3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.69 |
ชื่อ | นางบุญเกื้อ ชุมสังข์ |
เพศ | หญิง |
อายุ | 60 ปี |
จังหวัด | สุราษฎร์ธานี |
โรคหรืออาการ : โรคความดันโลหิตสูง
เคยมาอบรมค่ายสุขภาพที่ดอนตาล ตอนนี้เพิ่งตรวจว่าเป็นความดัน หมอให้ยามาทาน แต่เนื่องจากไม่ต้องการทานยา เพราะกลัวผลข้างเคียงจึงรีบปรับสมดุล และความดันก็ลดลงได้ภายใน 4 วัน และไม่ต้องทานยา
โรคความดันโลหิตสูง เกิดจากพิษ 9 ข้อ คือ
1) อารมณ์เป็นพิษ เช่น ความเครียด ความเร่งรีบ เร่งรัด เร่งร้อน ความกลัว ความวิตกกังวล ความไม่โปร่ง ไม่โล่ง ไม่สบายใจ ความไม่พอใจ ความมุ่งร้าย อาฆาต พยาบาทความโลภ โกรธหลง ยึดเกิน เอาแต่ใจตัวเอง เป็นต้น
2) อาหารเป็นพิษและไม่สมดุล พิษจากอาหารประกอบด้วย 6 สาเหตุหลักดังนี้
– พิษจากอาหารมีสารพิษสารเคมีทั้งในพืชและสัตว์ ทั้งจากขบวนการผลิตและการปรุงเป็นอาหาร
– พิษจากอาหารมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์มากเกินไป
– พิษจากอาหารปรุงรสจัดเกินไป
– พิษจากชนิดของอาหารไม่สมดุล นอกจากการไม่รู้ชนิดและสัดส่วนของอาหารแต่ละชนิด ที่สมดุลแล้ว การไม่รู้เทคนิคการปรุงและการรับประทานที่สมดุล ก็จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้
– พิษจากของเสียและความร้อนจากขบวนการย่อย สันดาปและเผาผลาญอาหาร
– พิษจากการไม่รู้เทคนิคในการรับประทานอาหารสุขภาพอย่างผาสุก และไม่รู้วิธีปฏิบัติในการลดละล้างความอยากในจิตต่ออาหารที่เป็นพิษ อย่างถูกตรง
3) พิษจากการไม่ออกกำลังกาย หรือการออกกำลังกายและอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง คือ การกายบริหารที่ไม่ได้คุณลักษณะ 3 ประการ ได้แก่
– ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็น
– ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
– การเข้าที่เข้าทางของกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็นการไม่ออกกำลังกายหรือไม่กายบริหารเลย ก็ยิ่งทำให้ไม่ได้ประโยชน์จากทั้งสองอย่างเลย
5) พิษจากการสัมผัสเครื่องยนต์ เครื่องไฟฟ้า หรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ มากเกินความสมดุล ควันพิษ และสารพิษต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
6) ไม่พึ่งตน ด้วยวิธีที่ประหยัดเรียบง่าย ในการลดความรุนแรงของพิษหรือระบายพิษออกจากร่างกาย
7) การเพียรการพักที่ไม่พอดี
8) บาปหรืออกุศลกรรม
9) การบูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ คือ
-ไม่สามารถลดปัญหาสุขภาพด้วยการแก้การแก้ที่ต้นเหตุ ส่วนใหญ่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ
-มีค่าใช้จ่ายที่สูง
-คนพึ่งตนเองได้น้อยลงในการดูแลแก้ไขปัญหาสุขภาพตนเอง
โดยมีพิษข้อใดขอหนึ่งหรือมากกว่านั้น เข้าไปในร่างกายของเราเมื่อเข้าไปในร่างกายของเรา จิตวิญญาณก็สั่งให้ประสาทอัตโนมัติไขสันหลังให้เกร็งตัวบีบเอาพิษออก โดยเฉพาะพิษที่ตกค้างอยู่ที่หัวใจและหลอดเลือดจำนวนมาก เมื่อตกค้างที่หัวใจและหลอดเลือดจำนวนมาก จิตวิญญาณตัวสัญญา จะสั่งให้หัวใจบีบตัวแรงเพื่อจะขับพิษออกไป เมื่อหัวใจบีบตัวแรง ความดันโลหิตก็ขึ้น เมื่อความดันโลหิตสูงมาก ๆ ก็เส้นเลือดในสมองแตกอาจทำให้ถึงตายได้
การรักษาแบบแพทย์วิถีธรรม เราทำตามพระพุทธเจ้าที่ท่านตรัสว่า ดับทุกข์ต้องดับที่เหตุ ดับเหตุแห่งทุกข์ ทุกข์ดับก็จะเกิดความสุขขึ้น เมื่อต้นเหตุคือมีพิษ ก็ระบายพิษออก แล้วใส่สิ่งที่เป็นสมดุลร้อนเย็นเข้าไป เมื่อเราระบายพิษออกด้วยวิธียา 9 เม็ด ระบายพิษออกไปได้ ร่างกายก็ไม่มีพิษต้องบีบออก จิตวิญญาณจะสั่งให้หัวใจคลายตัว เพราะไม่ต้องบีบเอาพิษออกแล้ว เมื่อหัวใจคลายตัวไม่ต้องบีบเอาพิษออก ความดันก็ลดลง หัวใจก็บีบตัวแค่พอเอาเลือดไปเลี้ยงร่างกายตัวเองเท่านั้น เพราะจิตตัวสัญญาเขารู้ว่าจะเอาเลือดไปเลี้ยงตัวเองเท่าไหร่ อย่างไร เพราะฉะนั้นความดันโลหิตก็ลดลง ก็หายจากโรคความดันโลหิตสูงได้ คนจำนวนมากที่มาเข้าค่ายจึงลดยาความดันโลหิตสูงได้
แต่การกินยาตามหมอสั่ง ยาจะมีผลสั่งระบบประสาท สั่งหัวใจอย่าบีบตัวแรง อยากบีบเอาพิษออก ตกลงหัวใจก็ไม่บีบตัวเอาพิษออก จะบีบตัวแค่พอดี กดหัวใจไว้ เสร็จแล้วพอพิษมากเข้า ๆ ร่างกายทนไม่ได้ ชีวิตทนไม่ได้ พอทนไม่ได้จิตวิญญาณสั่งหัวใจบีบตัวเลย ไม่ต้องไปฟังยา บีบตัวแรง ๆ เลยเราจะตายอยู่แล้ว พิษมันเต็มไปหมดแล้ว ก็สั่งหัวใจบีบตัวแรง ๆ คราวนี่ความดันก็ขึ้น ยาก็เอาไม่อยู่แล้ว หมอก็เปลี่ยนยาตัวใหม่กดหัวใจแรงกว่าเดิม ก็หยุดได้สักพักหนึ่ง แต่ต้นเหตุไม่ได้แก้ใส่พิษเข้าไปเรื่อย ๆ ความเครียด อาหารรสจัด อาหารเนื้อสัตว์ มลพิษต่าง ๆ ใส่เข้าไปไม่รู้จบไม่รู้แล้ว ใส่เข้าไปมากเข้า ๆ ชีวิตทนไม่ได้ จิตวิญญาณสั่งเลยหัวใจบีบตัวแรง ๆ ไม่ต้องพึ่งยา เราจะตายแล้ว ก็ทำอยู่อย่างนี้แหละ หมอก็เปลี่ยนยาไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ จนสุดท้ายไม่มียาตัวไหนเอาอยู่ ความดันก็ขึ้น เส้นเลือดในสมองก็แตกตาย (กินยาเพื่อรอเส้นเลือดในสมองแตกตายบ้าง รอฟอกไตบ้าง มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ บ้าง)
การไม่ดับทุกข์ที่ต้นเหตุ พระพุทธเจ้ายืนยันว่าทุกข์ไม่มีวันดับ เพราะทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ทางอื่นไม่มีที่จะพาพ้นทุกข์
การดูแลและแก้ไขอาการ :
การปฏิบัติที่คุณบุญเกื้อใช้ คือ ทานอาหารฤทธิ์เย็นทั้ง 3 มื้อ ดีท็อกซ์ทุกวัน กัวซา และการใช้ธรรมะ การวางใจ การไม่เร่งผล ในที่สุดเมื่อต้องไปพบแพทย์อีกครั้ง ก็ไม่ต้องทานยาแล้วและตอนนั้นตอนเข้าค่ายวันที่ 2 เมื่อยขาจนนั่งฟังบรรยายได้ ตอนนอนฟัง จึงแช่ตะโพกด้วยน้ำต้มสมุนไพร 2 ครั้ง อาการดีขึ้น สามารถนั่งบรรยายได้ตามปกติ
ประสบการณ์เพิ่มเติมจากการที่ได้ไปเข้าค่ายที่ดอนตาล เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2555
กิจกรรมที่ได้ร่วมบำเพ็ญคือ ลงฐานงานกสิกรรม ปุ๋ยและขยะ และอื่น ๆ ทำให้ได้รับประโยชน์มากมาย สิ่งหนึ่งที่ได้นำไปปฏิบัติที่บ้านคือ แยกขยะ เดิมจะทิ้งรวมกันไปหมดทุกอย่าง แต่เดี๋ยวนี้จะแยกส่วนที่เป็นพลาสติกไปทิ้งถังเทศบาล ส่วนเศษอาหารจะแยกไปทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ รู้สึกดี ที่ได้มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และทานอาหารไร้สารพิษค่ะ