1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
| กรณีศึกษาที่ | 1.99 |
| ชื่อ | เด็กชายธนพร ต้นสายเพ็ชร |
| เพศ | ชาย |
| อายุ | 9 ปี 6 เดือน |
| อาการ | โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว |
| วันสัมภาษณ์ | 4 สิงหาคม 2555 |
เด็กชาย ธนพร ต้นสายเพ็ชร อายุ 9 ปี 6 เดือน โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว All ชนิดเฉียบพลันเป็นตั้งแต่ 2 ขวบ 11 เดือน ตรวจพบที่เอกชนจึงย้ายไปรักษาที่จุฬา แพทย์บอกว่าถ้าโชคดีเป็นติดเชื้อไวรัสที่ไขกระดูก แต่ถ้าไม่ใช่ก็มะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยปิงปิงมีอาการหนาว ทั้งที่เป็นช่วงเดือนเมษายน ต่อมาจึงมีไข้ ที่ฝ่าเท้าไม่มีสีเลือด พอเจอมีไข้สูงจึงไปหาหมอให้ยาลดไข้มากิน ไข้ลดลง
แต่มีจ้ำขึ้นที่ขาสองข้าง เป็นตุ่มแดงประมาณสิบเม็ด โดยคิดว่าเป็นไข้เลือดออก แต่หมอบอกว่าต้องปรึกษาหมอเกี่ยวกับโรคเลือด ผลเลือดออกมาว่าเป็น ใช้เวลารักษา 3 ปีการให้ยาไม่มีผล เพราะการดูแลเรื่องอาหารเป็นอย่างดีตั้งแต่เกิดหลัง 6 เดือนก็มีอาการลูกอัณฑะโต พอต้นปี 2552 แค่ 20 วันเจาะไขกระดูกต้องผ่าตัดออกมา มีอาการช็อคหงายหลังไปเลยเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ปิงปิงมีความกังวลตอนเจาะไขกระดูกไม่หลับ น้องกลับมาให้ยาเหมือนเดิม
เป็นความโชคดีของปิงปิงที่อ่านเจอหนังสือย่านาง คู่กับการให้ยาแล้วได้ทำน้ำสกัดย่านางเอง โดยคำแนะนำของอาจารย์หมอเขียว ฉีดพ่นที่แผลผ่าตัด อาการอับเสบก็หายไปมีบางช่วง หมอให้ยาสเตียรอยด์ เพื่อต้านยาแก้อักเสบทำให้เขากินอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ถ่ายมากขึ้น จนเกิดฝีที่ทวาร จึงให้แช่น้ำสมุนไพรฝีแตก ทำให้เขาสบายมากขึ้นแต่ยังมีหนองอยู่ตลอดเวลา จึงต้องผ่าตัดเพื่อเอาหนองออกมาให้หมด กินลึกเข้าไปถึงลำไส้ ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างรุนแรง อาจารย์หมอให้ทำน้ำสกัดใช้เองที่บ้าน คุมอาหารได้ แต่อยู่ที่โรงเรียนกินเนื้อสัตว์ แต่เขาจะเริ่มรู้ว่าเขาจะต้องงดอะไรบ้าง
ไปดูแลตัวเองที่อินเดียประมาณ 6 เดือน ตัวเขาเข้มแข็งมากจึงให้ฝึกโยคะ สิ้นปี 2554 ขอคำแนะนำจากหมอเขียว ตั้งใจให้เขาไปเรียนต่อที่อินเดียเพื่อให้ออกห่างจากเทคโนโลยี และให้อยู่กับธรรมชาติ แต่ปิงปิงแข็งแรงมาก เพราะใช้ย่านางคู่กับเคมีบำบัด พอครั้งที่สามนี้หมอบอกว่าการให้ยาอย่างเดียวไม่พอ เราไม่ได้ใช้ฉายรังสีที่สมอง แต่เราไม่ทำ เซลล์มะเร็งจะอยู่ในน้ำรอบ ๆ สมองในเวลาไม่กี่สัปดาห์แสดงว่าสองครั้งที่ให้ยาจะต้องเพิ่มยาตลอด ถ้าคำนึงถึงสุขภาพลูกเป็นหลัก หมอก็เห็นดีด้วยค่าใช้จ่ายรักษาไขกระดูก สามล้านบาท รับรองหายแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่จะหาย แล้วจะเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ มากมาย เปลี่ยนระบบภูมิต้านทาน น้อยคนที่จะมีอาการดี เราจึงเลือกที่จะมาทางเลือกแต่กับปิงปิง ได้ลองใช้หลาย ๆ อย่าง ชีวจิตด้วย ให้วิตามินทางเส้นเลือด อาการไม่ดีขึ้นโรงพยาบาลไม่ให้ความจริง แต่เราถามรายละเอียดรู้ว่าปิดบังเราจึงเลิก กลับบ้านมาปฎิบัติแบบง่าย ๆ ย่านางอยู่กับบ้าน แช่มือแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น
แต่คุณพ่อยังไม่เชื่อ จึงอธิบายแล้วโทรหาหมอเขียว อาจารย์หมอเขียวจึงแนะนำว่าจะมารักษาทั้งสองทางก็ได้ หรือจะให้อาจารย์หมอดูแลอย่างเดียวก็ได้ ถ้าคนคนหนึ่งจิตใจเข้มแข็งที่จะสามารถดูแลตัวเองได้ขนาดนี้ ก็น่าจะดีขึ้นได้ เรื่องฉี่เข้าใช้ร่วมด้วยก็ดี ก่อนปีใหม่เรามาที่นี่ แช่สมุนไพรทั้งตัว ทำไม่กี่วันเขาขอไปเรียนได้ ตอนเช้าแช่ มาพอก แช่ ทำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด พร้อมฉี่เราปฏิบัติตัวมาก่อนสามสัปดาห์ มีการหยอดตา หยอดหู แช่ตัว พอทานอาหารข้างนอกเขาจะมีอาการ ปิงปิงจะรู้ตัวเองว่า อาหารแสลง เมื่อวานทานสลัดได้ดี ปิงปิงทำดีทอกซ์ กัวซา ทานอาหารสุขภาพแล้วดีขึ้น ได้ลงฐานงานสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด ทำได้ตอนรักษากับหมอไม่เจ็บ ชอบอาหารที่นี่ ไม่ค่อยทำโยคะ อาจารย์ดูสภาพแล้วทำได้ 60 เปอร์เซ็นต์ ก็กินปลาได้นิดหน่อยทำใจได้กับอาหารตอนนี้สบายดี
คุณพ่อรับจ้างทำงานที่โรงแรมแถบชลบุรี ให้ภรรยาดูแลปิงปิง เราเชื่อว่าต้องหายเป็นอีกทางเลือกอีกทาง ดีกับลูกด้วยก่อนมาสองสัปดาห์ดูแล งดเนื้อสัตว์ เราก็งดด้วยทั้งครอบครัวเป็นเพื่อนปิงปิงด้วย รักษาพร้อม ๆ กัน โชคดีเป็นเด็กเปิดใจ พอทำแล้วดีก็เชื่อฟังดี เราก็ให้กำลังใจให้ดีกับครอบครัวละลูกเราหาวิธีที่ดีที่สุด
คุณแม่ปิงปิง ก่อนที่จะมาเราก็รักษาทางนี้เราก็ได้ลองใช้แล้วไม่ดี จนเราหาทางเลือกอีกทางแล้วค้นหาเจอก็ต้องลองว่าอะไรเหมาะกับเรามากที่สุด