ดาวน์โหลดเอกสารใบสมัคพรรคสัมมาธิปไตย กดที่นี่  ดูขั้นตอนการสมัคร กดที่นี่ 

ดาวน์โหลดเอกสารลงชื่อคัดค้านกาสิโนถูกกฎหมาย และไม่เห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร กดที่นี่  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ที่นี่

1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน

ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก

ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558

(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)

ภาคผนวก ก ของวิทยานิพนธ์การศึกษาตามหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (สาธารณสุขชุมชน)

ของ นายใจเพชร กล้าจน

กรณีศึกษาที่1.41
ชื่อโอ
เพศหญิง
อายุ38
จังหวัดกาญจนบุรี
โรคโรคซีสต์ที่มดลูก
วันสัมภาษณ์31 มกราคม 2555

คุณโอ: ค่ะสวัสดีนะคะ ชื่อโอนะคะ อายุ 38 เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรีนะคะอาชีพรับจ้างเขียนหนังสือนะคะเริ่มต้นนี่คือตัวเองเนี่ะ ไม่มีอาการเหมือนกับคนที่เป็นซีสต์ที่มดลูกนะคะแต่ว่าไม่เคยไปตรวจก็คือตรวจเหมือนกับก็ตรวจภายในปกติทั่วไปแล้วมันไม่เจอจนกระทั่งวันหนึ่งนี่ คืออาการมันก็หนักมากนะคะ เป็นเมนส์เยอะแล้วก็เหมือนกับปวดท้องมากแล้ว

ทีนี้ก็เลยไปอัลตราซาวด์แล้ว ก็เจอว่าเป็นเนื้องอกนี่มันครอบมดลูกอยู่นะคะ แล้วมันครอบได้ประมาณ 14 เซ็นต์ จริง ๆ นี่ ต้องบอกก่อนว่าด้วยอาชีพรับจ้างเขียนหนังสือนี่ เราก็จะเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมากแล้วก็รู้จักธรรมชาติบำบัดแล้วก็อะไรต่าง ๆ นี่ก็คือรู้ รู้แต่ว่าไม่เคยทำแล้วก็ไม่ได้เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นคนป่วยเพราะว่าออกกำลังกายดูแลตัวเองตลอด ถึงแม้ไม่ได้กินมังสวิรัติ แต่ว่าก็จะเลือกอาหารเลือกอะไรอย่างนี้ตลอด

ตอนนั้นก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองป่วย แล้วก็มันก็ไม่มีสติตอนนั้นที่ป่วยนะคะมันไม่มีสติเลยเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะจัดการกับตัวเองยังไง หนังสือทุกเล่มที่เอามาอ่านยิ่งอ่านยิ่งสติแตกแต่ทีนี้ก็เลยตัดสินใจให้หมอตัดมดลูกเพราะหมอนี่ ยืนยันว่าถ้ารังไข่เรายังอยู่นี่ เราก็จะมีอาการปกติมันจะไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น เพราะตอนนั้นก็ถามนะคะว่า แล้วมันจะมีอาการที่แบบว่าทำให้เรานี่ใช้ชีวิตผิดปกติ ไหม อย่างเช่นวัยทองหรืออะไรอย่างนี้นะคะ หมอเขาก็ยืนยันว่าไม่มีเพราะว่ารังไข่เรายังอยู่แล้วเราอายุเพิ่งจะ 38 แล้วทีนี้พอหลังจากนั้นก็โอเคตัดพอตัดเสร็จแล้วนี่ อาการมันก็มาทันทีเลยก็คือจะมีอาการแบบอารมณ์มันจะปรวนแปรเร็วมาก คือร้องไห้เสียใจแล้วปกติคือเป็นคนที่เซนซิทีฟอยู่แล้ว มันก็จะแบบบทจะร้องไห้ก็ร้อง บทจะดีใจก็ดีคือมันสุดโต่งไปซะทุกอย่างค่ะ

แล้วหลังจากนั้นมันก็มีอาการนอนไม่หลับคือนอนไม่หลับนี่คือเป็นเยอะมาก มันจะนอนไม่หลับเลยแล้วครั้งหนึ่งปรึกษาหมอ ช่วงเวลาเหล่านั้นนี่เราก็ปรึกษาหมอตลอดคือเห็นหมอนี่เป็นที่พึ่งก็ถามพอมีอาการอะไรปั๊บเราก็ไปโรงพยาบาลคือไปมันทุกวัน ทีนี้ คือเรียกว่าชีวิตปกติก็คือขับรถไปโรงพยาบาลเกือบแทบทุกวันหมอเขาก็บอกว่าเราน่ะคิดไปเอง ถ้าคุณนอนไม่หลับคุณก็ไม่ต้องนอนคุณก็ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือทำอะไรไปเพราะหมอเองหมอก็ไม่ได้นอนเยอะแยะอะไรมากมาย เพราะคุณก็อายุขนาดนี้แล้วก็คือไม่จำเป็นต้องนอนแล้วถ้าเกิดพอส่วนอาการอื่น ๆ นี่ หมอเขาก็รักษาปลายเหตุนะคะ

จนกระทั่งวันหนึ่งนี่ไปเจอพี่คนหนึ่งเขาก็บอกว่าเรานี่ไม่มีสติ คือคุณมีข้อมูลเยอะแต่ว่าคุณนี่เลือกมาใช้ไม่ถูกแล้วก็เวลาคุณเจออะไรแล้วคุณรนน่ะ คือคุณเขาก็เลยแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม ก็ไปอีกไปทั่วสารทิศน่ะค่ะไปทุกอย่างจนกระทั่งก็บอก พี่เขาก็เลยแนะนำว่าลองไปวัดป่าไหม ก็เลยมาที่วัดป่าปฏิบัติธรรมที่วัดป่าหลวงพ่อมิตซูโอะนะคะ ที่วัดสุนันทา ก็พบว่ามันถูกจริตกับเราเราก็เลยปฏิบัติธรรมมาเรื่อย ๆ ความร้อนรนหรือว่าความไม่มีสติมันก็ลดลง แต่โรคมันก็ยังอยู่กับเรานะคะอาการต่าง ๆ มันก็ยังอยู่เป็นเพื่อนเราแต่เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันคือเพื่อนแล้วเราก็อยู่กับมันมาเรื่อย ๆ

จนกระทั่งวันหนึ่งนี่ ไปยืนที่หน้าโรงครัวของวัดหลวงพ่อนะคะแล้วก็ไปเจอว่าเขาจะมีป้ายเขียนว่า น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนู่นนี่อะไรอย่างนี้ เราก็เอ๊ะ เราแบบจิตอาสาที่วัดนะคะ เขาก็พูดถึงหมอเขียวว่าพรุ่งนี้หมอเขียวจะมานะคือหมอเขียวมาอบรมที่ค่ายวัด 7 วัน แล้วก็เดี๋ยวจะไปที่วัดนี่ วันหนึ่งถ้าใครสนใจมาได้นะแต่ตอนนั้นคือสนใจแต่ว่าไม่มีเวลานะคะ เราก็เลยกลับพอกลับเราก็มาเสิร์ชในอินเตอร์เน็ตดูว่า หมอเขียวคือใคร แล้วก็ไปเจอตัวหมอเขียวนี่คือในทีวีก่อน รายการ ฅ ฅนค้นคน นะคะ

ณ ตอนนั้นนี่ ถามว่าเชื่อในวิธีของหมอเขียวไหมตอนนั้นนี่ เฉย ๆ แล้วเพราะว่าเราศึกษามาจนเราเบื่อแล้วไงคะ ตอนนั้นมันท้อไงแต่ทีนี้นี่ด้วยความที่เราเห็นวิถีปฏิบัติของหมอเขียวนี่มันถูกใจเรามันเรียบง่ายสมถะแล้วมันไม่ยุ่งยากค่ะแล้วบางครั้งนี่ ธรรมชาติบำบัดบางแขนงนี่ต้องยอมรับว่าอย่างพอ พอตัวเองกลับมาอยู่ต่างจังหวัดนี่ บางอย่างมันไม่ได้หาได้เหมือนคนเมืองค่ะเพราะอันนี้คือภูธรแท้ ๆ คืออยู่ทุ่งนาแบบมันคือบ้านนอกจริง ๆ บางอย่างนี่เราหาไม่ได้แล้วก็บางอย่างที่เขาให้ทำนี่ มันก็เคอะเขินเกินไปที่จะแบบมาทำอย่างนี้น่ะค่ะมันหลาย ๆ อย่างแล้วทีนี้พอเราเห็นสิ่งที่หมอเขียวทำนี่เออ มันโอเคมันใช่ เหมือนครั้งหนึ่งที่เราเคยเจอวัดป่าแล้วเรารู้สึกว่านี่แหละมันถูกจริตกับเรา หลังจากนั้นมาก็เลยศึกษาแบบเต็มที่ แล้วครั้งแรกเลยคือโทรมาที่แสงแดดปรากฏว่าเต็มเราก็ยิ่ง โอ๊ย ขนาดวันแรกยังเต็มอย่างนี้ เราก็เลยคิดว่ามันโอเคแล้วหนึ่งเลยครูบาอาจารย์เราเราก็เชื่อใช่ไหมคะ แล้วสิ่งหนึ่งที่ครูบาอาจารย์สอนก็คือให้ทดลองปฏิบัติจริง คืออย่าเชื่อ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือพอปฏิบัติธรรมแล้วนี่สิ่งหนึ่งที่มันจะตามมาคืออย่ากังขาอย่าสงสัยก็คือให้ลองไปเลยคืออย่าคิดมากคืออย่ามีทฤษฎีมากอย่างนี้ค่ะ อย่างที่ผ่าน ๆ มาแล้วหลังจากนั้นก็เลยครั้งนี้ก็เลยมาได้คือ 9 โมงครึ่งตั้งนาฬิกาไว้เลยค่ะพอ 9 โมงครึ่งเป๊ะก็คือโทรไปที่แสงแดดทันทีเลยค่ะ แล้วก็โอเคก็เลยได้มาค่ะ ก็เท่านี้ก็ถือว่าเป็นธรรมะจัดสรรนะคะที่ได้มาที่นี่ 

จิตอาสา: ค่ะ ก็คือได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก 

คุณโอ: ครั้งแรกค่ะ

จิตอาสา: หลังจากได้พบคุณหมอเขียวทางทีวีแล้วก็อ่านหนังสือแล้ว

คุณโอ: ใช่ค่ะ

จิตอาสา: ช่วงนั้นได้ปฏิบัติตัวนานแค่ไหนคะกว่าจะได้มาที่นี่

คุณโอ: ช่วงนั้นนี่ บอกตรง ๆ เลยนะคะว่าไม่ได้ปฏิบัติอะไรที่อย่างที่หมอเขียวบอกเลยเพราะว่ารู้สึกเข็ดกับการที่อ่านเองแล้วก็ทำเอง เพราะเราไม่เข้าใจไม่เข้าใจอย่างแท้จริงก็เลยปล่อยให้สิ่งที่มันเป็นอาการต่าง ๆ ในร่างกายคือมาที่นี่คือเต็มร้อยมาเลยค่ะนอนไม่หลับแล้วก็ฉี่นี่ จะมีสีเข้มมากแล้วก็ฉุนมากคือมีกลิ่นเลยล่ะแล้วก็ตัวนี่ก็จะยุบยิบ ๆ เหมือนคนเป็นวัยทองน่ะค่ะคันแบบตรงโน้นมั่งตรงนี้มั่งแล้วก็จะแห้งแล้วปวดตามข้อมันก็จะแบบอยู่ดี ๆ อมันก็แว้บขึ้นมาแบบปวดตรงนู้นตรงนี้ค่ะคิดว่าคนเป็นวัยทองแบบน่าจะเข้าใจค่ะก็ปล่อยอย่างนั้นมาเลย

จิตอาสา: ก็คือที่คุณโอนะคะเมื่อกี้บอกว่าอายุ 38 เอง ยังไม่หมดประจำเดือนนะ

คุณโอ: ไม่หมดค่ะ

จิตอาสา: ก็มีอาการวัยทองได้

คุณโอ: ใช่ค่ะ 

จิตอาสา: ที่จริงอาการวัยทองไม่ใช่แค่คนที่จะใกล้หมดประจำเดือนถึงจะมีอาการ

คุณโอ: ใช่ค่ะ แล้วแบบเป็นชนิดที่ว่าเขาเรียกว่าฮอร์โมนขาดฉับพลันค่ะ ก็คือพอหลังตัดก็มาเลยค่ะ

จิตอาสา: ตัดรังไข่ออกไปด้วยเหรอคะ

คุณโอ: ไม่ได้ตัดค่ะ ตัดแค่ตัวมดลูก 

จิตอาสา: เฉพาะตัวมดลูก

คุณโอ: แล้วทีนี้แพทย์ถึงได้งงไงคะว่า รังไข่คุณยังอยู่เพราะฉะนั้นอาการที่คุณเป็นน่ะ คุณคิดไปเองคุณจินตนาการไปเอง 

จิตอาสา: จริง ๆ น่าจะมีความเครียดความกังวลสูงนะคะ

คุณโอ: ใช่ค่ะ ด้วย ๆ ค่ะ หลาย ๆ อย่าง

จิตอาสา: ค่ะ เพราะฉะนั้นก็คือมาเต็มร้อยด้วยอาการที่บอกว่าไม่สบายแล้วกัน ไม่สมดุล

คุณโอ: ใช่ค่ะไม่สมดุล 

จิตอาสา: แล้วพอมาในค่ายแล้ว หลังจากได้ฟังหมอเขียวเองกับพี่น้องจิตอาสาแล้วได้ปฏิบัติตัวอะไรบ้างค่ะ ที่รู้สึกว่าทำให้เรามีอาการสบายขึ้นหรือว่าไม่เปลี่ยนแปลงก็ได้ให้คุณโอเล่าให้ฟัง

คุณโอ: ค่ะ ก็หลังจากที่ทานอาหารในค่ายนะคะได้ 2 วันนี่ปรากฏว่าฉี่เรานี่ มันก็จางลง สีจางลงแล้วก็หมดกลิ่นอันนี้ก็เป็นอันแรกแล้วแล้วทีนี้นี่ ตลอดระยะเวลาตัดมดลูกนี่ 3 ปี เป็น 3 ปีที่ทรมานมากเพราะว่ามันหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดเวลาเลยเรานอนไม่หลับ บางทีก็ลุกขึ้นมาฉี่อะไรอย่างนี้มันจะมีผลต่อการทำงานตอนเช้าใช่ไหมคะแล้วปรากฏว่าเป็นครั้งแรกที่มันนอนหลับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หลับแล้วตื่นเช้า แต่มันเป็นการนอนระยะยาวที่สุดในระยะเวลา 3 ปี คือยาว คือโอเคตื่นตี 2 แต่เราก็ยังถือว่ามันโอเคค่ะ ตื่นมาเราก็รู้สึกสดชื่นแล้วก็รู้สึกว่าเออตอนแรกนี่ก็ยังคิดว่ามันจะเป็นเพราะอากาศหรือว่าอะไรหรือเปล่าเพราะว่าโทรคุยกับเพื่อนนี่ แต่จริง ๆ ไม่ใช่หรอกค่ะเพราะว่าบ้านที่อยู่มันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะคืออยู่ริมทุ่งนาคือมันก็บรรยากาศมันก็คล้าย ๆ กัน เพราะว่ากาญจนบุรีมันก็ไม่ได้ต่างกันมากอย่างนี้ค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นที่อาหารแล้วก็การปฏิบัติตัว ถามว่าก่อนหน้าตัดมดลูกโอเคมีความเครียดแต่พอหลังปฏิบัติธรรมแล้วคิดว่าถึงเครียดก็จัดการกับตัวเองได้ค่ะ ไม่งั้นคงจะไม่ปล่อยให้ร่างกายมันเป็นอย่างนี้มาจนกระทั่งมาค่ายค่ะ

จิตอาสา: ก็คือได้มาปรับสมดุลอาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นนะคะ

คุณโอ: ใช่ ใช่คะ

จิตอาสา: แล้วเมื่อกี้บอกว่าปัสสาวะสีจางลง แล้วได้ทดลองดื่มด้วยหรือเปล่าคะ

คุณโอ: อ๋อยังค่ะ ไม่ใช่ค่ะ ก็คือ คิดว่าจะค่อย ๆ ลองไปทีละอย่างค่ะ 

จิตอาสา: อันนี้ยังไม่ได้ลองไม่เป็นไรแต่ว่า แล้วเทคนิคอื่น ๆ ได้ทำมากน้อยแค่ไหนคะ

คุณโอ: ก็ทำนะคะก็พอกตัวอะไรก็ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็ข้อ แต่ตอนนี้มันไม่ปวดข้อแล้ว อาการที่ว่าเดิน ๆ แล้วมันจะมาแปล๊บตรงนั้นตรงนี้นี่มันหมดไป แล้วก็ช่วงบ่าก็ยังมีปวดบ้าง แต่ก็พอกัวซาไปมันก็ค่อยยังชั่วนะคะ แล้วก็ส่วนผิวแห้งมันก็สดชื่นขึ้นเล็บก็มีสีขึ้นค่ะ

จิตอาสา: ค่ะ แล้วเมื่อกี้พอดีคุณฟ้า พี่ฟ้าพูดถึงว่ากัวซาวันนั้นเกิดอะไรขึ้นอาจจะเล่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ใช่ไหมคะ

คุณโอ: หมายถึงอ๋อ ไม่ใช่ อันนั้นน่าจะเป็นน้องเป็ดต้องให้น้องเป็ดมาเล่าค่ะ 

จิตอาสา: อ๋อ คนละท่านนะคะ อันนี้ก็คือจะเป็นคุณโอ นะคะที่แค่ได้มาปรับสมดุลในค่าย อาการที่เป็นมาก็ดีขึ้น ก็ดูมันเหมือนจะง่ายนะ มันโกหกหรือเปล่า 

คุณโอ: ใช่ ตอนแรกก็คิดอย่างนั้นแต่ทีนี้บังเอิญว่าสนิทกับคือในกลุ่มนี่จะสนิทกันมาก คือต่างคนต่างมาคนเดียวแล้วมาสนิทกันเพราะฉะนั้นโอนี่จะคุยกับพี่ฟ้าตลอด เล่าให้เขาฟังว่านี่เราเป็นแบบนี้ ๆ แล้วพอเราหายเราก็เล่าให้เขาฟัง มันมีวัน คือจริง ๆ อาการนี่มันจะออกมาเรื่อย ๆ ค่ะอย่างเช่นร้อน ๆ หนาว ๆ หรืออะไรอย่างนี้ วันที่ 2 ตัวก็จะร้อนมาก พี่ฟ้าจับตัวว่าเป็นไข้หรือเปล่าบอกเปล่ามันก็จะร้อนเราก็รู้สึกว่ามันร้อนแต่เราก็ปล่อยมันดูว่ามันจะไปได้แค่ไหนแล้ว ทีนี้พอดีมันก็จะมีแบบตุ่มใส ๆ เกิดที่ง่ามขาค่ะ ตุ่มใส ๆ นี่ คือเม็ดมันจะใหญ่มากเกิดขึ้นมาก็คุยกับพี่แก้ว พี่แก้วก็บอก เออมันไม่เป็นไรหรอก ลองดูไปเรื่อย ๆ อะไรอย่างนี้ค่ะแต่ก็คิดว่าพิษมันคงจะค่อย ๆ ออกเพราะเราสะสมพิษไว้เยอะแล้วพอวันรุ่งขึ้นตุ่มนี่มันค่อย ๆ ยุบไปต้องมาฟังน้องอีกคนหนึ่งคือน้องเป็ดนี่ เขาจะมีอาการเยอะมากคือถ้าพูดนี่เรียกว่าถ้าใครไม่มาเห็นเองนี่อย่างที่โอบอกค่ะว่ามันต้องมาเองเห็นเองค่ะต้องทดลองเองถึงจะรู้ค่ะ

จิตอาสา: คือจริง ๆ แล้วต้องพิสูจน์ ด้วยตัวเราเอง

คุณโอ: ใช่ค่ะต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง 

จิตอาสา: ค่ะ ก็ฟังดูจากสองท่านก็ดูมันสามารถทำได้อย่างสบาย ๆ 

คุณโอ: ใช่ค่ะ สบายมาก 

จิตอาสา: ถ้าเรามีความมั่นคง ใช่ไหมคะ ศรัทธานะคะ

คุณโอ: ใช่ค่ะ ถ้าเรามีความศรัทธามีสติอะไรโอ๊ยมัน วิธีนี้มันง่ายที่สุดแล้วค่ะเพราะว่าจริง ๆ แล้วโชคดีว่านอกจากที่นี่จะมาเจอคนป่วย ซึ่งพอคุยแล้วเราได้กำลังใจว่าเรานี่ป่วยน้อยกว่าเขามาก แล้วสิ่งที่สำคัญคือมาเจอจอมยุทธเพราะในค่ายนี่มีจอมยุทธเยอะมาก แล้วโชคดีมากว่าได้คุยกับจอมยุทธหลายคนมาก แต่ว่าขอโทษที่จำชื่อไม่ได้นะคะเพราะว่าไม่ได้คุยเรื่องชื่อแล้วเขาก็ถ่ายทอดวิชามาแล้วก็มี มีอากิมนี่แอบกอดด้วยเพราะเขาบอกว่ากอดจะดูดพลังชีวิตตอนนี้โอได้ดูดพลังชีวิตของอากิมมาแล้วก็เลยคิดว่าน่าจะโอเคค่ะ กลับไปก็น่าจะ น่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ 

จิตอาสา: ค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าจริง ๆ คุณโอเป็นนักเขียนหนังสือ

คุณโอ: โดยอาชีพคือเราเรียกกันว่ารับจ้างเขียนหนังสือ เพราะในประเทศนี้ไม่มีอาชีพนี้ค่ะ

จิตอาสา: อ่อที่บอกว่ารับจ้างข้อมูลจะต้องเยอะอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าข้อมูลเยอะบางทีก็ไม่เป็นประโยชน์ ใช่ไหมถ้าเราเอามาใช้ไม่ถูกต้อง

คุณโอ: ไม่มีประโยชน์เลยค่ะเพราะว่าอ่านจนสติแตกด้วยซ้ำ ถึงเวลาก็หยิบหนังสือมาแล้วก็กางจะเอาตรงไหนคือเขาให้ไปโยคะก็โยคะไปเขาให้ไปจักรยานก็ปั่นมันวันหนึ่งเป็นกิโล ๆ ค่ะ

จิตอาสา: ก็คือสิ่งที่น่าจะได้ประโยชน์จากที่ฟังก็คืออย่างที่บอกจริง ๆ แล้วคือถึงอ่านเยอะ ก็คือจริง ๆ แล้วฟังอะไรมาคิดว่าถ้าใช่เราลองพิสูจน์ดู ปฏิบัติดู

คุณโอ: ใช่แต่อันนี้คือแต่ละคน โอต้องบอกก่อนว่ามันไม่เหมือนกันนะคะนี่คือพูดถึงตัวเอง แต่บางคนเขาอาจจะโอเคกับวิธีไหนอะไรอย่างนี้ค่ะ มันอาจจะไม่เหมือนกัน

จิตอาสา: ค่ะ ก็คือแต่จริง ๆ คุณหมอก็พูดย้ำบ่อย ๆ เหมือนกันนะให้ลองทำดู ทำอันไหนที่รู้สึกทำแล้วถูกกับเรา สบายตัว ก็ทำ แต่ถ้าทำแล้วไม่ใช่ไม่ถูก ไม่สบายตัว มันฝืนมันทนมันยากลำบากมาก ๆ ก็ให้หยุด

คุณโอ: ใช่ค่ะ ใช่

จิตอาสา: นะคะ ค่ะ ก็ท้ายนี้ อยากให้คุณโอฝากอะไรให้กับพี่น้องเผื่อที่จะเป็นกำลังใจหรือแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ

คุณโอ: ค่ะก่อนอื่นคือโอต้องขอบคุณนะคะขอบคุณหมอเขียว แล้วก็ขอบคุณธรรมะจัดสรรที่ทำให้เราทุกคนมาเจอกันน่ะค่ะแล้วก็ขอบคุณพี่ ๆ อาสาทุกคนนะคะขอบคุณป้านิดดานะคะที่แบบโอแอบอ่านหนังสือของป้านิดดามาตลอดแล้วถึงมีความเชื่อมั่นน่ะค่ะแล้วก็โอคิดว่าจริง ๆ คนที่ก้าวมาตรงเนี้ย คือมันเป็นจุดเริ่มต้นแล้วค่ะที่ถึงแม้เราไม่ป่วยแต่เราก็จะเป็นคนที่ ถึงแม้วันหนึ่งเราจะป่วยนี่ แต่เราจะรู้วิธีการที่จะรักษาตัวเองค่ะเหมือนที่คุณหมอบอกบางทีเปเปอร์มันก็ตอบเราไม่ได้ทุกอย่าง อะไรอย่างนี้น่ะค่ะก็แล้วก็ จริง ๆ มีความสุขมากน่ะค่ะในการมาค่ายครั้งนี้

จิตอาสา: ก็สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณคุณโอมาก หวังว่าก็คงนำวิธีนี้ไปปฏิบัติตัวต่อเนื่องนะคะค่ะ ก็ขอบพระคุณคุณโอที่มาให้ความรู้กับพวกเรานะคะ สาธุ

แบ่งปันประสบการณ์

การดูแลและเทคนิคที่ใช้

กรณีศึกษา 3.42 น.ส สกาวรัตน์ สิทธาชัยอนันต์

กรณีศึกษาที่3.42ชื่อน.ส สกาวรัตน์ สิทธาชัยอนันต์เพศหญิงอายุ17 ปีอาชีพนักเรียนจังหวัดเชียงใหม่  โรคหรืออาการ : มีก้อนเนื้อโตผิดปกติที่บริเวณสะโพกซ้าย วันที่เข้าค่าย 12 – 18 มีนาคม 2555 (ครั้งที่ 1) ณ สวนป่านาบุญ 1 ดอนตาล มุกดาหาร เก็บข้อมูล วันที่ 15 มีนาคม 2555 เมื่อ...

กรณีศึกษา 3.29 คุณแบล็กเบอร์รี (นามสมมุติ)

กรณีศึกษาที่3.29ชื่อแบล็กเบอร์รี (นามสมมุติ)เพศหญิงอายุ62 ปีจังหวัดอำนาจเจริญ โรคหรืออาการ : ปวดท้องมีถ่ายอุจจาระเหลวสลับท้องผูก ไปตรวจโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยทำ CT.scan ท้อง พบเนื้องอกขนาด 6.4x3.5 ชม.แพทย์แนะนำผ่าตัด การดูแลและแก้ไขอาการ :...

กรณีศึกษา 3.17 คุณแตงโม (นามสมมุติ)

กรณีศึกษาที่3.17ชื่อแตงโม (นามสมมุติ)เพศหญิงอายุ55 ปีจังหวัดอำนาจเจริญ โรคหรืออาการที่ 1 : มีก้อนเนื้อใต้คาง ข้างขวา ขนาดประมาณ 2 นิ้วมือ แสบที่คอ พูดนานเสียงจะแหบ กลืนน้ำลายลำบาก กินเผ็ดจะจี๊ดขึ้นขมับขวา เป็นมา 4-5 ปี การดูแลและแก้ไขอาการ : ใช้เวลา 2 เดือน...

กรณีศึกษา 3.11 คุณชมพู่ (นามสมมุติ)

กรณีศึกษาที่3.11ชื่อชมพู่ (นามสมมุติ)เพศหญิงอายุ37 ปีจังหวัดอุบลราชธานี โรคหรืออาการ : มีก้อนที่เต้านม 1.5 เซ็นติเมตร ตรวจพบที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ แพทย์ให้รอดูอาการ 3 เดือน  การดูแลและแก้ไขอาการ : ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น ใบย่านาง ใบเตย ใช้เวลา 3 เดือน...

กรณีศึกษา 3.2 คุณกีวี (นามสมมุติ)

กรณีศึกษาที่3.2ชื่อคุณกีวี (นามสมมุติ)เพศหญิงอายุ15 ปีจังหวัดอุบลราชธานี โรคหรืออาการ : เนื้องอกที่แกนสมอง ผ่าตัดแต่เนื้องอกยังเหลือ 20% ไม่มียารักษา & อาจต้องผ่าตัดซ้ำ  การดูแลและแก้ไขอาการ : ลดเนื้อ นม ไข่ (กินปลา) เพิ่มผักผลไม้ฤทธิ์เย็น...

กรณีศึกษา 2.76 นางชูจิต ไชยชนะ

กรณีศึกษาที่2.76ชื่อนางชูจิต ไชยชนะเพศหญิงอายุ62 ปีอาชีพจังหวัดนนทบุรีโรคโรคบ้านหมุน โรคซีสต์เต้านม โรคปวดหลังอาการวันสัมภาษณ์15 ธันวาคม 2557 มีอาการบ้านหมุน เป็นซีสต์เต้านม ปวดหลัง มีอาการร้อนเกินดื่มน้ำสมุนไพรปรับสมดุล เมื่อมีอาการไม่สบาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ 2 ปี...

กรณีศึกษา 2.16 นางสาวฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์

กรณีศึกษาที่2.16ชื่อนางสาวฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์เพศหญิงอายุ46 ปีจังหวัดนครราชสีมาโรคโรคปวดหัวจากอุบัติเหตุ โรคช็อกโกแลตซีสต์อาการปวดหัว เป็นประจำวันสัมภาษณ์30 พฤศจิกายน 2557 โรคประจำตัว คือ มีอาการปวดหัว เป็นประจำ จากอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นจนสลบ เมื่อปี 2548 เมื่อ 9...

กรณีศึกษา 2.3 นางกมลพรรณ ฮอฟแมน

กรณีศึกษาที่2.3ชื่อนางกมลพรรณ ฮอฟแมนเพศหญิงอายุ54 ปีอาชีพจิตอาสาแพย์วิถีพุทธจังหวัดตราดโรคโรคซีสต์เต้านมซ้ายวันสัมภาษณ์28 ธันวาคม 2557 มีอาการตึงแข็งปวดกล้ามเนื้อหลัง ปวด ชาสะโพกซีกซ้ายร้าวไปปลีน่อง เป็น ๆ หาย ๆ ในเวลา 10 ปี เป็นไข้หนาวสั่น...

กรณีศึกษา 1.125 นางสาวจตุพร มงคลชัยทรัพย์

กรณีศึกษาที่1.125ชื่อนางสาวจตุพร มงคลชัยทรัพย์เพศหญิงอายุ51 ปีโรคเนื้องอกในกระดูกโพรงฟันวันสัมภาษณ์29 มีนาคม 2558 ประวัติเคยรักษารากฟันมา 5 ปีก่อน ป่วยเป็นโรคเนื้องอกขนาดประมาณ 3x5 เซนติเมตรในกระดูกโพรงฟันใต้ซี่ที่เคยรักษารากฟันไว้...

กรณีศึกษา 1.123 คุณปิยะพัชร์ นิรมานสกุลพงศ์ 

กรณีศึกษาที่1.123ชื่อปิยะพัชร์ นิรมานสกุลพงศ์ เพศหญิงอายุ53 ปีประเทศออสเตรเลียโรคโรคเนื้องออกที่ไตข้างขวาวันสัมภาษณ์28 มกราคม 2558 ผลการตรวจทางแผนปัจจุบันพบเนื้องอกที่ไตข้างขวา X –ray 11 เซ็นติเมตร ภาพไตข้างขวาของผู้ป่วยที่มาเข้าค่าย กลับไป X-ray พบว่าก้อนเนื้องอกลดลง...

กรณีศึกษา 1.115 คุณจีรวรรณ วัฒนศิลป์

กรณีศึกษาที่1.115ชื่อจีรวรรณ วัฒนศิลป์เพศหญิงจังหวัดสุราษฏร์ธานีโรคมีก้อนเนื้อ 2 ก้อนวันสัมภาษณ์17 พฤศจิกายน 2557 มีก้อนเนื้อ 2 ก้อน ขนาด 1.5 และ 2 เซนติเมตร หมออยากตัดชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ แต่ไม่อยากตัด เลยไปเข้าค่ายหมอเขียวแทน ออกจากค่ายก็ปฏิบัติตัวตามยา 9 เม็ด...

กรณีศึกษาที่ 1.52 คุณพรปวีร์ จันทร์อุไร

กรณีศึกษาที่1.52ชื่อพรปวีร์ จันทร์อุไรเพศหญิงโรคโรคเนื้องอกต่อมน้ำเหลืองบริเวณหลังหูคอบ่าวันสัมภาษณ์15 กุมภาพันธ์ 2556 คุณพรปวีร์: กราบนมัสการพระคุณเจ้า แล้วก็นักบวชทุกฐานะนะคะแล้วก็กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่รักสุขภาพทุกท่านนะคะดิฉันชื่อ นางสาวพรปวีร์จันทร์อุไร...

กรณีศึกษาที่ 1.51 คุณกิ่งกมล

กรณีศึกษาที่1.51ชื่อกิ่งกมลเพศหญิงโรคโรคเนื้องอกสมองอาการปากเบี้ยวจากเนื้องอกสมองวันสัมภาษณ์15 มิถุนายน 2556 คุณกิ่งกมล: ก็เจริญธรรมแล้วก็สำนึกดีนะคะ ดิฉันก็มาค่ายนี้เป็นครั้งแรกก็พอดีตัวเองก็มีปัญหาสุขภาพนะคะ อย่างทางพี่ ๆ ทุกคน...

กรณีศึกษาที่ 1.14 คุณอรรถวรรณ  หงอสุวรรณ

กรณีศึกษาที่1.14ชื่ออรรถวรรณ  หงอสุวรรณเพศหญิงประเทศรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาโรคโรคเนื้องอกที่มดลูก ที่ตับ ซีสต์ที่เต้านมวันสัมภาษณ์25 กันยายน 2557 อยู่ที่นิวยอร์คค่ะ ป่วยมากเลยนะคะ ตั้งแต่ก่อนท้องน่ะค่ะ...