3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.53 |
ชื่อ | นางสาวนราภัทร พันธุศร |
เพศ | หญิง |
อายุ | 45 ปี |
อาชีพ | อาชีพเดิมนักกอล์ฟมืออาชีพ |
จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
โรคหรืออาการ : โรคมะเร็งเต้านม
วันที่เข้าค่าย 25-31 พฤษภาคม 2555 (ครั้งที่ 2) ที่ดอนตาล มุกดาหาร เก็บข้อมูล วันที่ 28พฤษภาคม 2555
ป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ เดินทางไปแข่งกอล์ฟทั่วเอเชียมาแล้ว เมื่อประมาณต้นปี 2553รู้สึกเหมือนมีก้อน ๆ โตประมาณ 2 เซ็นติเมตร ใต้ราวนมซ้าย ก็ไปหาหมอประจำตรวจ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร ก็ไม่ค่อยเชื่อ เนื่องจากเป็นคนรักษาสุขภาพ และเป็นคนช่างสังเกต และตัวเองรู้สึกว่าพลังชีวิตของตนลดลง จึงไปหาหมอทั้งที่โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลรัฐ อีกหลายแห่ง ตรวจทุกแห่งที่ไป ก็ให้คำตอบเช่นกันว่า เป็นแค่ก้อนเนื้อธรรมดา ไม่มีเชื้อมะเร็ง คุณนิดก็ทำใจยอมรับ แต่ก็ยังไม่วางใจจนกระทั่งปลายปี 2553 ขณะไปแข่งกอล์ฟที่นครนายก ตอนยกไม้กอล์ฟหวดลูก รู้สึกปวดแปลบบริเวณรักแร้ก็ขอให้หมอตรวจอีกที ผลออกมาก็ไม่มีอะไร ด้วยความเชื่อมั่นว่าต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติแน่นอน จึงขอให้คุณหมอเจาะบริเวณรักแร้เอาเชื้อไปตรวจ คราวนี้ผลออกมาว่ามีเชื้อมะเร็งอยู่จริง ก็ยอมนัดผ่าก้อนเนื้อบริเวณเต้านมไปตรวจ โดยวิธีการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะเชื้อมะเร็งของคุณนิดอยู่ค่อนข้างลึก เหมือนไข่ดาวที่ไข่แดงอยู่ค่อนข้างลึก ดังนั้นเมื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจในครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมาจึงไม่สามารถเจอเชื้อมะเร็ง เพราะไม่ได้เจาะลึกพอ ขบวนการผ่าตัดต้องใช้ความระมัดระวัง และใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องเปิดแผลค่อนข้างกว้าง และเป็นชั้น ๆ จนเจอ เมื่อเจอต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจว่ามีเชื้อมะเร็งหรือไม่ พอรู้ว่ามีก็ทำการผ่าก้อนเนื้อทั้งก้อนนั้นออกในเวลาเดียวกัน หลังการผ่าตัดผ่านพันไปก็นัดไปตรวจทุก ๆ เดือนและทำเคมีบำบัดอีก 6 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คุณนิดรู้สึกผิดหวัง กับการวินิจฉัยเพียงเปลือกนอกของคุณหมอปัจจุบัน ที่ไม่ยอมรับฟังความรู้สึกผิดปกติของคนไข้
ตั้งแต่แรก ทำให้เวลาผ่านไปถึง 1 ปี กว่าจะเจอ ในระหว่างที่ต้องไปเจอหมอทุก ๆ เดือน คุณนิดจะต้องโดนเจาะเลือดทุกครั้ง จนมีความรู้สึกกลัวเข็มฉีดยามาก ระหว่างนี้ก็ได้ไปทำการรักษาแนวชีวจิตที่บัลวีประมาณเกือบ 10 ดือน ก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย หลังจากการผ่าตัดผ่านไปได้ 1 ปีกับ 3 เดือน ค่าของมะเร็งเริ่มปรากฏมาอีก คุณนิดก็รู้ว่าการรักษาแผนปัจจุบันไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายของการรักษาเสียแล้ว ดังนั้นเมื่อหมอนัดให้ไปทำเคมีบำบัดอีกครั้ง คุณนิดก็ใช้ความกล้าหาญ ปฏิเสธคุณหมอไป หันมาดูแลตัวเองตามแนวธรรมชาติโดยการใช้สมุนไพร
การดูแลและแก้ไขอาการ :
พอดีน้องสาวเพื่อนซึ่งเคยเข้าค่ายคุณหมอเขียวแนะนำให้มาเข้าค่าย ก็เปิด Net ดูข้อมูล ก็เริ่มดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด ทานอาหารฤทธิ์เย็น ส่วนการทานมังสวิรัตินั้นได้ปฏิบัติมาตั้งแต่พอรู้ว่าเป็นมะเร็งแล้ว รู้สึกร่างกายดีขึ้น ก็มาเข้าค่ายครั้งแรกในช่วง 12-18 มีนาคม 2555 ปฏิบัติตามที่ค่ายนำทำ อาการดีขึ้นตามลำดับ หลังเข้าค่ายได้ 2 วัน ตอนทำ ดีท็อกซ์ตามปกติ ได้ปรากฏสิ่งแปลกเกิดขึ้น คือ มีก้อนเม็ดเลือดสีแดงเป็นเม็ด ๆ ออกมาด้วย 2 ก้อน ทำให้คุณนิดยิ่งมั่นใจในการรักษาในแนวของคุณหมอเขียวมากยิ่งขึ้น
ก็ตามมาเข้าค่ายอีกเป็นครั้งที่ 2 (ช่วง 25 เมษายน-3 พฤกษภาคม 2555) และได้จองค่ายพระไตรปิฎก 30 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม ไว้ด้วยต่ออีก ทุกวันนี้คุณนิดได้ปฏิบัติตามยา 9 เม็ดของคุณหมออย่างเคร่งครัด ประกอบกับการได้สัมผัสกับคุณนิดนั้นก็ไม่แปลกใจ เพราะโดยเนื้อแท้เป็นคนที่ใจบุญสุนทานมากพอควร วิบากบุญย่อมส่งเสริมให้เป็นผู้ที่สามารถหาหนทางแห่งการดับทุกข์ครั้งนี้ได้อยู่แล้ว
ได้ติดตามข่าวมาเรื่อย ๆ ทราบว่าระยะหลัง ๆ คุณนิดทุ่มเทในการเตรียมสถานที่หลังบ้านที่ลำปาง เพื่อทำเป็นค่ายย่อยเล็ก ๆ จึงทำให้มีเวลาพักผ่อนดูแลตัวเองน้อย ก็เลยทำให้ร่างกายอ่อนแอลงสุขภาพแย่ลง จนกระทั่งได้ข่าวอีกครั้งว่าคุณนิดไม่ประสงค์จะเก็บสังขารเดิม ซึ่งทรุดโทรมจน
ไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ จึงขอวางขันธ์วางร่างเองไปอย่างสงบอย่างมีสติ ขออนุโมทนาบุญที่ คุณนิดได้ทุ่มเทเพื่อทิ้งไว้ต่อบุญให้เพื่อนร่วมโลก วิญญานของคุณนิดจะต้องไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าค่ะ