1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.24 |
ชื่อ | ปาน |
เพศ | หญิง |
อายุ | 47 |
จังหวัด | เพชรบูรณ์ |
โรค | โรคเลือด |
วันสัมภาษณ์ | 16 ตุลาคม 2557 |
ชื่อปานนะคะอายุ 47 ปีค่ะเป็นโรคเลือด มาจากเพชรบูรณ์ค่ะ มาเข้าค่ายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เข้าครั้งแรกเมื่อสิงหาคม ปี 2556 ค่ะแล้วก็กลับไปปฏิบัตินะคะ คือเป็นโรคเยอะมากหลาย ๆ โรคแล้วทีนี้ก็ไปปฏิบัติอยู่ 6 เดือนเป็นลำไส้เป็นไซนัส แล้วก็ผ่าตัดหู ผ่าตัดคอ แล้วก็ปวดหัวหาสาเหตุไม่ได้ เป็นก้อนที่รักแร้แต่ว่าก็คือคุณหมอจะให้ผ่า แต่ก็ยังไม่ยอมผ่า นะคะแล้วทีนี้บางโรคก็ไปรักษาหลาย ๆ โรงพยาบาลแล้วก็ซึ่งหมอคนละหมอโรงพยาบาลคนละโรงพยาบาลเดิมให้ยาตัวนี้มา พอไปที่ใหม่ทำไมเราได้ยาตัวเดิม ซึ่งคนละโรคกัน เป็นยาชนิดเดียวกัน ก็เลยทำให้เราว่า เอ๊ะ ทำไมเราต้องมากินยาตัวเดียวกันซ้ำ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนละโรคแล้วเราจะรับยาเคมีมากเกินไปหรือเปล่า ก็เลยมีความรู้สึกว่ารักษานานมากแล้วแล้วบางโรคก็บอกหาสาเหตุไม่ได้แต่ก็ต้องจ่ายยา แล้วก็ต้องใช้ยาไปตลอดโดยที่ไม่รู้ว่าเราจะหายเมื่อไรทีนี้ก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่อยากไม่อยากกินยาเคมีแล้วก็เลยอยากหาวิธีอื่นก็เลยมาที่นี่เดิมทำงานอยู่กรมราชทัณฑ์ แล้วพี่ที่เขาอยู่ด้วยกันเขาเคยแนะนำแต่เราก็ยังไม่เคยสนใจที่จะมา แล้วหลังจากนั้นลาออก ออกจากงาน ที่ทำงานคืออยู่จังหวัดพิษณุโลก แล้วทีนี้ก็ลาออกมามาอยู่ที่เพชรบูรณ์ ก็เลยมีเวลาที่จะมาก็เลยมาที่นี่ เพราะว่าไม่อยากที่จะทานยาเคมียาอะไรเพราะมีความรู้สึกว่าถ้าต่อไปวันข้างหน้าทานยาเคมีไปเรื่อย ๆ เราจะเป็นโรคอะไรอย่างใหม่เกิดขึ้นต่อไปอีกไหม เราก็เลยอยากหยุด
พอมาสิงหาคม ปีที่แล้ว ก็รู้สึกว่ามาแล้วทำที่นี่ทุกอย่างแล้วดีค่ะ อาการดีแล้วก็กลับนำไปใช้ไปทำอยู่ 6 เดือน อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้นบางอย่างก็หายเลย แล้วก็คิดว่าตัวเองหายแล้วพอหายแล้วก็หยุดทำค่ะพอหยุดทำก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมทีนี้อาการที่เป็นอยู่มันก็กลับมาแล้วก็รุนแรงกว่าเดิมด้วย แล้วก็แถมยังพอไปตรวจใหม่ก็ มีอาการของโรคชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ ณ ตอนนี้คุณหมอก็ยังนัดว่าจะต้องไปตรวจอยู่หลังจากกลับจากค่ายนี่ค่ะ วันที่ 26 นี่ก็ต้องไปพบคุณหมอที่นัดไว้ค่ะ จริง ๆ แล้ว 2 เดือนที่แล้วคุณหมอจะนัดส่งไปอีกเฉพาะด้าน อีกโรคหนึ่งที่เป็นใหม่คือชา นอนแล้วชา ชามือชาเท้าปวดนะคะแล้วก็เหมือนมือเรา เกร็ง แข็ง บวม แฟนจะต้องคอยมาดูประมาณ 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมงก็จะคอยมานวดให้นะคะตอนกลางคืน คอยมาดูแล้วก็จะคอยนวดให้ เป็นระยะ ๆ เป็นอย่างนี้มาตลอดเลย ทีนี้ก็เลยไปตรวจแต่คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวลองดูก่อน ให้ยามาทานก่อน
ถ้าไม่ดีจะส่งไปเฉพาะทางซึ่งเราก็ไม่อยากไปอีกแล้วค่ะ เพราะไปใหม่เราก็คงจะได้ยาตัวใหม่ เป็นโรคชนิดใหม่เกิดขึ้นเพิ่มจากเดิมที่มี 4-5 โรคอยู่แล้วก็เลยเลื่อนคุณหมอมา 2 เดือน แล้วก็ขอมาที่นี่ก่อนทีนี้พอมาที่นี่วันที่มานะคะคือปวดหัวใช้ยาประจำอยู่นั่งรถมาก็จากอำเภอหล่มสักนะคะมาถึงมุกดาหารนี่ 7 ชั่วโมงครึ่งก็ปวดหัวมาตลอด ทีนี้มาถึงที่นี่ลงทะเบียนเสร็จอะไรเสร็จก็นั่งฟังค่ะ ก็ปวดหัวก็มันไม่หายก็เลยเข้าไปนอนที่เต็นท์แล้วก็ใช้ยาตัวเองที่พกมาด้วย ก็กินยาก็ไม่หายค่ะเสร็จแล้วก็ออกมานั่งฟังอาจารย์หมอเขียวท่านพูด พูด ๆ แล้วก็เราก็ทำกัวซาหัวไปเรื่อย ๆ กัวซาหัวไปประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าได้ หายเลยค่ะ อาการที่ปวดหัวนะคะหาย แล้วท้องที่ว่าดีขึ้น ในลำไส้ มีทั้งเป็นมูกเป็นเลือด เพราะว่าคุณหมอให้มาสังเกตอยู่ดูที่บ้านนะคะตอนอยู่บ้านจะต้องใช้ถุงมือแล้วก็ไม้ ขอโทษนะคะมันอาจจะไม่สะอาด ใช้ไม้เขี่ย ๆ อุจจาระตัวเองเพื่อที่จะต้องตรวจเพราะว่าคุณหมอเขาให้กลับมาสังเกตตัวเองดูอาการดูสภาพของตัวเองว่ามันมีสภาพเป็นยังไงตอนนี้มีอาการอะไรบ้างเราก็เจอเลือดเจอมูกอะไรในนี้เพราะว่าเราต้องบันทึกแล้วเราจะกลับไปพบตามที่เขานัด ตอนอยู่บ้านมันก็ปวดท้องแล้วก็ท้องอืดอะไรตลอดเลยนะคะ
พอมาที่นี่ก็ใช้น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดอาหารอะไรทุกอย่างที่นี่ไม่ได้ใช้อาหารนอกค่ายแล้วก็ทำดีท็อกซ์น้ำปัสสาวะ น้ำอะไรตามนี่หมดเลยก็อาการท้องดีขึ้นค่ะ จากที่บ้านเวลาปวดก็จะไปนอนตัวหงิกตัวงอ อาการที่เป็นอยู่ที่นี่ทุเลาขึ้นค่ะ ทีนี้อยากเล่าว่าตอนที่มาอยู่ที่ค่ายนี้มีอาการเกิดขึ้น เป็นช่วงที่หนูกำลังเอาน้ำปัสสาวะ น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดอะไรทำดีท็อกซ์ตัวเองอยู่ในห้องน้ำพอดีแล้วไม่ได้เติมน้ำอุ่นเพราะว่าก่อนหน้านั้นฝนไม่ตก แต่พอเข้าไปอยู่ในห้องน้ำแล้วอยู่ ๆ ฝนตกลงมาแรงมาก ก็ทำอยู่ 2 ครั้ง แล้วก็อาบน้ำอะไรเสร็จ ฝนก็ไม่หยุด รอ มันตกนานตอนกลางคืนเป็นไข้แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงก็คือนอนไข้อยู่แล้วตอนเช้าก็มาถามคุณป้า คุณป้าอาต่อนให้ไปทำน้ำผงถ่านทาน มีผงถ่านมีน้ำมันเขียว มีน้ำย่านาง แล้วก็น้ำอุ่น ก็ไปทำกระบอกหนึ่งเขย่า ๆ แล้วก็นอนดื่มน้ำถ่านแล้วก็ไปนอนอาการไข้ก็เบาลง แล้วหัวก็กัวซาไปค่ะ
ทีนี้เมื่อวานนี้พอตอนเย็น ๆ มา 6 โมงมันหนาว ที่ว่าเห็นเมื่อวานจะใส่ทั้งผ้าพันคอใส่ทั้งเสื้อแขนยาว เอาถุงเท้ามาใส่ มันหนาวกลับไข้ขึ้นมาอีก ก็เลยไปกัวซา ๆ แล้วก็มันแดงขึ้นมากเลย ยังไม่ดีขึ้น คุณป้าส้มนะคะแนะนำให้เอาน้ำตะไคร้เอาน้ำตะไคร้กับน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดผสมกันแล้วก็ดื่ม เสร็จแล้วก็ไปนอนพักค่ะ ทีนี้ตรงไหนที่คือเป็นไข้แล้วตรงนี้มันร้อนคอ หัว หน้า จมูก อะไรนี่จะร้อนมาก แต่ว่ามือกับเท้าเย็นทีนี้ก็ให้เอากระเป๋าน้ำร้อนโปะไว้ที่เท้าส่วนที่เย็น ส่วนที่ร้อนให้ เอาน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดชุบผ้าบิดหมาด แล้วก็เอาพอกไว้ เอาน้ำสกัดหยอดหูหยอดตาทำอยู่ ทีนี้พออาการหนาวหายไป ก็เหลืออาการร้อน ตอนเย็นก็จะมีอาการท้องอืด ปวดท้องท้องอืด คุณป้าส้มก็ให้ทำเอาผงถ่านแล้วก็เอาน้ำมันเขียวกับน้ำอุ่นผสม แล้วก็กดจุดตัวเอง กดจุดลำไส้ใหญ่ กดจุดกระเพาะอาหาร แล้วทีนี้ก็นอนได้หายปวดท้อง หายท้องอืด ทีนี้พอตี 1 ครึ่ง ไข้มาอีกมันหนาวแล้วก็ร้อนด้วยเมื่อคืนก็เลยทำยังไงก็น้ำอุ่นก็ไม่มีแล้ว ก็หาถุงเท้าหาอะไรมาใส่แล้วก็เอาน้ำเพราะว่าน้องเขาเอาน้ำย่านางไปไว้ให้ด้วยก็เลยเอาน้ำย่านางไปพอกในส่วนที่ร้อนแล้วก็หยอดหูหยอดตา ก็ส่วนที่ร้อน ๆ ก็เช็ดน้ำสมุนไพรเสร็จแล้วก็พอกต่อมาตรงที่เย็นมันก็เบาขึ้นทีนี้อาการไข้มันก็ดีขึ้น จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อคืนนี้ ก็พอจะสรุปได้ว่าถ้าเราถ้าเรารู้วิธี 9 ข้อของคุณหมอ ทำกับตัวเอง ก็อาการมันก็ทุเลาลงหายลงไปได้ กดจุด กัวซา ก็ดีขึ้น ณ ตอนนี้คือไม่หนาวไม่ไข้แล้วแต่ว่าเหลือแต่อาการร้อนไข้เบาลง เพราะฉะนั้นแสดงว่า 9 ข้อของคุณหมอนะคะถ้าใครเข้าใจหรือว่าเอาไปใช้แล้วก็ปรับให้เข้ากับตัวเองก็จะได้ผลมากเลย
อยากจะฝากพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านที่มาที่นี่นะคะเอาประสบการณ์แล้วก็เก็บความรู้ที่นี่ไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเอง เพราะว่าจากที่ตัวเองทำมามันมีประโยชน์มาก มันดีมากเลย มันได้ผลจริง ๆ เพราะฉะนั้นมาแล้วก็อย่าให้เสียประโยชน์เอากลับไปใช้จริง ๆ จะได้ผลอย่างต่อเนื่องด้วยเพราะว่าทำอยู่ 6 เดือนพอดีแล้วไม่ทำต่อ อาการก็กลับมาส่วนใหญ่คนเราจะละเลยในจุดนี้ เพราะคิดว่าตัวเองหายแล้วประมาทก็เลยหยุด แต่จริง ๆ แล้วหยุดไม่ได้ ต้องทำต่อแต่ถ้าไม่หยุดก็ไม่รู้ ก็ไม่กลับมา ณ วันนี้ เพราะจริง ๆ แล้วคิดว่าไม่คิดจะได้มาครั้งที่ 2 ค่ะ เพราะว่าพอมาครั้งแรกหายแล้ว ดีก็จริง ๆ คือมันไม่เที่ยงนะคะ ห้ามยึดมั่นถือมั่น อีกสิ่งหนึ่งนะคะที่จะฝากเอาไว้ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ทุกท่านก็จะได้เรียนรู้เหมือนกันนะคะ เรามีทั้งบุญแล้วก็บาปนะวิบากเขาจะบอกเราเอง เราจะได้เรียนรู้เองนะคะ อันนี้ก็เป็นถือว่าเป็นทั้งวิบากบุญแล้วก็วิบากบาปของที่ได้เรียนรู้ในค่ายนี้นะ