1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.18 |
ชื่อ | ทรงกลด นาคอร่าม |
เพศ | ชาย |
จังหวัด | กำแพงเพชร |
อายุ | 48 |
โรค | โรคจอประสาทตาเสื่อม |
วันสัมภาษณ์ | 10 กันยายน 2557 |
อดีตนั้นเคยทำงานอยู่ที่ ธ.ก.ส. กำแพงเพชรครับ ด้วยการทำงานที่มันเร่งรัดเครียดนะครับ ทำให้เรามีสภาวะที่เจ็บป่วยมากขึ้นทุกวัน ๆ ปัจจุบันนี้ได้ลาออกมาแล้วนะครับเนื่องด้วยเราอยู่กับโลกปัจจุบัน เราก็อาศัยดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่กับสิ่งที่เป็นปัจจุบันนะครับ เจ็บป่วยก็พึ่งหมอพึ่งแพทย์นะครับเพราะว่าเราอยู่ธนาคาร ธนาคารเลี้ยงเราตลอดนะครับค่าใช้จ่ายเท่าไรธนาคารจ่ายให้โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนจ่ายให้หมดนะครับก็เลยถือเป็นโอกาสดีว่าเรามีสวัสดิการดีนะเจ็บป่วยธนาคารดูแลรักษาเรานะครับแต่หารู้ไม่ว่า การที่ธนาคารดูแลรักษาเราด้วยการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เรานั้น กลับกลายเป็นโทษกับเราในวันข้างหน้านะครับซึ่งเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราเองจะได้รับโทษนั้นจากการที่ธนาคารดูแลเราแบบนี้นะครับ
เริ่มต้นด้วยเราเป็นประมาณปี 2544 ประสบอุบัติเหตุรถชนกันนะครับปรากฏว่าในการประสบอุบัติเหตุครั้งนั้นหน้าของเราตรงบริเวณดั้งจมูกได้ไปฟาดกับรถอีกคันหนึ่ง ทำให้ดั้งจมูกหักยุบเข้าไปด้านในนะครับหมอก็ผ่าตัดแล้วก็ยกจมูกขึ้นมาให้เท่าเดิมนะครับ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเราก็จะกลายเป็นคนที่เป็นภูมิแพ้แพ้หวัด แพ้อากาศได้ง่ายมากนะครับแพ้ได้ง่ายมากนะครับตอนนั้นรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลใหญ่ที่จังหวัดพิษณุโลกนะครับ หมอก็แนะนำว่าคุณก็ต้องไปหากินเนื้อนมไข่ บำรุงให้เยอะ ๆ คุณจะได้ ไม่แพ้ แล้วก็ให้ยาเรามาทานเราก็ทำตามที่หมอบอกทุกอย่างถึงเดือนก็ไปพบรับยาถึงเดือนก็ไปพบรับยานะครับทำตามที่หมอบอกทุกอย่างทำไปทำมา 3-4 เดือนต่อมาเรากลายเป็นคนที่มีไขมันสูงนะครับมารู้ก็ต่อเมื่อเราปวดหัวเราปวดหัวแล้วเราก็สงสัย หมอทำไมเราปวดหัวบ่อยจังหมอก็วัดความดันดูปรากฎว่า ความดัน 200 นะครับหมอก็เลยให้ทานยา ทานยาไปก็ดีเฉพาะตอนที่มีฤทธิ์ยาอยู่ พอหมดฤทธิ์ยาเราก็เป็นอีกนะครับตรวจเลือดดูก็ปรากฏว่าไขมันเยอะหมอก็ให้ยาลดไขมันก็มากินยาลดไขมัน กินไปกินมากินมากินไปกินอยู่เรื่อย กินอยู่เป็นปี ไม่ใช่ 2 ปี เป็นประมาณ 5-6 ปีครับกินจนกระทั่งยาที่ไหนที่มันดีหมอเอามาให้ผมให้หมดนะยาใหม่ ๆ เอามาเพราะว่าเราเบิกได้ใช่ไหมจนเราไม่รู้ว่าเราได้ก่อโรคใหม่ขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือเป็นโรคหัวใจแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้สึกใจเจ็บแปล๊บ ๆ ต่เราก็ไม่ได้บอกหมอเป็นไขมันพอกตับ ไขมันพอกตับจากที่เรากินยาลดไขมันนะครับ แล้วก็เป็นเนื้องอกที่ถุงน้ำดี เป็นเนื้องอกที่ถุงน้ำดีพร้อมกับมีนิ่วในถุงน้ำดีขนาดใหญ่กว่าเม็ดถั่วเหลือง 3 เม็ดอยู่ในนั้นนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมเองก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอันตรายอะไรเพราะคิดว่าเดี๋ยวหมอก็คงจะดูแลให้เราได้ก็ปล่อยมันไปไม่ได้ ตกอกตกใจอะไรนะครับปล่อยมันไป
จนมาวันหนึ่งเมื่อปี 2553 ประมาณเดือนเมษายน ในขณะที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าอยู่ ๆ มันมีเหมือนคล้าย ๆ เราเอาวาสลีนไปป้ายไว้ที่ดวงตาเราข้างล่างเหมือนว่าเป็นอย่างนั้น เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมั้งมือเราคงจะไปโดนสิ่งใดเข้าเดี๋ยวอีกสักวันสองวันมันคงจะหายคงจะไม่เป็นอะไรอาจจะเป็นยางผลไม้ที่เรากินอยู่ด้วย ตอนนั้นก็คิดว่าเป็นอย่างนั้นเราก็ใจเย็นไม่ได้ทำอะไรนะครับปล่อยมันทิ้งไป 1 สัปดาห์ผ่านไปมันก็ยังไม่หายก็ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันคงหายเองแหละไม่เป็นอะไรผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ 3 สัปดาห์ที่มีวาสลีนบาง ๆ ติดที่ตาซ้ายที่เราว่ามันเป็นเหมือนวาสลีนที่ตาซ้ายปรากฏว่ามันไปเป็นที่ตาขวาอีกข้าง มันกลับไปเป็นที่ตาขวาอีกข้างหนึ่งเหมือนวาสลีนบาง ๆ ที่ตาขวาอีกข้างหนึ่งพอเป็นตอนนั้น เราก็เริ่ม มันไม่ใช่แล้วสิขณะเดียวกันตาเราก็เริ่มมองได้แคบลงนะมองได้แคบลงเริ่มเดินเตะนู่นชนนี่ด้านซ้ายเริ่มหนักขึ้นนะครับเมื่อเรารู้สึกว่าเราเป็นหนักขึ้นแล้วเราจะทำยังไง เราก็เริ่มใจร้อนเริ่มรู้สึกร้อนรนก็เลยไปหาหมอที่เรารักษาอยู่ปัจจุบันที่พิษณุโลกนะครับ คุณหมอก็แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเฉพาะทาง เป็นโรงพยาบาลตาที่พิษณุโลกก็เข้าโรงพยาบาลตาที่พิษณุโลกอยู่ 6 เดือน 6 เดือนหมอที่ดูแลเรื่องตาบอกว่าหมองงกับอาการของคุณน่ะหมอไม่เคยเจอ ตั้งแต่หมอเป็นหมอมาหมอไม่เคยเจออาการแบบคุณเพราะฉะนั้นหมอไม่รู้จะทำอย่างไร หมอแนะนำว่าคุณควรที่จะไปหาโรงพยาบาลที่มันใหญ่ ๆ นะครับ ไปโรงพยาบาลที่มันใหญ่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมเพื่อเขาจะได้ดูแลรักษาให้ก็เลยไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลจุฬานะครับหมอก็ทำการตรวจทุกอย่าง ส่องกล้องส่องเข้าไปในลูกตาเราตลอดใช้ไฟขยายเข้าไปหยอดขยายม่านตาเอาไฟส่อง เรียกหมอตั้งหลายท่านน่ะ มาช่วยกันดูว่ามันเป็นอย่างไรนะครับวันแรกที่ไปนี่เจ็บแสบมากนะครับเจ็บแสบมากเลย เพราะว่าเขาใช้ไฟส่องเข้าไปในตาเรานะส่องเข้าไปในตาเพื่อหมอจะได้ขยายม่านตาดูว่ามันเป็นอย่างไรนะครับ หมอใช้เวลาตรวจสอบอยู่วันนั้น 1 วันแล้วก็ให้เรากลับบ้าน นัดว่าอีก 1 เดือนคุณมาพบหมออีกทีหนึ่ง พร้อมกับให้ยามาด้วยเราก็ทานยาตามที่หมอบอกนะครับทั้งยาลดความดันในตา ยาลดไขมันที่ต้องทานอยู่ที่พิษณุโลกลดความดันตัวเองยารักษาปลายประสาทตาอักเสบนะครับ ยาแก้อักเสบสารพัดยา ยาบำรุงก็มีนะครับยาที่อยู่ในบัญชียาหลักยาที่อยู่นอกบัญชียาหลัก ไปครั้งแรกก็หมดอยู่หลายพันเหมือนกันนะครับ 1 เดือนผ่านไปก็ไปให้หมอตรวจตามที่หมอนัด ก็ปรากฏว่าไปตรวจครั้งที่ 2 ที่ไปตรวจเราก็คิดว่าอาการมันจะดีขึ้นมันก็ไม่ได้ดีขึ้นมันไม่ได้ดีขึ้นนะครับ มันก็อยู่ค่อนข้างจะแย่ลงนะ ค่อนข้างจะแย่ลงไปเรื่อย ๆ หมอก็ทำการตรวจเหมือนเดิมส่องเข้าไปในตาเหมือนเดิมเราก็เจ็บแสบเจ็บปวดเหมือนเดิมแล้วก็ให้ยาแล้วก็บอกว่าอีก 1 เดือนคุณมาใหม่นะครับทำแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือนครั้งสุดท้ายพบกับอาจารย์แพทย์ อาจารย์แพทย์ที่สอนนักศึกษาแพทย์ทั้งหลายพร้อมกับอาจารย์ก็ได้นำนักศึกษาแพทย์มาดูด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราดวงตาเป็นอย่างนี้ เขาไม่เคยเจอนะครับแล้วสุดท้ายก็ได้รับคำตอบจากคุณหมอว่าคุณรอวันบอดนะคุณรอวันบอดนะคุณไม่มีสิทธิ์หาย คุณไม่มีสิทธิ์หายถ้าคุณดวงดีคุณก็ได้อยู่แค่ตรงนี้คือมันได้อยู่แค่นี้จะไม่มืดไปกว่านี้นะ แต่ว่าประมาณ 80% นี่คุณรอวันบอดนะนะครับฟังคำตอบจากหมอนี้เราก็ใจฝ่อเลยนะแต่ทำใจดีสู้ครับเพราะว่าคิดว่ามันคงไม่ถึงกรรมเรากรรมเราคงไม่มากขนาดนั้นนะครับกรรมเราคงไม่มากขนาดนั้น
เหมือนที่อาจารย์หมอเขียวบอกว่าเห็นทุกข์จึงเห็นธรรม ดั่งที่องค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า เห็นทุกข์จึงเห็นธรรมเมื่อเราทุกข์มากเราก็หันทางหันหน้าพยายามหันหน้าพึ่งพระธรรมพึ่งธรรมะก็สวดมนต์ ไหว้พระขอให้เราพบทางออกแล้วเราก็ได้พบทางออกจริง ๆ พบจริง ๆ นะครับปกติทางธนาคารมีโครงอยู่กับอาจารย์หมอเขียวอยู่ทุกปี ในปีนั้นทางธนาคารได้มีโครงการ เป็นโครงการที่พาพนักงานมาฝึกอบรมที่นี่เหมือนพวกเราที่ทำกันอยู่ทุกปีนะครับ ปีนั้น ก่อนหน้านั้นเขามีมา 2 ปีแล้ว ผมก็ไม่เคยรู้ว่าเขามีโครงการนี้ผมมาได้เป็นรุ่นที่ 3 ของธนาคารนะครับถึงวันเดินทางวันเดินทางก็หลังจากวันที่รายการคนค้นฅนออกนะครับ 1 วันก็ได้เดินทางมาที่สถานที่สวนป่านาบุญแห่งนี้นะครับก็ตั้งใจมามาด้วยกันทั้งหมด 4 คนนะครับ ธนาคารส่งมาก็ถือว่าอันนั้นเหมือนเรามาปฏิบัติงาน เมื่อมาถึงสิ่งที่เห็นทีแรกสิ่งที่เห็นทีแรกอาจจะเหมือนกับใครหลาย ๆ คนที่เห็นรถเลี้ยวเข้ามาปุ๊บเราก็มอง เอ้า นี่มันเข้าป่านี่ มันเข้าป่านี่แล้วสถานที่อย่างนี้เหรอที่ว่าจะรักษาเราเอ๊ะมันใช่หรือไม่นะ คิดอย่างนี้เลย เอ๊ะ เราจะรักษาหายไหมก็เพราะว่าเราไปเจอเครื่องมือที่ดีสารพัดมาแล้วนะเครื่องมือที่ดีสารพัดทุกอย่าง เครื่องมือราคาเป็นแสนเป็นล้านเราใช้มาหมดแล้วเรามาเจอแบบนี้ มันจะหายไหมมันใช่หรือเปล่า เราคิดผิดหรือคิดถูกนะแต่คิดอีกใจก็คิดว่า ในเมื่อเราได้ลองรักษามาหมดแล้วอ่ะ เครื่องมือที่ดีที่สุดเราก็ใช้มาหมดแล้ว แล้วคำตอบที่ได้ก็คือไม่มีทางออกไม่มีทางออกให้เราเพราะฉะนั้นเรามาตรงนี้ลองดูว่าจะเป็นอย่างไรลองดูนะครับ
เช้ามาหมอบรรยายอะไรเราก็ฟังหมอไป หมอบอกว่า ต้องกัวซา ต้องดีท็อกซ์ ควรจะกัวซา ควรจะดีท็อกซ์ดื่มน้ำสมุนไพร กินอาหารของค่ายมากินอาหารมื้อแรกก็เหมือนที่ท่านคิดน่ะคงเหมือนกันนั่นแหละมันมีด้วยเหรออาหารอย่างนี้มันจืดสนิท คือกลืนแทบไม่ลงกลืน แทบไม่ลงเหมือนกันมื้อแรกนะครับ กลืนแทบไม่ลงเหมือนกันแต่ก็ต้องฝืนเพราะว่าไหน ๆ เรามาแล้วเราจะเราตกลงปลงใจที่จะมารักษาแบบนี้แล้วก็ควรจะทำตามที่หมอได้แนะนำ ก็มื้อแรกก็ผ่านไปด้วยดีนะมื้อที่ 2 มาก็ยังฝืน ๆ อยู่มื้อที่ 3 ก็ยังฝืนพอวันที่ 2 ก็เริ่มดีขึ้นนะ วันที่ 2 เริ่มดีขึ้นในระหว่างที่ฟังบรรยายไปหมอก็บอกว่าดื่มน้ำสมุนไพรเอ้า เราก็ดื่มไปตามนั้นนะครับดื่มไปถ้าง่วงก็ไปฉี่ หมอว่าอย่างนั้นง่วงก็ไปฉี่ซะเดินไปลูบหน้าลูบตานะ ถ้าจะให้ดี คือปกติลืมเล่าไปนิดนึงปกติผมอยู่ที่ทำงานนี่อดีตที่ผ่านมาจะเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้าผมไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ แต่ชอบของหวานหวานแบบแสบไส้เลยชอบหวานแบบนั้นเลยนะ แล้วก็สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือกาแฟกาแฟก็กินไม่เยอะหรอก กาแฟกินฟรีที่ทำงาน วันละ 5-6 แก้ว ตอนดึกกินให้หลับ กาแฟเช้ากินให้ตื่น ถ้ากลางวันห่างกาแฟหาไม่ได้ ก็เครื่องดื่มชูกำลังเขาบอกว่าให้กินได้ไม่เกิน 2 ขวดก็กิน 2 ยี่ห้อ ๆ ละ 2 ขวด ไม่เกินตามที่กำหนด รวมเป็นวันละ 4 ขวด ศรีธนญชัยหาเรื่องใส่ตัวนะเป็นอย่างนี้ประจำเพราะฉะนั้นตอนมาค่ายนี่มันก็จะง่วง เพราะเราไม่ได้กินกาแฟที่นี่ ไม่มีกาแฟกินไม่ให้กิน หมอเขาแนะนำว่าไม่ให้กินแล้วก็ไม่มีให้กินด้วยข้าง ๆ ใกล้ ๆ ก็ไม่มีกาแฟจะเดินไปตลาดมันก็ไกลไปก็เลยไม่ไปก็อยู่ที่นี่แหละก็ใช้วิธีกัวซา
หมอบอกว่ากาแฟที่ดีที่สุดก็อยู่ในตัวคุณนั่นแหละอยู่ในนั้นแหละ เพราะว่าคุณกินกาแฟมาแล้วอย่างน้อยคุณฉี่ออกนี่มันก็มีอยู่ในนั้นแหละ เพราะฉะนั้นคุณก็ลองกินอันนั้นแหละกินเข้าไปเถอะเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง 2 วันแรกที่หมอพูดเราก็ยัง หมอพูดมาก็ ฮึ แต่อยู่ในใจน่ะยังไม่กินหรอกจนวันที่ 3 นั่นแหละวันที่ 3 ก็ลองดู หมอพูดทุกวันลองดูก็ลองฉี่ใส่ฝ่ามือนี่แล้วก็แตะดู (ทำท่าแตะเข้าปาก) เอ้อ มันก็พอได้นะไม่ตายนี่หว่า ไม่ตายนี่หว่า ลองลองดูหลังจากนั้นก็อย่างนี้เลย (ทำท่ายกฝ่ามือขึ้นซด) ลองดูเนาะ แต่ครั้งที่กินก็ยังขมยังเผ็ดยังเปรี้ยวยังเค็มอยู่นะหลังจากนั้นมากินมันทุกครั้งเลยทุกครั้งที่ไปฉี่ กินหมดกินหมดทุกครั้งที่ฉี่แต่ไม่ได้กินทั้งหมดที่ฉี่นะ คือกินส่วนหนึ่งแล้วที่เหลือก็ทิ้งไปนะครับ เอ้อพอกินแล้วมันก็รู้สึกว่ามันไม่ง่วงดีนะ มันไม่ง่วงนะแล้วมันไม่เพลียด้วยนะมันจะตื่นแบบใส ๆ แต่ถ้ากินพวกกาแฟพวกเครื่องดื่มชูกำลังนี่ กินแล้วมันไม่ง่วงแต่ว่ามันไม่ใส มันไม่มีพลังนะตัวนี้อาจจะเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้เราป่วยก็ได้นะครับ
แล้วในระหว่างที่หมอบรรยายนี่หมอก็บอกว่าคุณก็ทำกัวซาทำกัวซาไปพอกทาไป เรานั่งอยู่ตรงนี้เราก็กัวซาไปเรื่อย ฟังหมอบรรยายก็กัวซาตัวเองไป ไอ้เราตาไม่ดีหมอบอกว่าคุณก็กัวซาตรงที่มันป่วยเราก็กัวซาตาตัวเองไปอย่างนี้ ทำไปทั้งหน้าทั้งหลังทำทั้งหมดบนหัวนี่ เราก็นั่งขูดอยู่ประจำนั่งอยู่ตรงนี้ ประจำ7 วันก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนเลยนะก็กัวซาไป ความอัศจรรย์มาเกิดขึ้นในวันที่ 4 ของค่าย
จากเดิมที่เรามาแบบสายตาเราเกือบจะมองไม่เห็นเลยนะมืดมากเลย คือไปไหนนี่เดินไม่เห็นเตะไปทั่วแหละ ไม่รู้ใครเป็นใครเตะไปทั่วเลย วันนั้นเกิดอัศจรรย์ หมอกำลังบรรยายเราก็นั่งตรงนั้นแหละขูด ๆ ไป เอ๊ะ.. ตามันสว่างขึ้นมาทันที มันเป็นไปได้ยังไงเรางงสงสัยเราก็บอก ดีใจตามันสว่างขึ้นนี่แล้วเราก็บอกหมอว่าตามันสว่างขึ้นเลยนี่หมอก็ประทับใจว่าเออ สิ่งที่หมอบอกไว้นี่มันทำได้ผลจริง ๆ นะเราก็ดีใจว่า โอ้ เราทำได้เรามาถูกทางแล้วตอนแรกที่เราว่า เอ๊ะ อย่างนี้มันจะรักษาเราหายไหมกลับกลายเป็นว่า วิธีแบบนี้นี่แหละที่รักษาเราหายด้วยรักษาเราหายด้วยนะครับซึ่งเป็นเรื่องแปลก ผมก็ไม่คิดว่ามันจะหาย
เคยมีอยู่วันหนึ่งวันหนึ่งของธนาคารที่เขาปิดรอบบัญชี ปิดรอบบัญชีเป็นวันที่เครียดมาก ๆ พอเครียดมาก ๆ ปุ๊บนี่ตาเรามืดวันนั้นนี่ตามืด คือเดินไปไหนไม่ได้เลยนะ ปิดบัญชีวันนั้นพอเวลาประมาณบ่าย 2 โมงครึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ธนาคารจะปิดบัญชี ปรากฏว่าผมทำไม่ได้เพราะตาผมไม่เห็นผมตัดสินใจทิ้งตรงนั้นเลยบอกถ้าใครจะช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ไม่เป็นไร ผมตัดสินใจทิ้งตรงนี้ถ้าคุณจะไล่ออกเพราะตรงนี้ก็ยอมผมทิ้งเลยเพราะผมมองไม่เห็นแล้ว ผมก็ปล่อยเลยครับมองไม่เห็นเลยจะเดินไปไหนยังเดินไม่ได้เลย ตอนนั้นได้วิชาจากตรงนี้ไปแล้วหลังจากที่มาอบรมแล้วนี่ได้วิชาไปแล้วก็ลองดูเมื่อเรากัวซาแล้วมันตอนนั้นกัวซาแล้วตาสว่างขึ้น เราก็กัวซาตัวเราก็กัวซาไปทั่วเลย ทั้งเบ้าตาทั้งด้านหน้าด้านหลังทั้งคอทั้งแขนแต่เน้นที่หัวนี่มากที่สุดนะครับก็ทำไปนะครับทำอยู่ประมาณชั่วโมงหนึ่งทำอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ตาเราเริ่มสว่างกลับมาที่เดิมนะ ตอนนั้นคิดในใจว่าสงสัยเราบอดแน่แล้วล่ะ แต่ว่าปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นนะครับประมาณ 1 ชั่วโมง ตาเรากลับมาสว่างเหมือนเดิมเราก็ดีใจแล้ว ไม่สนใจแล้วอะไรแล้วกลับบ้านแล้วเพราะอยู่ไป เดี๋ยวหนักกว่านี้เรากลับบ้านไม่ได้ก็กลับบ้านไปนะ แล้วรุ่งขึ้นอีกวันมันก็เป็นวันปิดทำการของธนาคารเราก็ได้พักผ่อนอีกวัน หนึ่งวันทำการถัดมาเราก็กลับมาทำงานปกติไม่มีอะไรนึกว่าจะโดนเจ้านายเรียกไปตำหนิก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยไปหลังจากนั้นนี่ก็ยังได้แวะเวียนมาเข้าค่ายกับอาจารย์หมออยู่บ่อย ๆ นะมีโอกาสก็มาอยู่เรื่อย
หลังจากเข้าค่ายทุกค่ายที่ออกไปนับตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2553 เป็นต้นมาคือวันแรกที่เข้ามาที่นี่นะครับนับจากวันนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ได้ใช้ชีวิตในแนวทางแห่งค่ายหมอเขียวมาตลอดนะครับอาหารมังสวิรัติ เจ มัง ตลอดนะครับมีแต่ผักไม่มีเนื้อสัตว์นะ ไม่มีน้ำปลา ไม่มีกะปิมีแต่ผักกับเกลือนะครับอย่างมากก็เป็นซีอิ๊ว ทานไปเรื่อย ๆ ทานไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องกลัว ทานไปเรื่อย ๆ ในระหว่างที่เรา ณ ปัจจุบันนี่ส่วนใหญ่เราจะร้อนทานไปเรื่อย ๆ ทานจนกว่าเราจะหนาวเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ปฏิบัติแบบนี้ตลอดไปเรื่อย ๆ มันจะมีจิตวิญญาณบอกว่าณ เวลานี้เราต้องการอะไรมันจะบอกเลยนะ ณ เวลานี้เราอยากจะกินตัวนี้แล้วเราไปกินแล้วมันก็จะหายอาการที่เราเป็นอยู่นะครับ
อีกเหตุหนึ่งที่ผมตัดสินใจกินผักพืชผักตลอดก็ด้วยเหตุผลที่ว่า รุ่นนั้นที่เข้าค่าย อาจารย์หมอถามว่าฟันของคุณน่ะ ฟันของคุณในปากน่ะมันเหมือนฟันวัวกับควายหรือมันเหมือนฟันเสือเหมือนฟันแมว เราก็ตอบว่าเหมือนฟันวัวกับควายครับ
ถ้าเราได้กินอาหารที่ดีกินอาหารที่เขาเรียกว่าสมดุล ปรับสมดุลได้ดี ฉี่เรามันจะใสหรือว่าหอมเหมือนชานี่อันนี้จะเป็นตัวรักษาได้ดีเลยนะครับแล้วถ้าใครสามารถดื่มฉี่ได้ทุกเช้า ถ้าดื่มได้ทุกเช้านะครับท่านก็จะสามารถวิเคราะห์โรคได้เลยว่าท่านเป็นอะไรหรือเปล่านะ
เวลาดีท็อกซ์ดีท็อกซ์น้ำที่ดีที่สุดคือน้ำฉี่เรานั่นแหละน้ำฉี่เรานะครับ ดีท็อกซ์ไม่เป็นอันตรายไม่ร้อนไปไม่เย็นไปนะครับ ใส่ไปเลยใส่ให้เต็มนั่นแหละนะครับ ใช้ได้ทุกอย่างทุกส่วนทั้งอาบทั้งหยอดเวลาพอกทาก็ผสมเข้าไปในผงถ่านดินสอพองนะครับ
เคยมีบางครั้งทำงานเครียด ๆ เกิดอาการจุกแน่นในท้องในกระเพาะนะครับ จุกแน่นในท้องในกระเพาะก็ใช้วิธีน้ำมันเขียว 1 หยด น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนะครับใส่ขวดไว้แล้วก็น้ำฉี่เราผสมเข้าไปเติมผงถ่านเข้าไปสักประมาณช้อนชา เขย่าให้ดีแล้วก็ดื่มนะครับไม่ถึง 1 นาทีอาการนั้นหายเลย ลองนำกลับไปใช้ดูนะครับ
เทคนิค 9 ข้อใช้ทั้งหมด โดยเฉพาะหัวข้อธรรมะนะครับที่สำคัญก็คืออย่ากลัวตายอย่ากลัวโรคอย่าเร่งผลแล้วก็อย่ากังวลตัดออกให้หมดความกังวลทุกเรื่อง ความกังวลทุกเรื่องตัดมันไปบ้างตัดให้หมดได้ก็ดีนะครับถ้าเราตัดไม่ได้มันก็จะมาฆ่าเรามันจะมาฆ่าเรานะครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรานะครับจิตใจของเราถ้าตั้งมั่นอยู่นะถ้าตั้งมั่นอยู่นี่เราสามารถที่จะดำเนินต่อไปได้เอาผมนี่เป็นตัวอย่าง ผมลืมบอกไปก่อนหน้านั้นบ้านผมนี่ขายอาหารตามสั่งมีกินทุกอย่างนะครับ อยากกินอะไรมีหมดแล้วผมก็หักโดยไม่กินอะไรในบ้านเลยนะ ผมแหกค่ายมาเป็นแบบหมอเขียวทั้งหมดจนทุกวันนี้นะครับ ก็อยู่อย่างนี้ใครจะชวนกินอะไรก็กินไป แต่เราก็บอกตัวเองเสมอว่าเราสบาย เบากายเป็นอยู่ผาสุกนั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดนะอย่างที่หมอเขียวท่านบอกนะ