1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.52 |
ชื่อ | พรปวีร์ จันทร์อุไร |
เพศ | หญิง |
โรค | โรคเนื้องอกต่อมน้ำเหลืองบริเวณหลังหูคอบ่า |
วันสัมภาษณ์ | 15 กุมภาพันธ์ 2556 |
คุณพรปวีร์: กราบนมัสการพระคุณเจ้า แล้วก็นักบวชทุกฐานะนะคะแล้วก็กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่รักสุขภาพทุกท่านนะคะดิฉันชื่อ นางสาวพรปวีร์จันทร์อุไร นะคะปัจจุบันเป็นนักศึกษา ป.โท จากสาขาสังคมศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะก็จะมาถ่ายทอดประสบการณ์การเจ็บป่วยของตัวเองนะคะก็เริ่มตั้งแต่ตอนปี 2 ค่ะปี 2 นี่ เคยมีปัญหาสุขภาพก็คือต่อมน้ำเหลืองบริเวณหลังหูแล้วก็คอแล้วก็บ่านี่คะ โตพร้อมกัน 3 ที่เลย แต่ว่าตอนนั้นก็คือด้วยตัวเราเรียนอยู่ในโรงพยาบาลด้วยก็คือตอนนั้นเรียนแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ศิริราชค่ะเราก็ถูกปลูกฝังมานะ เจ็บป่วยอะไรก็ต้องไปหาหมอ เราก็ไปหาหมอแผนปัจจุบันค่ะแล้วหมอแผนปัจจุบันก็บอกว่าให้เราทานยาแก้อักเสบ ถ้า 1 อาทิตย์ไม่หายนี่หมอเขาก็จะนัดเจาะชิ้นเนื้อ เนื้องอกที่มันโตออกมาไปตรวจค่ะทีนี้พอเสร็จแล้วทานไป 1 อาทิตย์มันไม่หายค่ะแล้วมันก็โตเพิ่มขึ้นเป็นจุดที่ 4 ก็คือเรารู้สึกได้ว่ามันโตขึ้นภายในค่ะก็คืออาการมันนี่มันจะมีอาการแบบมันเต้นได้ค่ะต่อมมันแบบมันเต้นแล้วมันก็โตขึ้นค่ะแล้วทีนี้เราก็เลยตัดสินใจหมอแผนปัจจุบันไม่ได้แล้วเราก็เลยตอนนั้นไปกินยาสมุนไพรแล้วก็งดอาหารแสลงด้วยสำหรับโรคที่เราเป็นนะคะแล้วทีนี้พอเสร็จแล้วพอเราก็ปฏิบัติตัวดีอยู่ 2 ปีก็ดีขึ้น มันต่อมน้ำเหลืองมันก็ยุบลงค่ะ
แต่เราก็รู้สึกได้ว่าตัวเรามันยังไม่หายขาด เพราะรู้สึกว่ามันยังมีกับระเบิดอะไรสักอย่างที่มันอยู่ในตัวเราอยู่ตลอดเวลา เราก็จะเป็นหมือนโรคจิตเบา ๆ ต้องคอยระวังว่าฉันกินอาหารแสลงแล้วต่อมจะโตไหมอะไรอย่างนี้ก็จะคอยแบบจับคอตัวเองตลอดเวลาอย่างนี้ค่ะแล้วช่วงนั้นพอดี 2 ปีก็ไปเจอคุณหมอเขียวที่งานสมุนไพรแห่งชาตินะคะ ที่เมืองทองธานีตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้จักแบบเป็นทางการนะคะก็คือเห็นบูธแล้วก็ตกใจ เอ๊ะ ทำไมคนมุงกันเยอะจังมีน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดแล้วคนก็มุงกันแบบมากมายอย่างนี้ค่ะ เราก็เลยไปยืนฟังเออ เราก็ฟัง อืม แนวคิดดีนะ แล้วก็มีทานสมุนไพรปรับสมดุลด้วยตอนนั้นก็คือเรายังอยู่ปี 4 เราก็เลยลองทานน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดก่อนแล้วพอหลังจากที่เราเรียนจบแล้วนี่เราก็ต่อ ป.โท สาขาสังคมศาสตร์การแพทย์ ก็เลยเลือกที่จะทำวิจัยที่ค่ายคุณหมอเขียวนี่ล่ะค่ะ ก็เลยมาศึกษายา 9 เม็ดแบบเต็มรูปแบบค่ะก็เริ่มศึกษาที่สวนป่านาบุญ 3 ค่ะ ปทุมธานีพอเราเข้าไปถึงตอนนั้นก็คือเราก็สุขภาพมันก็ยังไม่ค่อยดี เหมือนระบบน้ำเหลืองเราก็ยังไม่เข้าที่ค่ะพอไปถึงเราก็ไปศึกษาว่าเขาทำอะไรบ้าง
ก็เริ่มตั้งแต่น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดเราก็เอากลับมาทำ เราก็จะทำแบบเข้มข้นเลยค่ะก็ใช้ตามที่ได้ฟังมา ก็จะมีย่านางผักบุ้งใบอ่อมแซบแล้วก็มีเสลดพังพอนที่บ้านปลูก แล้วก็ใช้รางจืดด้วยก็คั้นเข้มข้นแล้วเราก็ดื่มที่ได้ผลนี่สมุนไพรฤทธิ์เย็นสดที่เราเห็นชัดนี่ตอนนั้นก็คือเพื่อนชวนไปกินอาหารทะเลค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์แล้วเราก็คิดว่าเราหายแล้วก็กินเข้าไป กุ้ง ปลาหมึก จัดเต็มเลยพอเสร็จแล้วกลับบ้านมา รู้สึกว่าต่อมที่มันเคยโตมันอักเสบค่ะมันรู้สึกมันโตขึ้นมานิดหนึ่งเราก็ เอ๊ะ ทำยังไงดี เราก็เลยไปกินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดพอกินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดเสร็จไม่น่าเชื่อเลยค่ะคือ 2 วันมันยุบแบบยุบหายไปเลย แล้วมันก็ไม่มีอาการอีกเลยค่ะคือข้างในเราก็เย็นปกตินะคะค่ะแล้วพอต่อไปที่ได้ทำก็คือดีท็อกซ์ ก็คือตอนแรกนี่เราก็คุยกับเคสนะ เคสเขาก็ไม่คุยกับเรา เพราะว่าเรายังไม่ได้ดีท็อกซ์ เขาบอกว่านี่ร่างกายเราสกปรกเขาไม่คุยด้วยเราก็เลยด้วยความเป็นนักวิจัยค่ะก็เลยต้องทำทุกอย่าง เราก็เลยเอาวะกลับไปดีท็อกซ์ ตอนนั้นไปกับเพื่อนด้วยก็เลยลากเพื่อนดีท็อกซ์พร้อมกันเลยค่ะ ตอนนั้นก็ไปดีท็อกซ์พร้อมเพื่อนพอดีท็อกซ์เสร็จปัญหาสุขภาพของเราอีกอย่างหนึ่งนี่ที่เราไม่เคยสังเกตตัวเองเลย ก็คือเราชอบท้องผูกค่ะพอเราดีท็อกซ์เสร็จวันแรกนี่คือเรามีเทคนิคก็คือค่อย ๆ ปล่อยสายนะคะบีบ ๆ สายไว้ แล้วเราค่อย ๆ ปล่อยให้มันค่อย ๆ เข้าแล้วพอเสร็จแล้วเราจะนอนแล้วเราก็นวดท้องทวนเข็มนาฬิกาค่ะ แล้วเราก็จะอั้นไว้มันจะมีแบบพอถึงจุดมันจะมีลมออกมาที่แบบโอ๊ย อยากถ่ายมากแบบปื๊ดขึ้นมาอย่างนี้เราก็จะยืนขึ้นเลยค่ะแล้วเราก็จะแบบบิดตัวไปมาอย่างนี้ทีนี้พอเสร็จแล้วพอสักพักหนึ่งลมนั้นก็หายไป เราก็นอนพักต่อพอเสร็จแล้วก็ปื๊ดขึ้นมาอีกเราก็ เฮ้ย เอาแล้ว ต้องได้ 10 นาทีตามหลักการเราก็ เราก็เปลี่ยนท่าทีไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แล้วพอเสร็จแล้วก็พักอีก พอถึงเวลา 10 นาทีแล้วเราก็ถ่ายมันไม่น่าเชื่อเลยค่ะลองสังเกตดูนะคะ ถ้าอั้นได้ 10 นาทีนี่มันไม่ใช่แค่อุจจาระที่ออกมานะคะคือมันจะเป็นติ่งไขมันออกมาด้วยซึ่งเราแบบตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นค่ะ เราก็เลยดูว่า เอ๊ะ มันออกมาได้ยังไงเราก็รู้สึกว่าพอทำเสร็จนี่เราก็จะกินน้ำด่างปรับสมดุลด้วยก็รู้สึกว่าตัวเบาอย่างนี้ค่ะแล้วประสบการณ์ล่าสุดในค่ายเลยค่ะ
ด้วยแรงกดดันนะคะที่บ้านหนูกินฉี่กันทุกคนเลยค่ะ แต่ว่าตอนแรกหนูยังไม่กล้ากินนะคะหนูก็แบบ เอ๊ะ ทำไมเขากินฉี่แต่ละคนก็แบบวันนี้กินฉี่แล้วอาการดีมากเลยอีกคนก็ฉันเอาไปหมักผมผมฉันดำมากเลยเราก็อุ๊ยเราจะเอาอะไรไปพูดกับเขาดีนะ เราก็นั่งคิดอยู่ ก็คือเมื่อเช้านี้ค่ะก็เลยลองดู เราก็ฉี่ทิ้งไปนิดหนึ่งนะแล้วก็ฉี่ไว้อีกนิดหนึ่งแล้วทีนี้พอดีที่นิ้วค่ะเป็นแผลเราก็เลยลองจุ่มดู พอจุ่มเสร็จจากที่มันบวมตอนแรกในมโนของเรานี่เราก็คิดว่าเราแสบเราก็คิดว่ามันต้องแสบแน่เลยฉี่จุ่มไปมันอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อค่ะคือแบบจุ่มไปมันละมุนนิ้วมาก คือแบบพอจุ่มไปจากที่เราบวม ๆ อยู่นะ พอจุ่มไปมันหายเลยค่ะแล้วทีนี้พอเสร็จแล้วเราก็แบบ เอาล่ะจุ่มแล้วเอาแล้ว เห็นคุณป้านิดดาบอกว่าทาแล้วผิวสวย ด้วยความอยากสวยเราก็เลยเอามาทาบ้าง พอทาเสร็จ เอ๊ะ มันไม่ครบสูตรต้องกินด้วยนะก็เลยชิมไปก็ชิมไปความรู้สึกแรกก็มันก็รสแปร่ง ๆ นิดหนึ่งค่ะแล้วมันก็มีเหมือนกลิ่นหัวไชเท้าเบา ๆ ออะไรอย่างนี้ค่ะเราก็ชิมค่ะ ด้วยความกล้านี่เราก็ชิมแล้วเราก็มีประสบการณ์ที่จะมาแชร์กับเพื่อน ๆ ทุกคนแล้วค่ะ ตอนนี้ก็รู้สึกภูมิใจมากที่เราทำได้ครบ 9 เม็ดส่วนเม็ดอื่น ๆ นี่ก็คือที่บ้านก็คือจำทำประจำอยู่แล้วค่ะ ส่วนเรื่องอาหารปรับสมดุลนี่เราก็ยอมรับว่ายังทานเนื้อสัตว์อยู่นะคะแต่จากวีดิโอเมื่อกี้นี่อยากจะอโหสิกรรมกับสัตว์ที่เราทานมาตลอด 24 ปีเลยค่ะเรากะว่าถ้าเราออกนอกค่ายไปนี่ก็จะค่อย ๆ ลดค่ะ ค่อย ๆ ลดละแล้วก็ในที่สุดก็คิดว่าวันหนึ่งคงจะเลิกได้ค่ะ
จิตอาสา: โอเคครับครับผมก็คงต้องขอขอบคุณคุณพรปวีร์นะครับ
คุณพรปวีร์: เดี๋ยวขอฝากอะไรนิดหนึ่งนะคะ
จิตอาสา: จะฝากอะไรครับ มีอะไรจะฝาก
คุณพรปวีร์: ก็มีอย่างหนึ่ง ก็อยากจะฝากทุกท่านไว้ด้วยนะคะ สิ่งสำคัญที่ทุกท่านได้กลับไปจากค่ายนี้ก็คือสุขภาพที่ดีนะคะ แต่สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าสุขภาพที่ดีก็คือองค์ความรู้ที่ทุกท่านได้ไปค่ะ ทุกท่านนี่ได้อำนาจในการเป็นหมอด้วยตัวเองด้วยเท่านั้นไม่พอนะคะ ทุกท่านก็ยังสามารถใช้องค์ความรู้ในค่ายนี้ไปเผยแพร่ให้คนอื่นได้ทำต่อไปนะคะ ก็หวังว่าทุกท่านคงจะมีสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืนค่ะขอบคุณค่ะ
จิตอาสา: ครับก็ขอขอบคุณคุณพรปวีร์มากนะครับ