3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.68 |
ชื่อ | เด็กชายชารีฟ ทิพย์ทอง |
เพศ | ชาย |
อายุ | 10 ปี |
จังหวัด | ตรัง |
โรคหรืออาการ : โรคขี้หูอุดตัน
ตอนแรกเลยที่เพ็ญ (แม่) มาเข้าค่ายหมอเขียวครั้งแรกน่ะ แบบประมาณว่าร้อนวิชาด้วย แล้วก็ลูกคิดถึงเรา พอกลับไปถึงเขาก็เชื่อฟัง แม่ก็บอกเล่าว่าไปทำอะไรมาบ้าง ลูกอยากทำมั๊ย ลูกก็จะอยากทำ ก็จับลูกดีท็อกซ์หมดทุกคน (หัวเราะ) ตอนนั้นชารีฟ ปีไหนนะเราไป ประมาณต้นปี มกราคม 2553 ก็ไป 5 วัน ลูกก็คงคิดถึงไปถึงแม่ก็ร้อนวิชา แล้วพอกลับไปถึงลูกก็ไอ ๆ ก็จับเขาดีท็อกซ์แล้วก็กัวซาให้ แล้วก็ด้วยอัศจรรย์นะแกล้งไม่ให้กินยาด้วย ที่จริงถ้าเป็นเมื่อก่อนป่าป๊าเขาคงพาไปหาหมอเรียบร้อยแล้ว และทั้งที่มียาแก้ไออยู่ ก็บอกไม่ต้องกินเลยนะลองดู ๆ ลองดูมะ (แม่) ไปเรียนมาแล้ว (หัวเราะ) แล้ว ปรากฏว่าคืนนั้น เขาไม่ไอเขาหาย
แล้วก็พอถัดจากนั้นไม่กี่วัน เขาจะเป็นเด็กขี้หูตัน ถ้าเป็นหมอสมัยใหม่เดี๋ยวนี้เขาจะไปดูด แล้วตอนนั้นเขาจะเจ็บ ๆ จนร้อง ก่อนหน้านี้เคยเป็นแล้วก็ร้อง ๆ จนต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ หมอบอกว่าเป็นที่แก้วหู ขี้หูจะติดแน่นแล้วแก้วหูจะทะลุ ถ้าถูกแก้วหูแล้วเดี๋ยวจะไม่ได้ยิน ได้ยินต่ำกว่าคนอื่น จริง ๆ ชารีฟมีอาการของภูมิแพ้คือ คันหู ตั้งแต่เล็ก ๆ มันเกี่ยวยังไงกับขี้หูก็ไม่รู้ แต่ระบบหูของเขาจะเป็นยังงี้ ค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องโปะยาสลบ เข้าห้องผ่าตัด แล้วก็เขี่ยขี้หูออกมมา ดูดเอาขี้หูออกมาค่าใช้จ่ายตอนนั้น 9,000 กว่าบาท ไม่รวมค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าอื่น ๆ นะ ไม่ใช่ 9,000 หรอกถ้าคิดเรื่องเดินทางค่าน้ำมันจากสตูล ตอนนั้นอยู่สตูล ต้องไปรอนานก็ต้องซื้อของเล่นอีก เด็กนะต้องหลอกล่อทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่ให้รอ รวม ๆ ก็เป็นหมื่นแหละ แค่แคะขี้หู แล้วก็ต้องไปรอ ไปถึงต้องจองห้องผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัดเท่าไร ค่ายาไม่มีอะไรเพราะแค่แคะขี้หู (หัวเราะ) ค่าตรวจกับค่าใช้อุปกรณ์เขา ตอนนั้นไม่มีตังค์ ดีที่ว่ามีบัตรเครดิตอยู่ก็ได้ใช้บัตรเครดิตครั้งแรกในชีวิต เป็นเอกชนด้วย ไปแบบทุลักทุเล คือลูกเจ็บลูกร้อง แล้วไปหาหมอที่สตูล 2 รอบ หมอคอหูจมูก ก็ทำไม่ได้ก็เลยไปนู่นหาดใหญ่ พอไปนู่นหมอบอกมีทางเดียวถ้าจะให้หาย ก็ทำได้เลยก็คือต้องโปะยาสลบน้องแล้วก็จัดการเขี่ยขี้หูออก แค่แคะขี้หู (แล้วก็หัวเราะ) ออกมาก้อน ๆ เต็มเลยนะ เก็บกลับมาด้วย เอ้อมาดูอยู่ตั้งหลายเดือน เล่าให้ใครฟังเขาก็หัวเราะจะตาย เสียค่าแคะขี้หูเป็นหมื่น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในชีวิตคน แต่ตอนนั้นถ้าไม่ไปหาหมอเราก็ไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไง เพราะลูกร้อง หมอบอกว่าถ้าไม่ดมยาก็ทำไม่ได้ ก็ต้องรอ เราบอกว่าเราไม่รอหรอกเพราะลูกเราเจ็บ
การดูแลและแก้ไขอาการ :
ทีนี้พอหลังจากกลับจากค่ายหมอเขียว เราก็ได้เรียนรู้เรื่องน้ำสกัดน่ะ น้ำสกัดย่านางว่าหยอดหูหยอดตาหยอดจมูกได้ นู่นก็ไปหยอดกันใหญ่เลยนะ หยอดไปหยอดมาดม ๆ ดูหู หูมีอาการคล้าย ๆ เหมือนเดิมแล้วนะ มันมีเหมือนมันเหม็น ๆ แล้วก็ มันดูเหมือนกับเห็นแต่ขี้หูเลย ก็เลยจัดการจับหยอด ๆทำอยู่นานมากเลยแล้วก็เอาที่ตักน่ะตักออกมาเพราะว่าหมอไม่ให้ใช้คอตตอนบัด ออกมาก้อนเยอะเหมือนกับที่หมอที่นู่นทำให้เลย แล้วก็ทำทั้ง 2 ข้างเลยนะ ทำ ๆ จนเดี๋ยวนี้ก็คือต้องสังเกตต้องดม ๆ หูกันทุก ๆ เดือนก็ต้องทำแบบนี้ หยอดน้ำย่านางกัน ถ้าเห็นเขานั่งยังงี้ ๆ บ่อย ๆ (ทำท่าเกาในหู) ก็จัดการเลย ชารีฟมาเลยมานอน มะจะจัดการให้ ก็ทำมาบ่อยนะโดยมาก 3 เดือนนี้มันจะได้เยอะก็ใช้ฐาน 3 เดือนนี่แหละ เออ 3 เดือนครั้ง ๆ ทำมาตลอดไม่เคยขาด แต่ไม่ได้หยอดทุกวันนะ หยอดเวลาจะทำการแคะแต่หยอดอย่างน้อง 3-4 รอบนะ หยอดทั้ง 2 ข้างสลับไปสลับมาถึงจะตักได้ แต่จริง ๆ เขาเป็นข้างเดียวนะข้างขวา แต่ต้องทำทั้ง 2 ข้างมันจะได้ช่วย
แล้วก็เพิ่งรู้จากเพื่อนในเฟสนะ เพื่อนเพ็ญต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ปีนึงหลายครั้งมาก เขาเอง แล้วก็ลูกสาว ลูกชายจะเป็นโรคเดียวกับชารีฟเลย ก็คือขี้หูตัน เขาก็ไปดูดที่โรงบาลเอกชนครั้งละ 3,000 กว่าบาทต่อคน ทุกครั้งเลย ปีละหลายครั้ง ประมาณ 4 เดือนครั้งและเราจึงแนะนำไปทางเฟส เขายังไม่เข้าใจ และเขาอาจจะสมัยใหม่ เขาก็มองไม่ออกว่ามันจะทำได้เองหรออะไรงี้ เพราะว่าเขาบอกว่าเขาก็เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ใช้วิธีแบบ แบบที่เขาพาลูกไปทำนี่แหละตลอด เราก็เลยบอกว่าก็ลองหาเนี่ยน้ำย่านางสกัดแล้วก็หันมาลองหยอดเองดูซิ แล้วก็ตักออกมา ลองทำดู ส่องไฟฉายเข้าไป แล้วก็ตักนะมันไม่ยากเลยนะ แต่เขายังไม่กล้า ล่าสุดนี้เขาเป็นเองแล้วเขาบอกว่าไปหาหมอมาก็พันกว่าบาท หรือกี่พันกว่าบาทก็ต้องจ่ายไปแหล่ะ (หัวเราะ)
เออ แต่เดี๋ยวนี้เราสบายขึ้นเยอะเลย ตอนนี้เรื่องขี้หูของชารีฟก็ไม่ต้องถึงหมอแล้ว เราจะช่วยกันดูว่าถ้ามันนั่งอย่างนี้หู (ขยี้หูให้ดู) เราต้องจับมาหยอด ไม่หายหรอก เขาบอกว่ามันจะเป็นไปอย่างนี้แหละ เอาคอตตอนบัดไปเขี่ยไม่ได้ คันเราก็ต้องช่วยหยอด หลังจากทำครั้งแรกออกมา ครั้งหลัง ๆน่ะเขาก็ไม่อยากทำ แต่ก็บอกเขาว่าไม่ต้องไปถึงหมอหรอก เราทำได้ มะทำได้ ตกลงเขายอมให้แคะเองแม่แคะเอง หยอดน้ำสกัดย่านาง