1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
| กรณีศึกษาที่ | 1.56 |
| ชื่อ | ภิกษุสมบูรณ์ สมาจาโร |
| เพศ | ชาย |
| อายุ | 44 ปี |
| จังหวัด | สมุทรปราการ |
| โรค | โรคมะเร็งที่กระดูกเชิงกราน |
| วันสัมภาษณ์ | 9 มีนาคม 2558 |
ข้อมูลส่วนตัว เป็นพระภิกษุ อยู่วัดโยธินประดิษฐ์ตำบลสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ มาบวชในปี พ.ศ. 2554 ก่อนหน้านี้เป็นผู้รับเหมาเฟอร์นิเจอร์ ตบแต่งภายในนิสัยส่วนตัว ไม่ดื่มสุราและไม่สูบบุหรี่ ดูแลตัวเองอยู่แต่รับประทานเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เมื่อก่อนไม่รู้เรื่องธรรมใด ๆ มารู้ตัวว่าป่วยตอนปี พ.ศ. 2550 มีอายุตอนนั้น 36 ปี ปัจจุบันอายุ 44 ปี คือนอนอยู่คลำไปพบก้อนเนื้อ ตรงกลางด้านซ้าย หมอได้นัดตรวจตามขั้นตอนหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน
จิตอาสา: ข้อมูลการเจ็บป่วยเป็นอย่างไรบ้าง
ภิกษุสมบูรณ์: อาตมาได้คลำไปพบก้อน ตรงเชิงกรานด้านซ้าย ซึ่งขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ หมอได้นัดตรวจตามขั้นตอนได้เอาผลชิ้นเนื้อไปเข้าห้องแล็ป ทราบว่าเป็นเซลล์มะเร็งตัวหนึ่งเข้าไปในกระดูก เป็นเซลล์มะเร็งที่พบไม่บ่อยน้อยคนจะเป็น เมื่อผ่าตัดได้ใช้ชีวิตปกติต่อมาอีก 6 เดือนก็ขึ้นมาอีกตรงเชิงกราน ส่วนกลางคือมันต่อเนื่องมาและค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น มีความวิตกอยู่บ้าง ได้ทำการรักษาโดยพึ่งพาหมอแพทย์ปัจจุบัน ซึ่งก้อนที่ 2 นี้มีขนาดใหญ่มาก แข็งด้วย ซึ่งหมอไม่รับผ่าตัดให้ จึงได้ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลรามา หมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่กระดูกเชิงกราน ที่ซึ่งก้อนใหญ่มาก หมอบอกมีเคสแบบนี้ที่ทำการผ่าตัดเอากระดูกเชิงกรานออกที่ต่างประเทศ แต่ไม่ได้บอกว่าผลเป็นอย่างไร ตอนนั้นหมอก็ไม่พร้อมจึงส่งมาที่โรงพยาบาลศิริราช หมอที่ศิริราชบอกว่า“ห้าสิบห้าสิบ” เพราะอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญมาก จึงตัดสินใจไม่ผ่าตัด และทิ้งช่วงเวลามา 1 ปี ก้อนยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ และลำบากมากขึ้น กินอาหารน้อยลงมันใหญ่ค้ำตัว ไปเบียดที่ท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะราดไหลตลอดทาง อั้นไม่อยู่ ลำบากมากคิดว่าทำไมไม่ตายสักทีนะ และลามไปกระเพาะปัสสาวะ จึงได้ตัดสินใจผ่าตัดเมื่อปี พ. ศ. 2553 เอากระเพาะปัสสาวะออก เอาออกไปหมดเลย แล้วเอาลำไส้เล็กมาต่อเป็นท่อปัสสาวะแทน และเอาปลายลำไส้เล็กมาออกหน้าท้อง โดยมีถุงรองรับปัสสาวะอยู่ที่หน้าท้อง ซึ่งต่อมาได้ตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2554 ก็ดูแลรักษามาเรื่อย ๆ แต่เซลล์มะเร็งยังคงลุกลามมาเกิดที่กระดูกเชิงกราน ส่วนล่างด้านขวาใกล้กับระบบขับถ่าย ตรงลำไส้ใหญ่บริเวณใกล้ทวารหนัก ก้อนไม่ใหญ่ประมาณ 3-5 เซ็นติเมตร จึงทำการผ่าตัดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 ที่โรงพยาบาลเลิศสิน โดยตัดเชิงกรานด้านขวายาวไปถึงสะโพก เหลือต้นขาปกติมีหมวกหุ้มตรงข้อสะโพก แต่ของอาตมาจะถูกเลาะเหลือแค่กระดูกชนกันนิดเดียวและทำให้เสียระบบขับถ่ายต้องมาขับถ่ายหน้าท้อง คือหมอตัดก้อนนั้นออกไปพร้อมกับกระดูกเชิงกรานส่วนขวาด้านล่างจนถึงข้อสะโพกออกตอนนี้เหลือแค่ต้นขาต่อกับข้อสะโพก ซึ่งข้างซ้ายโดนนิดหน่อยจากการผ่าตัดครั้งนี้
จิตอาสา : สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้างที่ต้องผ่าตัดทั้งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ออกไป
ภิกษุสมบูรณ์: สภาพจิตใจตอนนั้น เมื่ออาตมาคิดถึงตอนก่อนการผ่าตัดมันทรมานมาก คิดแล้วอย่างนี้สะดวกกว่าถึงแม้จะไม่มีอวัยวะสำหรับขับถ่ายเลย ทั้งอุจจาระและปัสสาวะ และไม่ค่อยรู้ตัวด้วยว่า จะออกมาเมื่อไรอีกทั้งอั้นไม่อยู่อีกด้วย จึงสะดวกสำหรับการขับถ่ายที่ไม่ปกตินี้ คิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรจะไม่ให้มันหนักไปกว่านี้ก็พอใจแล้ว
จิตอาสา : การขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบ่อยมีปัญหาไหม
ภิกษุสมบูรณ์: อาตมาว่าก็ปกติดี แต่จะดูที่อาหารที่กินเข้าไปถ้าเป็นอาหารย่อยง่ายก็ขับถ่ายออกมาเร็วได้ มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้แนะนำ “คุณเป็นมะเร็งอย่างนี้อันดับแรก คุณต้องหยุดเรื่องการรับประทานเนื้อสัตว์ และให้มามุ่งหาทางธรรมมาศึกษาให้เข้าใจ
จิตอาสา: การรับประทานอาหารปฏิบัติอย่างไร
ภิกษุสมบูรณ์: แพทย์พยายามให้กินไข่ แต่ตนเองพยายามเอาออก จะหลีกเลี่ยง ญาติโยมมาเยี่ยมก็จะทำอาหารเจมาให้รับประทาน ซึ่งเริ่มกินเจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 แล้วแรก ๆ คุณหมอคิดว่าหลังผ่าตัดจะเดินไม่ได้เลย แต่อาตมาเดินได้หลังที่ผ่าตัดก้อนที่ 3 ที่เป็นก้อนที่เล็กลงเหลือประมาณ 5 เซนต์ ซึ่งก้อนที่ 2 นั้นใหญ่ถึง 4.6 กิโลกรัม แต่ต้องเสียระบบขับถ่ายอุจจาระไป และกระดูกเหลือน้อยมาก คุณหมอบอกว่า “ต้องหาอะไรเสริมคิดว่าจะเดินไม่ไหว” แต่เราก็เดินได้และต่อมามีการผ่าตัดก้อนที่ 4 และก้อนที่ 5 ที่นิ่งมาเกือบ 2 ปี ที่เล็กลงประมาณ 2 เซ็นติเมตร ตามลำดับซึ่งในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ไตมีปัญหามีเลือดออกในไตอย่างมาก เพื่อนได้ศึกษาการแพทย์ของคุณหมอเขียว ได้แนะนำเรื่องอาหารปรับสมดุลทำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น ระหว่างอยู่โรงพยาบาลรักษาไต มีญาติโยมทำอาหารแบบแพทย์วิถีธรรมมาให้ทานแต่ไม่เต็มร้อย เพราะยังไม่เข้าใจนัก แต่ก็ลดเรื่องความเค็มและสารปรุงแต่งต่าง ๆ จืดกว่าที่เคยรับประทานมา เมื่อก่อนไม่รู้เรื่องการปรับสมดุล เวลาร้อนก็เอายาพวกน้ำเต้าแก้ร้อนใน ไม่รู้ว่าสมุนไพรร้อนเย็นเป็นอย่างไรระหว่างอยู่ในค่าย ปกติจะนั่งนาน ๆ ไม่ได้ มันจะบวม เพราะระบบน้ำเหลืองในร่างกายเสียหายไปมาก จากผลการผ่าตัดโดยเฉพาะท่อนขาด้านบน จะบวมอยู่ตลอด เพราะไปนั่งกดทับกระดูก และเราเหลือกระดูกอยู่ข้างเดียวอีกข้างไม่ทับจะบวมทางข้างขวาไม่มีรับมีแต่กระดูกข้างซ้ายอย่างเดียว นั่งเดินนานจะบวม คิดว่ามาจากอาหารและน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่ดื่มทุกวันมันจึงไม่บวม เหมือนปกติ หรือนั่งกินข้าวนาน ๆ ก็จะบวม ต้นขาจะแข็ง นั่งมานี้ไม่บวมเลยมันน่าจะดีขึ้นนะ
จิตอาสา : การปฏิบัติตนด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพเป็นอย่างไร
ภิกษุสมบูรณ์: ตั้งแต่ผ่าตัดมาอาตมา ไม่พึ่งใครทำเองได้เองทุกอย่างทั้งถุงปัสสาวะและอุจจาระ ถ้ามันเต็มก็ไปเททิ้ง ปกติถุงปัสสาวะและอุจจาระจะมีปลายเปิดได้ เพื่อทำความสะอาด และนำมาใช้ได้อีก แต่อาตมานำถุงอุจจาระมาดัดแปลง เอาถุงพลาสติกอย่างหนาแต่เหนียวนุ่มขนาด 6×14 ราคาไม่ถึง 10 บาท มาสวมแทนถุงอุจจาระที่แพทย์แนะนำ เพราะราคาใบละ 60-70 บาทต่อใบ แต่ถุงพลาสติกนี้แค่ ใบละไม่ถึงสตางค์ เพื่อขับถ่ายแล้วก็ทิ้งไปได้เลยปกติขับถ่ายวันละ 3-4 ครั้งต่อวัน ทำให้ประหยัดได้เยอะ หมอโรงพยาบาลเลิศสินยังเห็นด้วยไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด
จิตอาสา : การปฏิบัติตนด้านกิจกรรมทางร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง
ภิกษุสมบูรณ์: อาตมาได้กัวซาตรงที่บวมครั้งหนึ่ง และเมื่อวานมีอาการท้องอืด ปวดท้อง อึดอัดมาก มีโยมท่านหนึ่งได้นำขวดดีทอกซ์มาถวายอาตมาตอนแรกก็เกรงอยู่ว่าจะทำได้ไหมห่วงว่าสายดีทอกซ์จะระคายเคืองไหม แต่จากที่จับดูสายมันนิ่ม ปกติระวังทวารเทียมไม่ให้โดนกระแทกต้องทำเบา ๆ มือ ได้ลองค่อย ๆ ใส่สายดีทอกซ์เข้าไปช้า ๆ ไม่รู้สึกเจ็บหรือผิดปกติอย่างไรไม่ระคายเคือง ค่อย ๆ เข้าไปประมาณ 5-7 เซ็นติเมตร ใช้น้ำสมุนไพรประมาณ ครั้งละ 100 ซีซี เข้าไปในลำไส้ใหญ่น้ำสมุนไพรเข้าไปและระบายพิษร้อนออกมาเลย จะกลั้นไว้ไม่ได้ ทำประมาณ 5 ครั้ง อุจจาระได้ออกมาบางส่วน เมื่อทำเสร็จไม่มีอาการปวด หรืออึดอัด ทำให้รู้สึกเบาโล่ง สบายท้องขึ้น ต้องลองทำดูสายมันนิ่มสวมใส่ง่ายจะช่วยให้ดีขึ้น
จิตอาสา : การปฏิบัติด้านการพัฒนาทางปัญญา (จิตวิญญาณ)
ภิกษุสมบูรณ์: ซึ่งระหว่างที่ป่วยอาตมาเข้าใจเรื่องกรรมนะเรื่องของการให้ผลของกรรมมันต้องมีเหตุที่มา และได้ศึกษามาระยะหนึ่งก่อนผ่าตัดก้อนใหญ่ (ก้อนที่ 2) มีการทำความเข้าใจในสภาพที่เราเป็นอยู่ มีการนั่งสมาธิ ไม่ให้วิตกเกี่ยวกับโรคอาตมาเชื่อเรื่องวิบากกรรม ในอดีตไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่แต่มีกิจกรรมตกปลากับเพื่อน ๆ ตามเขื่อน ตามบ่อได้ปลามา ก็ให้คนอื่นทำหรือบางครั้งก็ทำเองทุบหัวผ่าท้องเป็นวิบากของเรา เป็นเหตุให้เราต้องมาโดนผ่าตัด 5 ครั้งทำให้มีทวารเทียม ทั้ง 2 ข้าง