กรณีศึกษาที่ 1.20  คุณสุเมธ คุณามาตย์

กรณีศึกษาที่	1.20
ชื่อ	สุเมธ คุณามาตย์
เพศ	ชาย
จังหวัด	พม่า
ประเทศ	กรุงเทพมหานคร
โรค	โรคไทรอยด์
วันสัมภาษณ์	5 พฤศจิกายน 2557

ชื่อตี๋ครับ อายุ 44 ปี ป่วยเป็นไทรอยด์เพิ่งป่วย เพิ่งจะรู้ว่าเป็นไทรอยด์ได้ประมาณ 2 เดือน เข้าเดือนที่ 2 แต่เป็นอาจจะเป็นมานานแล้ว ไทรอยด์นี่ก็จะเป็นลักษณะของโรคที่ต่อมไทรอยด์จะผลิต ฮอร์โมนออกมามากกว่าปกติจะทำให้เรานี่เผาผลาญร่างกายเร็วแล้วก็สั่น แล้วก็เวลากินอะไรก็จะถ่ายออกมา ถ่ายออกมาทั้งวัน ทีนี้มันมีอาการแทรกซ้อนก็คือเวลาเรากินยานี่ ไอ้ตัวนี่มันตัวยาไทรอยด์นี่จะกดภูมิ ทำให้เราบางครั้งมีอาการแทรกซ้อนก็คือ ตอนแรกผมจะมีอาการคันพอคันหมอก็จะให้ยาแก้คัน พอยาแก้คันนี่ให้แล้วสักพักหนึ่งพอมันหายคันก็เลิกยา

ต่อมามันก็จะเป็นลักษณะของกล้ามเนื้อที่มีความผิดปกติ คือมันจะปวดแบบรุนแรงมาก มันจะย้ายที่ไปตามข้อต่าง ๆ เดิมทีผมไม่เชื่อว่าการกินสมุนไพรแบบนี้จะสามารถรักษาโรคร้ายแรงได้หรือว่าโรคในตัวเราได้ หรืออาจจะไม่เกี่ยวกับเราคือว่าไม่เกี่ยวกับไทรอยด์ที่เราเป็นอะไรอย่างนี้นะครับ ทีนี้พอมาฟังบรรยายแล้ว ก็เรื่องดีท็อกซ์เรื่องการดื่มฉี่ 2 เรื่องนี้ผมคิดว่าชาตินี้ผมก็ไม่ทำตอนแรก ทีนี้พอมาฟังบรรยายจากพี่น้องจิตอาสาแล้วก็ผมฟังหมอเขียวแล้ว ผมก็มีความรู้สึกว่าเข้าใจเป็นลำดับตามไป แล้วก็เริ่มรู้สึกว่า เออ ข้อมูลที่หมอเขียวหรือพี่น้องจิตอาสาอธิบายนี่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจก็เลยทดลอง

ผมก็ทดลอง อาหารนี่กินอยู่แล้วก็ไปพยายามที่ว่ากินอย่างเต็มที่ก็คือไม่พยายามจะลดละก็คือไม่คิดว่ามันจะอร่อยหรือไม่อร่อย แล้วก็ลองทำดีท็อกซ์ดูวันที่ 2ใส่น้ำย่านางไปนิดหนึ่งแล้วก็ดีท็อกซ์ พอดีท็อกซ์ไปแล้วนี่ไปได้แค่ครึ่งขวดนะครับ แต่พอเรียบร้อยเสร็จแล้วออกมานี่รู้สึกว่าร่างกายมันโปร่ง มันโล่ง อาการที่เราเคยเป็นอาการสั่น ๆ ข้างในนี่มันหายไปนะนี่คือมันหายไปเกือบจะทันทีเลยสังเกตตัวเองนี่วันที่ 3 ว่าผมไม่มีอาการท้องเสียแล้วก็คือถ่ายรอบเดียวตอนเช้า แล้วก็ไม่ได้ถ่ายอีกเลยทั้งวัน เพราะปกติก็จะถ่ายวันละ 7-8 รอบ เพราะว่ามันเผาผลาญเร็ว มันจะเผาแล้วก็ถ่ายออกแล้วก็ฉี่บ่อยมาก กลางคืนฉี่รอบเดียวแล้วก็เช้าเลยครับฉี่ตอนก่อนนอนแล้วก็เช้าเลย ปกติผมจะฉี่ถี่มากที่สำคัญก็คือว่าผมจะเป็นคนที่นอนไม่หลับ แต่มาที่นี่พอปล่อยค่ายเข้าไปนอนปุ๊บก็หลับเลย ตื่นทีเดียวตอนเช้าเลย

พอวันที่ 3 หรือประมาณวันที่ 4 นี่ผมจำไม่ได้ ก็รู้สึกว่าเส้นเอ็นที่มันเคยรู้สึกปวดตรงนั้นปวดตรงนี้นี่ มันเริ่มจะจางลงคลายตัวลงแล้วมันเหมือนจะหายแล้ว ผมก็ทดลองหยุดยา หยุดยาตัวเส้นเอ็นนี่ตัวใหม่ก็มาลองโยคะดูปรากฏพอโยคะมันก็แปล๊บ ๆ แต่เราก็ลองดูยังไงเรามียาอยู่แล้วยังไงถ้ามีปัญหาก็กินยาได้นะก็ลองดูลองโยคะไปตามอาจารย์ก็ปรากฏว่าไม่มีอาการปวดเกร็งแบบแต่ก่อน เมื่อวานที่ไปเข้า เข้ากลุ่มที่ไปแบกท่อ ผมก็ทดลองดูคืออาการที่แบกท่ออาการนั้นรับรู้ได้ว่ากล้ามเนื้อที่รับน้ำหนักแบบนี้มันจะต้องปวดแน่ ๆ คือเรามีประสบการณ์มา 2 เดือนนี่เรารู้ว่าอาการนี้มันปวดแน่เราก็คิดว่าเดี๋ยวเตรียมกินยาเลย แต่ปรากฏพอเรายกอย่างนี้มันก็ไม่เป็น ข้ามวันมาแล้วก็ไม่เป็นอะไร

ตอนนี้ก็คือผมไมได้ทำอะไรเยอะผมดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด ตามพอสมควรไม่ได้ดื่มทั้งวันก็คือก่อนอาหารแล้วก็มีอาจจะระหว่างวันบ้างแล้วก็ทำดีท็อกซ์ ทำกัวซาแล้วก็ทานอาหารที่นี่ ทำแค่นี้ไม่ได้ทำอย่างอื่น แล้วก็มีอาจจะมีโยคะบ้างในวันหลัง ๆ ทีนี้ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายนี่มันโปร่งก็คืออาการที่เรานอนไม่หลับ อาการที่เราเครียดอาการที่เรารู้สึกท้องเสีย หรืออาการข้างเคียงที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องปวดเกร็งไปตามที่ต่าง ๆ ก็หายไปแล้วคือจะบอกว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์บางทีถ้าเรามียาดี ๆ นี่แล้วเรากินเราก็ไม่สามารถที่จะหายได้เร็วขนาดนี้ บางอย่างก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะ คือมันต้องมาพิสูจน์เอง จริง ๆ แล้วผมเองก็มีหมู่กลุ่มที่หลายคนก็เป็นหัวสมัยใหม่แล้วก็เชื่อว่าแพทย์ที่เขาเรียนมานี่เขาเรียนมา 6 ปี แล้วเขาเรียนมาอย่างยากลำบาก ก็คือหมายถึงว่าคนที่จะเข้าแพทย์ได้นี่จะต้องเป็นคนที่มีเกรดเฉลี่ยที่สูงคะแนนที่สูงแล้วก็เป็นคนฉลาดเรียนมาตั้ง 6 ปี ก็น่าจะต้องเก่งกว่าหรือลำบากกว่าใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นนี่หมายความว่าแพทย์ทางเลือกนี่เรียนมาแป๊บ ๆ นี่มันไม่น่าจะเก่งกว่าหรือไม่น่าจะใช่ ถ้าทางแพทย์แผนปัจจุบันนี่ทำไม่ได้ แต่มาลองดูนี่มันก็พิสูจน์ด้วยตัวเอง ผมเองก็ไลน์เข้าไปในกลุ่มไลน์ผลของผมนี่เข้าไปในกลุ่มทั้งจะได้ให้ท่านสมณะสบายใจแล้วก็ไลน์ให้กลุ่มกับเพื่อนของผมหลายคนที่เคยไม่เชื่อ คนอื่นก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะมาด้วยถ้ามีเวลาครับผมที่จริงก็ไม่มีนะครับผมทานมังสวิรัติมาปีกว่า ๆ แต่ก็ทานแบบ ทานแบบว่าใส่เครื่องปรุงใส่ผงชูรสนะครับ แล้วก็ถ้าเป็นอย่าง ชมร. (ชมรมมังสวิรัติ) ที่ไปซื้อนี่ ไม่มีผงชูรสก็ไม่ทาน อาจจะซื้อมาแล้วใส่ผงชูรสเพิ่มเข้าไป เพราะว่าเป็นคนติดผงชูรสมาก 

ผมเป็นวิศวกรฝ่ายระบบครับทำ งานระบบเป็นลักษณะของการทำการประหยัดพลังงานในอาคารสูงครับ แล้วก็เกี่ยวกับน้ำ ลม แล้วก็ไฟในอาคารสูงครับ ผมจะเป็นคนเขียนโปรแกรมเพื่อจะคอนโทรลทั้งหมดในตึกในอาคาร ซึ่งมันก็ใช้ความเครียดมันมีความเครียดสูง แล้วก็ส่งผลนี่ให้เป็นไทรอยด์ทำคอมพิวเตอร์เยอะ ไม่ได้ดูแลตัวเองเลยก็พบสิ่งมหัศจรรย์กับตัวเอง ก็ได้แนะนำเพื่อนไปเยอะแล้วตอนนี้แล้วก็มัน ผมหายไป 2 วันไม่ได้ไลน์ 2 วัน เพราะว่าเกิดความคิดว่าตั้งใจ พอดีท็อกซ์แล้วรู้สึกดีก็เลยตั้งใจทำพอ 2 วันก็เมื่อวานนี้ก็ไลน์กลับไปว่ารายงานผลว่า ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วนะ 2 วันนะทุกอย่างมันดีขึ้นแล้ว ที่เคยเจอนอนซมมันไม่มีแล้วประเภทนอนไม่หลับ คือกลางคืนนี่นอนไม่หลับไปหลับเอาตอนเช้าแล้วก็จะไม่ได้เจอพี่น้อง จะไม่ได้เจอไม่ได้ไปกับพี่น้องเลยก็มันเหมือนกับว่ามันจะหายไปแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าออกไปนี่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า 

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เราไม่เชื่อ แต่บางทีนี่ความประมาทของเรามันอาจจะทำให้เราพลาดข้อมูลบางอย่าง คุณหมอเขียวแล้วก็พี่น้องจิตอาสาทั้งหมดนี่ ท่านทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือเห็นสถานที่เห็นวิธีการทำงานเห็นทุกอย่างที่ท่านทำนี่วิจารณ์ไม่ได้ คือมันหายไปแล้วครับ เรื่องราวที่เรารู้สึกว่ารู้สึกในอดีตว่ามันคงไม่ใช่หรอก มันเป็นสมุนไพรบางครั้งมันเป็นการปิดโอกาสตัวเองด้วย มันเป็นความประมาทอย่างหนึ่ง ก็อยากฝากกับพี่น้อง

จริง ๆ วิศวกรนี่จะมีตรรกะเยอะ มันก็เลยเป็นสิ่งที่ตอนแรกมองว่ามันไม่น่าจะหายได้ในตรงนี้ วิศวกรจะตอบโจทย์ตรงนี้ถ้าสมมติไปเจอวิศวกรหรืออย่างแน่นอนต้องเจอวิศวกรนี่เพื่อน ๆ ถ้าเห็นว่ามันดีแล้วจะไปแนะนำเขา เขาก็ต้องมีคำถามเหมือนอย่างที่ตัวเองเคยเกิดขึ้นนี่หลังจากที่ตัวเองมาพบ คือการแนะนำนี่คงไม่มีบารมีพอเหมือนกับหมอเขียวที่จะสามารถทำให้คนนี่เกิดความกระจ่างพร้อมกันได้ อย่างนี่มีข้อสงสัยแล้วก็ข้อติดยึดไว้เยอะ พอกระจ่างขึ้นมานี่ คงจะอธิบายอย่างหมอเขียว หรือพี่น้องจิตอาสาไม่ได้ แต่ว่าตัวผมนี่เป็นข้อพิสูจน์ ก็คือเพื่อน ๆ ก็เห็นลางานบ่อยช่วงหลัง เห็นความเครียดเห็นอะไรหลายอย่าง แล้วก็ช่วงหลังนี่ก็คือหยุดงานไป 2 เดือนนะครับก็เห็นสภาพเห็นการกินยาเห็นทุกอย่างก็คือตัวเรานี่แหละจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าที่เราไปมานี่ มันผ่าน มันเรียบร้อย มันหายหมดแล้วแล้ววันที่ 11 นี้ผมจะไปตรวจเลือดคือถ้าทุกอย่างมันดีขึ้นก็อาจจะ อาจจะมาอยู่ที่นี่สักพัก ให้มันหายขาดไปเลย