื่อช่วยดับไฟ แต่ตนได้ห้ามไว้เพราะเกรงแผลจะพอง

สภาวะจิตตอนที่ไฟลุกไหม้ ความตายเพียงเสี้ยววินาที เห็นความเกิดดับที่เราคาดไม่ถึง ทำให้เราหมดอนาคต จบชีวิตได้ หากไฟไหม้บ้านทรัพย์สินเสียหายหมดไป เราจะทำอย่างไรดี แต่ก็มีจิตแวบมาว่ายาที่ผลิตได้ช่วยเหลือผู้คน เป็นประโยชน์ต่อผู้คน จึงไม่เกิดความทุกข์ ความยึดติด หมดก็หมด ด้วยเดชะบุญ เหตุการณ์น่าจะเลวร้ายมากกว่านี้เพราะมีเชื้อเพลิง เคมี ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่ความเสียหายเกิดไม่มากและได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว ไม่ต้องพาคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย และเป็นบุญ เมื่อถึงคราวเดือดร้อนก็มีคนมาช่วยทันเวลา มาดับเพลิง เมื่อบาดเจ็บก็มีจิตอาสาหลายคนช่วยกันดูแล ในจังหวะที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะช่วงแรกไม่สามารถช่วยตนเองได้เพราะบาดเจ็บทั้งมือและเท้า

กลไกการเกิดโรคและการหายของโรคเกิดจากภาวะร้อนเกินไม่สมดุล ระคายผิว สัญญาของชีวิตก็จะส่งน้ำไปดับความร้อน จึงเกิดถุงน้ำเพื่อขับพิษร้อนเย็นที่ไม่สมดุล ดังนั้นถ้าเรามีวิธีระบายพิษร้อนเย็นไม่สมดุลเข้าไปสัญญาของชีวิตก็ไม่ต้องส่งน้ำไปดับความร้อนก็จะหาย ในเบื้องต้นได้ดูแลและปฏิบัติโดยใช้ยา 9 เม็ดของแพทย์วิถีธรรมคือ

1. การรับประทานสมุนไพรปรับสมดุล

2. กัวซา หรือขูดพิษขูดลม ระบายพิษ

3. การสวนล้างลำไส้ใหญ่ (Detox) ด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน

4. การแช่มือแช่เท้าในน้ำสมุนไพที่ถูกกัน

5. พอก ทา หยอด ประคบ อบอาบ เช็ดด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน

6. การออกกำลังกาย กดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหารที่ถูกต้อง

7. การรับประทานอาหารปรับสมดุลร่างกาย

8. ใช้ธรรมะ ละบาป บำเพ็ญบุญกุศล เพิ่มพูนใจไร้กังวล (หยุดชั่วทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส) ใจเป็นประธานของสิ่งทั้งปวง ที่สำคัญไม่ทุกข์กับร่างกาย ทำใจให้เป็นสุข แล้วค่อยแก้ไปทีละขั้น ไม่คิดอะไรที่ทำให้ตนเองไม่สบายใจ

9. รู้เพียร รู้พักให้พอดี

สิ่งปฏิบัติเพิ่มเติม ดื่มน้ำปัสสาวะและดีท็อกซ์ในเวลาที่ไม่สบาย หยอดหูหยอดตา เพิ่มศีลให้บริสุทธิ์ ทานอาหารวันละมื้อ เน้นผักลวกจิ้มเกลือ รับประทานอย่างมีความสุข เห็นถึงประโยชน์ และคิดว่าเคราะห์ดีมีโอกาสปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกว่าปกติ อีกทั้งเข้าใจอารมณ์คนป่วยว่ารู้สึกอย่างไร และจะปรับอารมณ์อย่างไร เมื่ออยู่ในภาวะไม่สามารถใช้มือเท้าอย่างปกติ โดนน้ำไม่ได้ เข้าห้องน้ำลำบาก และอยู่กับสิ่งนี้ได้อย่างไร จะต้องพึ่งตนเองให้ได้ ก็ต้องใช้ปัญญาช่วยตนเองให้ได้เพราะผู้อื่นไม่ได้อยู่ด้วยตลอดบางสิ่งก็ไม่สามารถทำแทนเราได้ ส่วนแผลภายนอกใช้น้ำสกัดเช็ด ล้างแผล จากนั้นใช้ผงถ่านเปลือกมังคุดน้ำปัสสาวะผสมน้ำมันเขียว แล้วเอาผ้าก็อซวางบนแผล จากนั้นใส่สมุนไพรที่ผสมพอกบริเวณบนผ้าเพราะไม่ต้องการให้สมุนไพรติดแผลโดยตรงและฉีดน้ำสกัดย่านางบนผ้าก็อซเรื่อย ๆ ไม่ให้แห้ง อีกวิธีคือเปลือกมังคุดสด ใช้แต่เปลือกแดง ๆ ใส่ขวดแล้วแช่ปัสสาวะ แล้วใช้สำลีชุบน้ำนั้นวางบนแผล ถ้าเข้าใจเรื่องวิบากเราจะไม่ทุกข์ จะหายเมื่อไรเป็นหน้าที่ของร่างกาย จิตใจและอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ย่อมอยู่เหนือโรคภัยไข้เจ็บ

ประมาณ 2 เดือนผ่านไปแผลแห้งสนิท หายเป็นปกติ กำลังแรงใจจากอาจารย์คุณหมอเขียวและจิตอาสาทุก ๆ ท่านเป็นแรงบันดาลใจที่ซาบซึ้ง ไม่มีวันลืมเลือนประทับไว้ในความทรงจำ

แบ่งปันประสบการณ์

การดูแลและเทคนิคที่ใช้

ไม่พบผลลัพธ์

ไม่พบหน้าที่คุณค้นหา ลองปรับการค้นหาหรือใช้แผงควบคุมด้านบนเพื่อค้นหาโพสต์