1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.45 |
ชื่อ | น้องนัฐเมศและคุณแม่ |
เพศ | เด็กชายไทยและหญิงไทย |
อายุ | 55 |
จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
โรค | โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง |
วันสัมภาษณ์ | 31มกราคม 2555 |
จิตอาสา: สวัสดี สวัสดีสมาชิกก่อน
คุณแม่: สวัสดีครับ (บอกน้องให้สวัสดีผู้ฟัง)
น้องนัฐเมศ: สวัสดีครับ
จิตอาสา: น้องนัฐเมศตอนนี้อายุ 9-10 ปี
คุณแม่: ค่ะ
จิตอาสา: ป่วยเป็นอะไรมาครับ
คุณแม่: ป่วยเป็นอะไรครับ
น้องนัฐเมศ: เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองครับ
จิตอาสา: เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเลยเหรอครับแล้วเป็นยังไงมันเจ็บมันยังไงไหม
น้องนัฐเมศ: ไม่มีอาการอะไรเลยครับ
จิตอาสา: ไม่มีอาการเลย เพราะอะไรล่ะทำไมถึงไม่มีอาการ
น้องนัฐเมศ: ไม่รู้เหมือนกันครับ
จิตอาสา: ไม่รู้เหมือนกันนะเอ้า ให้คุณแม่มาช่วยอธิบาย
คุณแม่: น้องเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นที่ 3 ขึ้น 4 นะคะ ก่อนหน้านั้นก็คือไม่มีอาการอะไรจริง ๆ อย่างที่น้องว่า คือไม่มีการป่วยไม่มีอาการอะไรเลย แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็มาบอกว่า หม่าม้า มีก้อนขึ้นที่หน้าขา ขนาดเท่าลูกปิงปองข้างซ้ายค่ะ ขนาดเท่าลูกปิงปองคือปกติเขาอาบน้ำเองเราก็จะไม่เห็น ใส่เสื้อผ้าเอง แล้ววันนั้นเขาคงเจ็บ แล้วก็มาบอกว่านี่มันมีอาการอย่างนี้เกิดขึ้น ก็เลยพาเขาไปหาหมอคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกว่า ตรวจดูแล้วบอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบค่ะ ก็ให้ยาแก้อักเสบธรรมดานี่ค่ะมาทาน แต่พอทานไปวันรุ่งขึ้นขึ้นอีก 2 ก้อนที่บริเวณหลังคอ
จิตอาสา: ทานแล้วขึ้นอีก 2 ก้อน
คุณแม่: ทานแล้วขึ้นต่ออีก 2 จุดที่บริเวณหลังคอนี่นะคะ ก็เลยตัดสินใจว่ามันคงไม่ใช่ต่อมน้ำเหลืองธรรมดา แล้วเข้าไปหาคุณหมอที่ศิริราชแผนกโรคเลือด
จิตอาสา: ครับ
คุณแม่: ก็ขอคุณหมอบอกว่าช่วยเช็คให้นิดหนึ่งแล้วกันเพราะว่าเราทานยาแก้อักเสบแล้วทำไมมันขึ้นคุณหมอก็ดูแล้วว่าอาจจะเป็นโรคอื่น คุณหมอสันนิษฐานก็ดูว่า อาจจะเป็นแค่วัณโรคหรือเปล่าขอเจาะเลือดตรววจอีกครั้งหนึ่ง
จิตอาสา: ครับ
คุณแม่: แล้วก็ให้ทานยาแก้อักเสบตัวเดิมค่ะ เราก็กลับบ้านไปวันรุ่งขึ้น ขึ้นอีกค่ะที่ใต้คางอีก 2
จิตอาสา: อีก 2 เป็น 4
คุณแม่: เป็น 4 รวมกับที่หน้าขา เป็น 5 จุดนะคะ
จิตอาสา: 5 จุด
คุณแม่: 5 จุด ก็ไม่รอแล้วค่ะ ก็วิ่งเข้าไปอีกรอบหนึ่ง ก็วิ่งเข้าไปหาคุณหมอบอกว่า มันไม่น่าใช่แล้ว คุณหมอบอกว่าถ้าอย่างนั้นขออนุญาตตัดชิ้นเนื้อที่บริเวณหน้าขาไปตรวจ
จิตอาสา: ไปตรวจดู
คุณแม่: ไปตรวจค่ะ แล้วก็รอผล ปกติแล้วนี่จะรอประมาณสัก 7-14 วัน ที่โรงพยาบาลศิริราช นะคะ
จิตอาสา: ครับผม
คุณแม่: แต่นี่คือ 3 วัน คุณหมอโทรมาแจ้งกลับมาว่าช่วยพาน้องกลับเข้ามาได้ไหม ด่วน ขอด่วน
จิตอาสา: ด่วนเลย ขอด่วนเลย
คุณแม่: ขอด่วนค่ะ
จิตอาสา: ครับผม
คุณแม่: ขอด่วนเลยช่วยพากลับเข้ามาแล้วคุณหมอก็แจ้งว่า นี่คุณหมอคิดว่าใช่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้ว ขออนุญาตรักษาเลยโดยที่ไม่ทำการสแกน
จิตอาสา: ไม่ต้องสแกนไม่ต้องอะไร
คุณแม่: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ธรรมดาเขาจะต้องมีสแกน
คุณแม่: ค่ะ ใช่ โดยปกติแล้วจะต้องมีขั้นตอนของการสแกนก่อน เพื่อที่จะตรวจดูว่าเป็นระยะที่เท่าไร แต่ของน้องนี่คือบอกว่าคุณหมอบอกขออนุญาตรักษาเลยนะ ก็เลยถามคุณหมอบอกว่า
จิตอาสา: รักษาอย่างไร
คุณแม่: ค่ะ ขั้นตอนการรักษาคือยังไงคุณหมอบอกว่าก็ให้เคมีบำบัดค่ะ
จิตอาสา: ครับ ก็เลยให้ให้หรือเปล่า
คุณแม่: ก็คือ ณ ตอนนั้นนี่สองจิตสองใจ
จิตอาสา: ไม่เป็นไรครับว่ามาเลย
คุณแม่: ณ ตอนนั้นคือสองจิตสองใจว่า มันไม่มีช้อยส์อย่างอื่นให้เราเลือกเลยเหรอ เราจะต้องทำแบบนี้เหรอ
จิตอาสา: มันเหมือนกับว่ามันสุดทางแล้วหรือ
คุณแม่: ใช่ค่ะ ณ ตอนนั้นแต่ว่าก็คือไปศึกษาถึงข้อเสียของการให้เคมีบำบัด
จิตอาสา: ไปศึกษาจากไหนครับ
คุณแม่: ก็คือเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ต
จิตอาสา: ในอินเตอร์เน็ตใช่ไหมครับ ในกูเกิ้ลดู
คุณแม่: ใช่ค่ะ ก็เสิร์ชหาดูว่าตัวยาที่เขาต้องให้ ณ ตอนนั้นคือ ได้ตัวโพรโตคอล คือตัวแผนการรักษามาด้วย หมอให้มา ก็เสิร์ชดูแต่ละตัวว่า ยาเคมีบำบัดที่ให้นี่มันมีผลเสีย กระทบ
จิตอาสา: มีผลข้างเคียงยังไง
คุณแม่: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ครับผม
คุณแม่: ก็แต่ว่าก็รอไม่ได้เพราะมันคือ Stage 3 ขึ้น 4 ค่ะ
จิตอาสา: คุณหมอก็บอกไม่ได้แล้ว
คุณแม่: หมอบอกว่าไม่ได้ ยังไงคือก็ต้องให้ยา เลยก็ตัดสินใจก็ให้รับการรักษาไปก่อน
จิตอาสา: โอเค ให้ยารักษาไปก่อน
คุณแม่: ค่ะ ใช่ค่ะ
จิตอาสา: พอรักษาแบบนั้นแล้วน้องเป็นยังไงบ้างครับ
คุณแม่: รักษาแบบนั้น คือปกติพื้นฐานร่างกายเขา ค่อนข้างที่จะแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย ไม่มีอะไรก็โชคดีว่าตอบสนองกับยาดีไม่มีการแพ้ยา ไม่มีอาการอะไรเลย ไม่อาเจียน ไม่อะไรแต่พอรักษามาได้เรื่อย ๆ ก็มาเจอกับปัญหาที่ว่าเม็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวตกค่ะเม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดแดงต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ถึงตอนนี้เราก็เริ่มมองหาแล้วว่ามันไม่ใช่แล้วระหว่างทางก็มีการมองหาว่ามันมีอะไรที่สามารถที่จะช่วยได้อีก ช่วยการขับพิษ
จิตอาสา: ช่วยการ
คุณแม่: ขับพิษค่ะเพราะว่าเคมีบำบัดเรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องมีการตกค้างในร่างกายค่ะก็มองหาสิ่งที่สามารถที่จะขับพิษออกจากร่างกายให้เขาได้ตอนนั้น คือได้ยาจีนมาก็ทานยาจีนเป็นตัวขับ
จิตอาสา: ใช้ยาจีน
คุณแม่: ค่ะ ใช้ยาจีนขับ ขับเป็นขับความร้อนออกเฉย ๆ ออกจากไตนะคะ แล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ให้ยานี่เขาเกิดอาการหนาวสั่นคือหนาว ตัวนี่แบบร้อนร้อนเลยแต่ว่าหนาว หนาวจนบอกว่า บอกไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว
จิตอาสา: ตัวร้อนแต่หนาว
คุณแม่: ตัวร้อนแต่หนาวสั่นค่ะ ตัวร้อนแต่หนาวสั่น
จิตอาสา: ตัวร้อนแต่หนาวสั่น
คุณแม่: ณ ตอนนั้นคืออยู่โรงพยาบาลกันเป็นเวลาตอนนั้น เป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม คุณหมอก็ไม่อยู่แล้ว แพทย์ประจำบ้านก็ไปไหนไม่ทราบ
จิตอาสา: ไม่อยู่ อยู่แต่พยาบาล
คุณแม่: ค่ะ ก็อยู่แต่พยาบาลก็ได้ตัวยาลดไข้ไทลินอลมา พอเขาทานเข้าไปเสร็จเขาบอกมันก็ยังหนาว คือหนาวจนบอกว่าไม่ไหวแล้วพยาบาลก็ไปหาผ้าห่ม แล้วก็กระเป๋าน้ำร้อนมาให้อัง เขาบอกไม่ใช่ มันไม่ได้หนาวข้างนอก
จิตอาสา: มันหนาวข้างใน
คุณแม่: มันหนาวข้างใน เขาบอกว่ามันหนาวข้างในนะหม่าม้า หนาวข้างใน เราก็ตอนนั้นก็คือฉุกคิดขึ้นมาบอกว่าแล้วมันมีอะไรที่จะช่วยได้ ก็คือ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อเรื่องการกดจุดนะคะ
จิตอาสา: กดจุดลมปราณ
คุณแม่: ก็เลยไปหาเสิร์ช คือเสิร์ชตอนนั้นเลยเสิร์ชตอนนั้นเลยว่ามีอะไรได้บ้าง ก็เสิร์ชไปเจอคำว่า กดจุด ก็ไปเจอของหมอเขียวนี่ล่ะค่ะขึ้นมา โผล่ปึ๊งขึ้นมา
จิตอาสา: อ๋อ กดจุด แต่เจอหมอเขียว
คุณแม่: ไม่รู้เหมือนกัน ก็งงมากค่ะตอนนั้น คือแบบเจอปึ๊งขึ้นมาเลย
จิตอาสา: พอเจอหมอเขียวแล้ว
คุณแม่: ก็กดเลยค่ะ กดขาให้เขา
คุณปรีชา: กดจุดตามหมอเขียว
คุณแม่: ตามตรงนั้นเลยค่ะ ณ ตอนนั้น ก็คือกดตามนั้นเลย กดที่ขา
จิตอาสา: กดที่ขาก่อน
คุณแม่: กดที่ขาก่อนเลยเพราะว่าเขาบอกว่าเขาหนาวที่ขาก็กด กด ๆ ไล่ไป สักพักหนึ่งเขาบอกว่า เออ มันเริ่มอุ่นขึ้นนะ บอกหม่าม้ามันเริ่มอุ่นขึ้นนะ ก็โอเคก็แสดงว่าอย่างนั้นแสดงว่าใช่ ก็เริ่มเอาแล้วมาหา คือใครนี่
จิตอาสา: หมอเขียวนี่คือใคร
คุณแม่: คือใครนี่ แล้วก็
จิตอาสา: ก็เข้าเว็บไซต์หมอเขียว
คุณแม่: ก็เริ่มเข้าเว็บไซต์เลยค่ะ ก็เข้าเว็บไซต์แล้วก็ลองกับตัวเอง คือเริ่มตั้งแต่การกดจุดลมปราณทำตามในยูทูปเลยทุกอย่าง
จิตอาสา: ทำตามยูทูปเลย
คุณแม่: ทุกอย่างเลยค่ะ ไล่จุดตัวเองทุกอย่าง พอทำเสร็จ
จิตอาสา: อันนี้ประมาณตอนช่วงไหนแล้ว ประมาณสักเดือนไหน
คุณแม่: อันนี้ คือประมาณครึ่งปีมาแล้ว
จิตอาสา: ครึ่งปีมาแล้ว 6 เดือนที่แล้ว
คุณแม่: ค่ะ 6 เดือนที่แล้ว ครึ่งปีมาแล้ว
จิตอาสา: ก็กดจุดลมปราณ
คุณแม่: กดจุดลมปราณแล้วรู้สึกว่า โอ้โห มันเออไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเส้นลมปราณของคนเรานี่ถ้าไล่ให้ถูกจุดแล้วนี่มันสามารถที่จะทำให้ร่างกายเราเบาสบายได้ขนาดนี้ ค่ะ หลังจากนั้นก็คือเริ่มค่อย ๆ มา ศึกษายาตัวอื่น เม็ดอื่น
จิตอาสา: เม็ดอื่นของคุณหมอ
คุณแม่: ใช่
จิตอาสา: เข้าลึกไปอีก
คุณแม่: เข้าลึกลงไปอีกแล้วก็ได้ลองให้น้องทำด้วย เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งกลับบ้านน้องไข้ขึ้น ไข้ขึ้นอีกสูงค่ะก็ไม่เอาแล้ว ไม่ทานยาแล้ว
จิตอาสา: ไม่ต้องทานยาแล้ว
คุณแม่: ไม่ต้องทานยาแล้วค่ะ
จิตอาสา: แต่กดจุด
คุณแม่: ไม่กดจุดแล้วค่ะ ตอนนี้คือจับพอก
จิตอาสา: ใช้ยาเม็ดอื่นแล้ว
คุณแม่: จับพอกค่ะ ใช้ผงพอก พอกทั้งตัวพอพอกเสร็จเขาก็
จิตอาสา: พอกด้วย
คุณแม่: พอกด้วยผงพอกสมุนไพร
จิตอาสา: อันนี้ยังไม่ได้เข้าคอร์สเลยใช่ไหมครับ
คุณแม่: ยังไม่ได้เข้าค่ะ
จิตอาสา: ศึกษาจากยูทูป
คุณแม่: ใช่ค่ะ จับน้องพอก เสร็จปั๊บก็จับเขาล้างตัวเสร็จ เขาบอกเออ ผิวข้างนอกนี่คืออุณหภูมิลดลง ลดลงเสร็จแต่ว่าข้างในยังรู้สึกว่ายังร้อนอยู่ จับดีท็อกซ์ค่ะ
จิตอาสา: จับดีท็อกซ์เลย
คุณแม่: จับดีท็อกซ์ต่อ พอจับดีท็อกซ์เสร็จปั๊บจับผิวเขาคือ เย็นลงทั้งตัว
จิตอาสา: เย็นลงเลย แค่ดีท็อกซ์นี่นะ
คุณแม่: เย็นลงทันทีค่ะ เย็นลงทันที ก็เลยบอกว่า เอาล่ะ ถูกแล้วเรามาถูกทาง
จิตอาสา: เขายอมให้ดีท็อกซ์
คุณแม่: ณ ตอนนั้นไม่มีทางเลือกค่ะเพราะว่าเขารู้สึกทรมาน เขาอึดอัด
จิตอาสา: อ๋อเขาอึดอัดครับ
คุณแม่: เขาอึดอัดค่ะ ก็เลยจับเขาดีท็อกซ์ ก็โอเค ก็คือ ณ ตอนนั้นก็คือผ่านมาได้หลังจากนั้นก็มาศึกษาดูว่าไอ้สารพิษตกค้างนี่ เราจะทำยังไงกับมันได้ก็นี่ค่ะมาเจอ ก็ย่านางต่อด้วยย่านาง
จิตอาสา: ก็ต่อมานะครับเป็นน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด
คุณแม่: เป็นน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด
จิตอาสา: ชอบทานเลยหรือเปล่า ชอบทานไหมชอบเหรอ หรือไม่ชอบ
น้องนัฐเมศ: กลาง ๆ ครับ
คุณแม่: ทานบ้าง
จิตอาสา: ทานบ้างไม่ทานบ้าง
คุณแม่: ทานบ้างไม่ทานบ้างค่ะ ก็มีตามด้วยการกัวซา
จิตอาสา: กัวซาด้วยแล้วกัวซายังไง ดูยูทูปอีกเหมือนกัน
คุณแม่: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ว่าวิธีกัวซาทำยังไง
คุณแม่: ดูแบบละเอียด คือดูหลายรอบเพราะว่าเราไม่มั่นใจกับการกัวซา
จิตอาสา: แล้วน้ำมันหรืออะไรนี่ ทำยังไงเรา
คุณแม่: ใช้น้ำค่ะ
จิตอาสา: อ๋อใช้น้ำก่อน
คุณแม่: ตอนนั้นคืออยู่โรงพยาบาล แล้วก็ไม่มีอะไรเลย
จิตอาสา: อ๋อ ยังอยู่โรงพยาบาล
คุณแม่: ไม่มีอะไรเลยค่ะ ไปหาซื้อไม้กัวซาข้างนอกโรงพยาบาลนั่นล่ะค่ะ
จิตอาสา: มีไหม
คุณแม่: มีค่ะ
จิตอาสา: อ้อ มีไม้กัวซา
คุณแม่: มีไม้กัวซาก็เอาเลยค่ะกัวซาจับกัวซาเลย
จิตอาสา: แล้วกัวซาแล้วน้องเขาเป็นยังไงสบายไหม คุณแม่กัวซาให้
คุณแม่: สบายไหม
น้องนัฐเมศ: สบายครับ
จิตอาสา: จะให้คุณแม่กัวซาบ่อย ๆ ไหมพยักหน้าให้หลายที อย่างนั้นต่อครับ
คุณแม่: แต่มีอยู่อันหนึ่งที่ยังไม่มีอยู่ 2 ข้อที่ยังไม่ได้ คือเรื่องอาหารที่ปรับสมดุลกับเรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะที่เขายังไม่ยอมทำค่ะ
จิตอาสา: ก็ต้อง อันนั้นต้องใช้เทคนิคนิดหน่อยผสมน้ำมะพร้าว
คุณแม่: แล้วก็เมื่อคืนนี้เองสด ๆ ร้อน ๆ ไข้ขึ้นค่ะ
จิตอาสา: ไข้ขึ้นอีก แล้วทำยังไง
คุณแม่: ไข้ขึ้นเมื่อคืนนี้ในค่ายนี่ค่ะ ไข้ขึ้น ก็ตอนแรกก็ดีท็อกซ์ด้วยผงถ่าน
จิตอาสา: ครับ
คุณแม่: ค่ะไข้ก็ยังไม่ลง ก็ให้ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดพอดื่มปั๊บ เขาก็มีไข้ขึ้นมาอีก แล้วก็บ่นเท้าเย็น เท้าเย็นเราก็เอาแล้วร้อนพันเย็น
จิตอาสา: ร้อนเย็นพันกัน ใช่
คุณแม่: ร้อนเย็นพันกันแน่นอน ก็เลยบอกว่าก็ถามป้านิด ป้านิดบอกว่า งั้นเอาน้ำตะไคร้ใส่ลงไป ลองดื่มดูดื่มเข้าไป พอดื่มลงไปเสร็จก็เท้าอุ่น แต่ไข้ยังมี
จิตอาสา: ไข้ยังมี
คุณแม่: ค่ะอาการไข้ยังมีค่ะ เพราะฉะนั้นก็บอกว่า งั้นดื่มน้ำปัสสาวะเถอะ
จิตอาสา: ครับก็เลยดื่มน้ำปัสสาวะใคร
คุณแม่: ของใครครับ
น้องนัฐเมศ: ของผมครับ
จิตอาสา: แล้วคราวนี้มี
คุณแม่: เมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว
จิตอาสา: เมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว อ้อ ไม่เป็นไร
คุณแม่: แล้วเขาบอกว่าเขาทรมาน ไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ยอมดื่ม
จิตอาสา: พอเขาทานเข้าไป
คุณแม่: พอดื่มเสร็จปั๊บประมาณสัก 15 นาที ถ่ายท้องค่ะ ลุกขึ้นไปถ่ายลุกขึ้นไปถ่ายเสร็จเดินกลับมาปั๊บเราก็จับตัวเขาดูอยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ คือมัน
จิตอาสา: สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นแล้ว
คุณแม่:มัน มันเหลือเชื่อมาก เพราะว่ามันอุณหภูมิในร่างกายลดเร็วกว่าทานยาลดไข้อีกค่ะ
ไม่น่าเชื่อ
จิตอาสา: ลดเลยนะครับ
คุณแม่: ลดทันทีค่ะ แปลกใจมากว่ามันลดได้ทันทีเลย
จิตอาสา: ทั้ง ๆ ที่ปัสสาวะที่เขาทานเข้าไปเอง บางคนก็กังวลนะ ว่าปัสสาวะเขาก็จะร้อน
คุณแม่: ค่ะ เขาก็บ่นว่าร้อนค่ะ แต่ว่าก็ยอมทาน
จิตอาสา: ร้อนเหมือนกัน แต่ว่าก็ยอมทาน
คุณแม่: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: นะผมคิดว่า มันมีหลายท่าน บางคนบอกตัวเองเป็นเบาหวานจะทานปัสสาวะตัวเองได้หรือเปล่า นี่ครับตัวอย่างน้องชัด ๆ ก็ลองดู ลองดูครับผมแล้วคราวนี้มาเข้าค่ายครั้งนี้นี่เป็น
คุณแม่: ครั้งแรกค่ะ
จิตอาสา: ครั้งแรกเลย
คุณแม่: ค่ะ
จิตอาสา: ชอบข้าวต้มนะที่มื้อเช้า มื้อเช้านี่จะอร่อยที่สุด
คุณแม่: ตอนแรกที่มานี่ยังกังวลเรื่องอาหาร เพราะว่าปกติเขาจะทานแต่เนื้อสัตว์แล้วก็ผักนี่แทบจะนับชิ้นได้
จิตอาสา: อ๋อ ไม่ค่อบชอบทานผัก
คุณแม่: ค่ะ ไม่ชอบทานผักเลย ผลไม้นี่ก็ไม่ทานเหมือนกันค่ะ
จิตอาสา: อ๋อ ครับ
คุณแม่: ยังกังวลว่าจะอยู่ไหวไหม แต่บอกมาก่อนล่วงหน้าว่าอาหารในค่ายไม่อร่อยนะลูก
จิตอาสา: แต่เขาก็อยู่ไหว
คุณแม่: แต่เขาก็ เมื่อกี้เมื่อสักครู่เขามาบอกว่าไหนหม่าม้าบอกว่าอาหารไม่อร่อย
จิตอาสา: แสดงว่าอร่อยทุกมื้ออร่อยทุกมื้อหรือเปล่า (น้องนัฐเมศพยักหน้า) อร่อยทุกมื้อ ก็สุดท้ายจะมีอะไรฝากให้มวลสมาชิกของเรา กับแนววิถีธรรมนี้ 9 เม็ด ยาเม็ด 9 ข้อนี้
คุณแม่: ก็ยาเม็ด 9 ข้อ ข้อแรกที่สุดเลยที่ตัวเองผ่านก้าวมาได้ที่ทำได้คือข้อที่ 8 ค่ะ ทำใจให้สบาย ตอนที่ลูกเป็นนี่คือบอกตามตรงว่าเครียดกันทั้งบ้านค่ะ แล้วกว่าจะข้าม ก้าวข้ามตรงนั้นมาได้นี่ คือทำใจกันลำบากมากแต่สุดท้ายแล้วเราคิดว่าถ้าเราทำดีที่สุดแล้วหาหนทางที่ดีที่สุดให้เขาแล้ว แล้วถ้าเกิดเขายังไม่สามารถที่จะ
จิตอาสา: ผลจะเป็นยังไงนะ
คุณแม่: ผลจะเป็นยังไงก็เรายอมรับ
จิตอาสา: เรายอมรับ
คุณแม่: เรายอมรับตรงนั้น ก็คือผ่านตรงนั้นได้พอผ่านตรงนั้นได้แล้ว มันมาเองค่ะ
จิตอาสา: ทุกอย่างมาหมดทุกอย่างสมูทหมด
คุณแม่: ทุกอย่างมาเอง ค่ะ
จิตอาสา: โอเคครับงั้นก็ต้องขอขอบคุณน้องนัฐเมศนะครับ