ดาวน์โหลดใบสมัครพรรคสัมมาธิปไตย กดที่นี่  ดูรายละเอียดการสมัคร กดที่นี่

2. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ

ระหว่างปี .. 2553 – 2558

(ประเภทข้อมูลที่ 10 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)

ภาคผนวก ก ของวิทยานิพนธ์การศึกษาตามหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (สาธารณสุขชุมชน)

ของ นายใจเพชร กล้าจน

กรณีศึกษาที่2.27
ชื่อนางสาวแก้วเกื้อกูล สุภิวงค์
เพศหญิง
อายุ54 ปี
จังหวัดนครพนม
โรคโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงซีกซ้าย
วันสัมภาษณ์2 มีนาคม 2558

อาการป่วยปลายปี 2556 อาการที่เป็นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซีกซ้าย มีอาการร่างกายซีกซ้ายใช้งานไม่ได้ ทรงตัวไม่ได้ ตามองไม่เห็น กระพริบตาไม่ได้ ปากเบี้ยว สาเหตุเกิดจากมีความเครียดสะสม นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ติดต่อกันนานหลายวัน

วิธีการดูแลรักษาตัวเอง คือ

1. ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น พร้อมกับน้ำปัสสาวะบางครั้ง
2. กัวซา หัว ใบหน้า
3. ดีท็อกซ์ เมื่อมีอาการ เริ่มแรกจะทำทุกวัน เช้า-เย็น
4. พอกหน้า บางครั้งแต่ไม่บ่อย
5. แช่มือแช่เท้า ไม่ค่อยบ่อย
6. โยคะ
7. อาหารทานแบบสุขภาพ งดรสเผ็ด รสจัด
8. ช่วงเวลาที่ป่วยได้ศึกษาธรรมะมากขึ้น ได้ทบทวนธรรม ใคร่ครวญธรรม ที่ผ่านมาเครียดมาก เพราะยังศึกษาไม่มากพอไม่รู้จักกิเลส ล้างกิเลสไม่เป็น พอได้รับธรรมะจากอาจารย์ ที่ว่า “อย่าสร้างเงื่อนไขให้ใจเป็นทุกข์” “สิ่งที่เราได้รับเพราะเราเคยทำมามากกว่านั้น” แล้วรู้จักการ ลดกิเลส เพิ่มอธิศีลขึ้นเรื่อย ๆ ทานมื้อเดียว ไม่ทานขนมของขบเคี้ยว ไม่ทานไข่ไก่และอาหารที่มีส่วนผสมของไข่ไก่
9. รู้เพียร รู้พัก รู้จักประมาณการในการทำงานมากขึ้น ไม่เครียดกับงานที่ทำ ทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ปล่อยวาง 

ผลหลังการดูแลรักษา ช่วง 3 เดือนแรกที่มีอาการ จะมีทุกข์มากกับอาการป่วย เพราะสร้างเงื่อนไขกับตัวเองว่าจะต้องหายเร่งผล อยากหายเร็ว ๆ ก็จะมีอาการเครียดร่วมด้วย พอได้อ่านธรรมะของอาจารย์ เป็นเพราะว่า เราไปสร้างเงื่อนไขให้ใจเป็นทุกข์ แล้วมาเพิ่มการลดกิเลสในเรื่องการทานอาหาร ไม่ทานพริก เน้นรสจืด ไม่ทานไข่ไก่ ไม่ทานขนมของขบเคี้ยว ต่างๆ และยังลดมื้ออาหารลงเหลือ 1 มื้อ พอเราลดกิเลส อาการต่าง ๆ ที่เป็นก็ลดลง อาการดีขึ้น เหมือนคำที่ว่า ลดกิเลส รักษาทุกโรค

นิดใช้เวลาในการรักษา 1 ปี กับ 3 เดือน ที่หายช้า เพราะนิดไม่เร่งผลในการรักษาอยากหายเมื่อไหร่ก็ได้ เน้นมาทำบุญทำกุศล มารู้ตัวอีกทีก็หายไปแล้ว และการที่เราจะหายโรคได้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่งนั้นคือ การบำเพ็ญบุญกุศล นิดบำเพ็ญบุญด้วยการลดละเลิกกิเลส เหตุที่ทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณเราป่วย และบำเพ็ญกุศลไปด้วย นิดชอบปลูกผัก ได้ปลูกผักแล้วมีความสุขชอบรดน้ำต้นไม้ให้ปุ๋ย มองดูผักเวลาต้นกำลังโต สีเขียว ๆ สวย ๆ มองแล้วมีความสุขมาก ๆ 

สิ่งจูงใจที่ทำให้นิดมาเป็นจิตอาสา ส่วนหนึ่งเพราะนิดรู้ว่ามาที่นี่แล้วนิดมีทุกข์น้อยลง เกิดจากการที่นิดชอบฟังเพลง อ. หมอเขียว โดยเฉพาะเพลงแด่เธอผู้ถือคันธง เพลงนี้ทำให้มีพลังและกำลังใจที่จะทำความดีเพิ่มขึ้น คุณค่าของชีวิตคือการทำความดี ชีวิตเกิดมาเพื่อบำเพ็ญ และเพลงแด่เธอและผองชน “รักเธอก็รักนะ แต่อิสระย่อมสูงส่ง นกน้อยในกรอบกรงฤารู้ค่าฟ้าเสรี คิดถึงนะคิดถึง ทั้งซาบซึ้งคุณความดี แต่งานยังมากมีมิอาจล้มอุดมการณ์…” ชอบฟังเพลงนี้เพราะได้สื่อความหมายถึงว่า เราต้องสละออก สละความรักความผูกพันที่มีต่อคนที่เรารัก เพื่อมาทำประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อมวลมนุษยชาติ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราฟังธรรมแล้ว สามารถลดละเลิกสิ่งที่เกินความจำเป็นของชีวิต สามารถทิ้งสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ เพื่อลดความทุกข์ลงไปให้ได้มากที่สุด อย่างเมื่อก่อนเป็นคนที่ต้องดูดีเสมอ ถ้าวันไหนรู้สึกดูไม่ดีทำให้เราไม่มั่นใจ วันนี้เข้าใจแล้วว่า เราจะไม่ทุกข์ก็โดยการไม่สร้างเงื่อนไขว่า จะต้องได้สิ่งนี้ ถ้าไม่ได้สิ่งนั้นใจก็ทุกข์ วันนี้ก็เลยไม่ต้องดูดีก็ได้

รู้จักแพทย์วิธีธรรมปลายปี 2555 เพื่อนพามา หลังจากนั้นก็รู้จักกับจิตอาสา ได้มีโอกาสได้ฟังธรรมะจากอาจารย์หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน ก็รู้สึกมีความศรัทธา ชอบ ได้ฟังธรรมะที่ไม่เคยฟังมาก่อนซึ่งแตกต่างจากที่ได้ยินมา ถูกจริต รู้สึกว่าธรรมะแบบนี้ใช่เลย เห็นความเมตตาที่อาจารย์มีให้กับลูกศิษย์ทุกท่าน เลยรู้สึกประทับใจในหมู่กลุ่มก็เลยมาคบคุ้น แล้วก็ลาออกจากงานที่ทำ ออกมาแล้วก็มาเรียนรู้กับหมู่กลุ่ม มาฝึกปฏิบัติธรรม มาเรียนรู้ธรรมะ มาฝึก ลด ละ เลิก กิเลส มาเรียนรู้ฝึกฝนการเพิ่มอธิศีล ขัดเกลากิเลส ตัวอย่างเช่น
1.ถือศีล 5
2.ไม่ทานเนื้อสัตว์ไข่ นม
3.ทานมื้อเดียว
4.ไม่ซื้อเสื้อผ้า
5.ลดเครื่องใช้ให้น้อยลงหรือไม่ใช้เลย สบู่ เครื่องสำอาง เครื่องหอมต่าง ๆ
6.ไม่สะสมข้าวของเครื่องใช้
7. อยู่ง่ายนอนง่าย นอนเต็นท์
8.ประหยัด ใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น 

นิดมาอยู่มาได้เกือบ 2 ปี แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒนาการ มีความเจริญทางธรรมมากขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน  ได้พี่น้องในหมู่กลุ่มช่วยขัดเกลากิเลส ช่วยตักเตือน ช่วยเหลือเมื่อเราเจ็บป่วย พี่น้องจะดูแลกันดีมาก ๆ พึ่งแก่ พึ่งเจ็บ พึ่งไข้กันได้รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้อยู่ในหมู่ดี มิตรดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ภูมิใจที่มีส่วนได้ช่วยงานอาจารย์ ได้ช่วยคนป่วย ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ช่วยงานสังคม ได้มาอยู่อย่างพอเพียง ได้เสียสละและรู้ถึงความรู้สึกที่ทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ รู้สึกว่าชีวิตเรามีคุณค่ามีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ ที่สำคัญได้มีความเจริญทางธรรมขึ้นเรื่อย ๆ ธรรมะที่อาจารย์ให้นำมาใช้ทำดีมาก ๆ ลดอัตตามาก ๆ จะเป็นสุขมาก ๆ 

การเผยแพร่ส่วนมากนิดจะให้คำปรึกษาผู้ป่วยทางเฟสบุคส์ และโทรศัพท์ บางครั้งจะได้รับข้อมูลไม่ครบ ก็พยายามสอบถามข้อมูลให้ครบถ้วนที่สุด เพื่อจะได้ให้คำตอบกับผู้ป่วยได้ใกล้เคียงที่สุด เหตุปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการดูแลตนเองตามหลักแพทย์วิถีธรรม คือการลดกิเลส เพิ่มอธิศีล อ่านธรรมะ ทบทวนธรรม และรู้เพียรรู้พักแนวทางในการพัฒนาจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ ดีแล้ว มีหมู่ กลุ่ม ประชุมกันเป็นเนืองนิตย์ ทบทวนธรรม

จริง ๆ แล้วที่มีอยู่มันมากพออยู่แล้ว เหลือแต่จะปฏิบัติตน พากเพียร ทำให้มากเป็นประจำ แนวทางในการเผยแพร่การแพทย์วิถีธรรม ควรเน้นสื่อสารให้มากขึ้น เพราะบางพื้นที่ประชาชนยังไม่ได้รับข่าวสาร และสาระประโยชน์หรือข้อคิดที่ได้จากการร่วมเดินธรรมจาริก 2 ครั้ง ทำให้รู้ธรรมใหม่ ๆ ทุกครั้งที่เดิน ได้เรียนรู้การชดใช้วิบาก รับรู้ถึงความลำบาก ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น อดทนมากขึ้น แกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ

แบ่งปันประสบการณ์

การดูแลและเทคนิคที่ใช้

No Results Found

The page you requested could not be found. Try refining your search, or use the navigation above to locate the post.