3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.35 |
ชื่อ | นางฐิติทิพย์ (ต๋อย) |
เพศ | หญิง |
อายุ | 60 ปี |
จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
โรคหรืออาการ : มะเร็งเต้านม (ระยะที่ l)
วันที่เข้าค่าย 14-20 มกราคม 2555 (ครั้งที่ 1) ณ สวนป่านาบุญ 1 ดอนตาล มุกดาหาร เก็บข้อมูลวันที่ 19 มกราคม 2555
เมื่อเดือน กรกฎาคม ปี 2554 ไปตรวจที่โรงพยาบาลบางกอกเนิสซิ่งโฮม หมอพบว่ามีก้อนเนื้อประมาณ 1 เซ็นติเมตร นำชิ้นเนื้อไปตรวจ หมอบอกว่าเป็นมะเร็งเต้านม (ระยะที่ l) เป็นมะเร็งชนิดด้อยฮอร์โมน
วันที่ 27 กันยายน 2554 หมอนัดผ่าตัดเอาออกหลังผ่าตัดแล้วนัดให้ไปฉายแสงที่โรงพยาบาลจุฬาฯ 30 ครั้ง และได้นัดดูอาการหลังฉายแสงก็พบว่าทุกอย่างปกติดี
เดือนกุมภาพันธ์ 2555 หมอขอนัดอีกครั้งเพื่อไปให้ยากดฮอร์โมน เพราะร่างกายสร้างฮอร์โมนมากเกินไป คุณต๋อยเลยไม่อยากไปหาหมอต่อ มีความรู้สึกว่าจะต้องแก้ปัญหาไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ พอดีเริ่มมีอาการชาที่ปลายนิ้วมือซ้าย (โดยเฉพาะนิ้วชี้) และบริเวณท้ายทอย ซึ่งบางครั้งปวดมึนศีรษะ ตัวเองเคยรู้จักคุณหมอเขียวสมัยไปพันธมิตร ก็เลยตัดสินใจมาเข้าค่ายดู
การดูแลและแก้ไขอาการ :
ผลของการมาเข้าค่ายได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นดังนี้:-
l. ปกติ ปากคอจะแห้ง ต้องทาขี้ผึ้งตลอดเวลา พอมาเข้าค่ายได้ 2 วัน ก็รู้สึกปากคอชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งเหมือนเดิม (ไม่ได้ทาขี้ผึ้งเลยเพราะลืมเอามาตอนเข้าค่ายด้วย)
2. ข้าพเจ้าได้ (จิตอาสา: คุณจงกช สุทธิโอสถ จังหวัดภูเก็ต) ให้เอากากสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมผงถ่านพอกรัดไว้ที่เต้านม ทิ้งไว้ 1 คืน พอรุ่งขึ้นก็รู้สึกสบายขึ้น ไม่ตึงข้างในเหมือนก่อนมา และรู้สึกนิ่มลง เบาสบายขึ้น
3. อาการทั่วไปดีขึ้น โดยเฉพาะอาการชาปลายมือ และอาการมึนที่ท้ายทอย ก็หายไป
4. คนไข้ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการเข้าค่ายอย่างเคร่งครัด ดูมีความสุขในการช่วยงานในค่ายได้อย่างดี และตั้งใจว่าหากมีโอกาสจะมาเข้าค่ายอีกในครั้งต่อไป
หลังกลับจากค่ายไปแล้วข้าพเจ้า (จิตอาสา: คุณจงกช สุทธิโอสถ จังหวัดภูเก็ต) โทรไปคุยด้วย คุณต๋อยก็บอกด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขว่า ทำการประคบด้วยกากสมุนไพรอยู่เรื่อย ๆ ตอนนี้เต้านมนิ่มดี คอยคลำดูก็ไม่มีก้อนเหลืออีก อาการชาก็หายไปแล้ว ก็ได้แสดงความยินดีกับคนไข้และแนะให้ปฏิบัติต่อเนื่องเพื่อความแข็งแรงของร่างกายตลอดไป