1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.31 |
ชื่อ | ธรรมศักดิ์และเตือนใจ ศรีรัตนากร |
เพศ | ชายและหญิง |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
อายุ | ชายไทย อายุ 74 ปี และหญิงไทย อายุ 69 ปี |
โรค | โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง |
วันสัมภาษณ์ | 8 มกราคม 2556 |
สวัสดีครับท่านอาจารย์หมอเขียวที่เคารพ พี่น้องทุกท่านที่มีเกียรติทุกคน ผมมีโอกาสได้มาแวะเยี่ยมอาจารย์อีกเป็นครั้งที่ 2 นะครับ ผมชื่อหมอธรรมศักดิ์ผมอยู่ที่อเมริกาที่รัฐเท็กซัสนะครับที่สหรัฐอเมริกาผมได้มีโอกาสได้พบท่านอาจารย์หมอเขียวครั้งแรกที่ท่านได้ไปเยี่ยมพวกเราที่อเมริกาปีที่แล้วครับ พอดีเป็นโชคดีของพวกเราอย่างยิ่งที่ต่างประเทศนี่ได้มีโอกาสได้พบปะอาจารย์หมอเขียว ๆ ซึ่งเป็นที่เคารพของพวกผมครับ ความจริงนี่ภรรยาผมนี่เขาได้พบอาจารย์หมอเขียวครั้งแรกแต่พอดีผมไปอินเดีย ผมไปพม่าเลยไม่ได้ไปร่วมค่ายของอาจารย์หมอเขียวแต่ว่าท่านได้มาเยี่ยมพวกเราที่อเมริกาก็ได้มีโอกาสได้ต้อนรับได้บริการท่านอาจารย์ได้ฟังธรรมะของท่านอาจารย์ครับผมจะเล่าย่อ ๆ ให้ฟังนะครับ ผมไปที่อเมริกาครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1969 นะครับประมาณ 43 ปีมาแล้วตอนนั้นพอดีเราไปศึกษาวิชาแพทย์ ผมเป็นหมอเด็กก็เลยมีโอกาสไปศึกษาต่อ พอดีตอนนั้นเกิดสงครามอินโดจีนก็เลยทำให้เขาขาดหมอเลยอยู่ที่นั่น พอดีผมพาครอบครัวไปด้วยแล้วเกิดมีลูกขึ้นมาลูกก็ขอร้องให้ผมอยู่อเมริกาต่อ ความจริงผมอยากกลับมาเมืองไทยนะครับแต่ลูกเขาขอร้องให้เรียนหนังสือก็เลยเรียนจบแล้วก็ยังไม่ได้กลับ แต่ก็ได้กลับมาประเทศตลอดเวลานะครับ ทีนี้เล่าถึงว่าผมนี่อยู่อเมริกาก็เป็นหมอบุกเบิกครั้งแรกนะครับก็เลยว่าจะต้องทุกอย่างนี่มันลำบากไม่เหมือนอย่างปัจจุบัน พอมัน 40 ปีต่อมานี่ทุกอย่างมันเจริญ สมัยที่แรก ๆ ที่ผมไปอเมริกานี่เขายังดูถูกพวกเราอยู่นะครับแต่เขาไม่ดูถูกพวกเราเพราะว่าประเทศไทยนี่เป็นฐานทัพของเขาเขาถึงยกย่องประเทศไทยนะครับ นอกนั้นนี่ประเทศโดยมากที่ประเทศเอเชียด้วยกันนี่เขาดูถูกนะครับอเมริกานี่ แต่เขาต้องอาศัยบ้านเราไปทำสงครามกับที่เวียดนามอันนี้เป็นเรื่องที่พวกเราภาคภูมิใจที่เราไปอยู่อเมริกา เขานับถือพวกเรานะครับพวกคนไทยนี่ที่ไปอเมริกานี่เขาไม่ได้เหยียดหยามเราเลยเขาดูถูกพวกฟิลิปปินส์ชาติอื่นนะครับแต่ว่าไม่ใช่คนไทย เราเป็นแขกของเขาที่ไปอเมริกาครั้งแรก ไม่ได้เป็นแบบที่แรกที่เราไปนั่น เขาเชิญเราไป เพราะฉะนั้นเราต้องภาคภูมิใจประเทศไทยเรานี่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเขาด้วยขอโทษครับจะเล่าย่อ ๆ ก่อนนะครับก็เลยไปฟังอาจารย์หมอเขียว ท่านได้มีโอกาสได้มาเยี่ยมพวกเราที่อเมริกาเมื่อปีที่แล้วนะครับ
ผมได้มีโอกาสต้อนรับอาจารย์หมอเขียว ผมได้ฟังภรรยาผมครับเอาที่ภรรยาผมได้ไปร่ำเรียนจากอาจารย์หมอเขียวมา ผมได้ปฏิบัติมาก่อนที่จะได้พบอาจารย์หมอเขียวนะครับผมได้ศึกษาแล้วก็ฟังธรรมของอาจารย์หมอเขียว ท่านอาจารย์หมอเขียวนี่ผมเป็นคนหนึ่งที่เคารพนับถือนะครับผมได้ปฏิบัติมาตั้งแต่ปีที่แล้วมาแล้วนะครับ เดี๋ยวนี้ร่างกายผมนี่เดิมทีเดียวนี่ผมอ้วนกว่านี้เยอะนะครับเดี๋ยวนี้ สมัยก่อนแรก ๆ ผมก็ยังกลัวตายเพราะอะไรรู้ไหมเพราะเราต้องไปตรวจทุกอย่างใช่ไหม ลูกชายผมก็เป็นหมอเหมือนกัน ผมก็เล่าให้ลูกชายฟังว่า ตอนเย็น ๆ นี่ตอนห้าโมง ทำไมพ่อหิวข้าว หิวข้าวนี่อาการหิวข้าวอันนึงเป็นโรคหัวใจได้นะครับคือเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงด้านล่างหัวใจคือความจริงนี่คนที่เป็นโรคหัวใจไม่จำเป็นต้องเจ็บหน้าอกอย่างเดียวนะครับ เจ็บแขนก็ได้ ปวดท้องก็ได้ หิวข้าวนี่
พอดีลูกชายผมก็บอกไปตรวจไปทำเทส ผมก็ไปทำเทสมาตอนแรกหมอก็บอกว่าไม่เจอนะครับเขาพยายามให้ผมเอ็กเซอร์ไซส์เกือบ 1 ชั่วโมงนะครับแล้วก็ไปทำเทส ปรากฏว่ามีเส้นเลือดนิดหน่อย หมอก็ให้ผมกินยากลัวผมตายก็คือยาลดคอเลสเตอรอลแล้วก็ยาลดความดัน ซึ่งผมไม่มีความดันกินมาตั้งหลายปีนะครับ พอดีภรรยาผมนี่เข้าค่ายอาจารย์หมอเขียวกลับมา ผมเลยปรับปรุงตัวเองใหม่ บอกไม่เชื่อฝรั่งเขาให้กินยาผมงดยาเองนะครับผมเลิกยาคอเลสเตอรอลมาเป็นเวลา 1 ปีแล้วออกกำลังกาย ฟังที่ภรรยาผมเอาหนังสือของอาจารย์หมอเขียวแล้วศึกษาแล้วเนื่องจากเราเป็นหมอเราก็เชื่อว่าที่อาจารย์พูดมานี่ถูกต้อง อาหารร้อนกับเย็นนี่มันเป็นผลอันหนึ่งที่ทำให้เกิดเราเจ็บไข้ขึ้นมาไอ้ยาที่ฝรั่งให้เรากินมันเป็นยากรดทั้งหมดเลยนะ มันเป็นพิษแต่เขาไม่กล้าบอกเพราะอะไร บริษัทยานี่กับหมอนี่เขาไม่อยากให้บริษัทเขาล้มเขาพยายามหลอกเราให้กินโน่นกินนี่ฟังอาจารย์ บางคนบอกกินพวกแคลเซียมนี่มันก็เป็นมันอันตรายเรื่องนี้ต้องถามภรรยาผม เขาจะเล่าเรื่องต่อว่าทำไมเขาเลิกยาเหมือนกับผม ผมเลิกยาลิปิทอร์ (Lipitor) นี่ครับคือป้องกันความดันลดความดันก็โดยให้กินยาตัวนี้ผมเลิกหมดลด แม้แต่คอเลสเตอรอลเลิกกินนะครับปฏิบัติอาหารที่อาจารย์หมอเขียวให้พวกเราทานแล้วเอ็กเซอร์ไซส์ผมออกกำลังกายทำงานตลอดเวลาก็เลยว่าความดันผมนี่ปกติ หัวใจมันเต้นช้าลงแล้วก็คอเลสเตอรอลซึ่งเคยสูงนะครับมันต่ำกว่าที่เรากินยาอีกแล้วผลข้างเคียงที่เรากินยานี่โดนฝรั่งหลอกนะครับมันทำให้ตับเราเสียตับเราเสียอันที่ 2 นี่มันปวดที่กล้ามเนื้อขาผม เราเป็นหมอนะโดนฝรั่งมันหลอกนี่หว่า แล้วปฏิบัติของอาจารย์หมอเขียวนี่มันเปลี่ยนความคิดเราถูกฝรั่งมันหลอก แล้วคนที่มาเข้าฟังอาจารย์หมอเขียวกลายเป็นพวกที่มีความรู้มาฟังอาจารย์หมอเขียวนะครับแล้วปฏิบัติทำให้พวกเรานี่แข็งแรงขึ้นเดี๋ยวนี้ผมเลิกกินยาก็ไม่ทานเลยทุกอย่างแม้แต่ความดันที่บอกไว้ ผมไปตรวจใหม่เช็คใหม่ปรากฏว่าทุกอย่างมันปกติแล้วเรื่องอะไรผมจะไปกินยา แล้วตัวเองนี่ก็มีความรู้สึกว่า ธรรมะของอาจารย์หมอเขียวที่พูดมานี่ถูกต้องก็เลยปฏิบัติธรรม
ความจริงผมเป็นหมอเด็กนะครับผมชอบเด็ก เด็ก ๆ ที่เดินผ่านมานี่ผมสามารถทำให้ยิ้มได้ถ้าเรายิ้มให้เด็กนี่ เด็กก็จะยิ้มกับเรา คุณจะทำให้เด็กรักง่ายตอน 4-5-6 เดือนนี่ ยิ้มให้เด็ก เด็กก็ยิ้มตอบเรานะครับอย่าลืมนะครับพอถึงสัก 9 เดือน 10 เดือน เด็กจะกลัว จะกลัวเราครับอย่าไปพูดอะไรมาก ยิ้ม ๆ ก่อนนะไกล ๆ แล้วก็แอบดูเขา หลบตานี่ปิดตาแล้วทำหลบนี่ เด็กเขาจะสนใจเราอีกสักครู่หนึ่งเขาจะเล่นกับเราได้นี่ผมบอกวิธีการทำให้เด็กรักรักเราได้ ฉะนั้นวิธีการหมอเด็กนี่ด้านของผมนี่เด็กรักผมเพราะผมรู้วิธีที่ทำให้เด็กมารักซึ่งอันนี้เป็นวิธีเพราะเรามีลูกมีหลานนี่ ที่จะทำให้เด็กรัก อย่างนี้นะยิ้มกับเด็กนะครับ แล้วก็เด็กนี่บางทีนะดีใจ ดึงผมแม่อย่าไปโกรธ บางคนนี่แม่ผมเจ็บผมก็มีคนไข้คนหนึ่งโอ้โห เด็กมันดีใจดึงผมแม่กระชาก ๆ หัวผมแม่ แม่เจ็บจะตีลูกผมบอกอย่าตีลูกเลย เพราะว่าถ้าตีลูกจะทำให้เด็กเขาทีหลังเขาไม่กล้าแสดงความรักกับแม่นะผมบอกเลยว่าวิธีการที่เด็กบางทีดีใจดีใจกระชากผมแม่ หรือตบแม่ อย่าไปโกรธ เพราะเด็กมันรักเรานะครับเพราะฉะนั้นวิธีผมพูดวิธีเข้าใจเด็กเล่าว่าเด็กต้องการอะไร นี่สำคัญที่สุดที่จะเป็นหมอเด็กที่ดีก็คือว่ารู้จัก เด็กมัน 4 ขวบ 5 ขวบ หรืออายุต่ำกว่านี้ 6 เดือน 3 เดือน ทำอะไรบ้างพ่อแม่ก็จะรู้เลย ผมบอกเด็กคนนี้กี่เดือนกี่เดือนได้โดยจากน้ำหนักหรืออะไรนี่ จากดูเด็กก็บอกประมาณได้เพราะว่าเราเป็นมาตั้ง 40 ปีแล้วก็มันง่ายหน่อยครับ
ผมอายุประมาณ 74 แล้วครับแต่ว่าคุณดูไม่ออกว่าผม 74 เพราะว่าผมเลิกกินยามา แล้วตอนนี้ร่างกายแข็งแรงนะผมไม่ได้ทานยาอะไรทั้งสิ้นนะครับ แล้วผิวหนังก็ดีขึ้น เชื่ออาจารย์หมอเขียว น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนี่นะครับที่บ้านผมมีนะครับผม มีต้นใบเตย ผมมีต้นย่านาง ผมมีใบบัวบก เพราะฉะนั้นผมกินทุกวัน ทีนี้พอดีผมอยากให้ภรรยาผมนี่เล่าถึงว่าลูกชายเขาเป็นยังไงเขาจะได้ภูมิใจที่แม่เขาดีด้วย
ก่อนอื่นก็กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะแล้วก็อาจารย์หมอเขียวนะคะ แล้วผู้ทรงศีลทั้งหลายและผู้รักษาสุขภาพทุก ๆ ท่านค่ะ ดิฉันชื่อ เตือนใจ ศรีรัตนากรค่ะอายุ 69 ปีมีอาชีพเก่าเป็นพยาบาล แต่ตอนนี้เกษียณแล้วค่ะ พื้นเพดั้งเดิมเป็นคนนครศรีธรรมราชค่ะ แต่ขณะนี้ใช้ชีวิตยู่ที่ประเทศอเมริกาค่ะกับสามีไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น 44 ปีแล้วค่ะ มีลูกชาย 2 คน อายุ 43 กับ 41 ก็เป็นหมอทั้งคู่ค่ะ มีหลาน 4 คนค่ะ ที่รู้จักหมอเขียวครั้งแรกนะคะมีวันหนึ่งก็ไปทำบุญกันที่วัดที่อเมริกานะคะที่เท็กซัสแล้วก็ได้ยินพวกน้อง ๆ ที่เขาเคยมาเข้าค่ายที่นี่ 2-3 คน เขาก็พูดกันเขาพูดกันถึงน้ำเขียวน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนี่นะ ปกติเป็นคนที่รักสุขภาพอยู่แล้วค่ะจะเจอแมกกาซีนอะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพจะอ่านหมดเลย เสร็จแล้วก็เงี่ยหูฟัง น้องพูดว่าอะไรเมื่อกี้เขาก็เล่าว่าเขามาเข้าค่ายหมอเขียวที่เมืองไทยแล้วเขาก็สอนให้กินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดมันดียังไง ๆ แล้วทีนี้เวลาถึงตอนทำกับข้าวถวายพระ น้องคนหนึ่งเขาก็เอาถั่วงอกมาผัดกับน้ำ เออ แปลกดี เราไม่เคยผัดถั่วงอกกับน้ำเลยผัดกับน้ำมันใช่ไหมเอ๊ะชักสนใจก็คุยกันไปคุยกันมาก็ เออ ดีมากเลย แล้วน้องคนนึง ขอโทษนะ ขอออกชื่อเขาหน่อย เขาชื่อมด เขาบอกว่า เขาจะส่งยูทูปมาให้พี่เตือนดูเรื่องหมอเขียวเขาก็ส่งมาพอเข้าไปดูยูทูปสิ่งแรกที่ดูก็ดูคนค้นฅนของหมอเขียวนี่รายการนี้ก็เกิดประทับใจมากเลย ว่าหมอเขียวเขาเป็นคนดีมากเลยนะ เขาทำเพื่อสังคมเขาไม่เอาตังค์คนเลยแล้วอายุเขาก็ยังน้อยนะรุ่นลูกเราเลยนะ นี่เขาทำได้ขนาดนี้ก็เกิดความสนใจมากก็โทรศัพท์มาเมืองไทยบอกน้องสาวติดต่อค่ายหมอเขียวให้หน่อยสิพี่จะมาบินมาโดยตรงเลยนะมาเข้าค่ายหมอเขียวเมื่อมกราคม 2554 คุณหมอเขาก็อยากมาด้วยแต่บังเอิญเขาเตรียมตัวที่จะไปพม่า มันตรงกันพอดีเลยเขาก็เลยไม่ได้มา ดิฉันก็เลยมากับน้อง ๆ 4-5 คน ก็มาเข้าค่ายที่ดอนตาลก็ประทับใจมากสนใจมากเลยทั้ง 9 ข้อนะ นั่งฟังอย่างไม่อยากแม้จะเข้าห้องน้ำเลยไม่อยากให้พลาดอะไรไปทั้งนั้น พอกลับไปอเมริกาก็เริ่มต้นเลยจากอันนี้ล่ะ น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด
ก็ทำให้หมอทาน ตอนแรกเขาก็ยังเฉย ๆ ก็เขาเป็นหมอเขาก็ไม่ได้เชื่ออะไรพวกนี้เท่าไร ตอนหลังเราบอกว่ามันดีนะกินแล้วมันอย่างโน้นอย่างนี้บรรยายสรรพคุณเราก็ทำเลยใส่ในตู้เย็นเลยกินเป็นประจำ เขาเห็นเขาก็กินตามบ้างเขากินแล้วเขาก็ดีนี่ไอ้ที่เขาเจ็บ ๆ ข้อเจ็บอะไรต่ออะไรเขาก็หาย แล้วก็มันมีอยู่ครั้งนึงครอบครัวเราไปพักร้อนกันที่ฮาวายทั้งครอบครัวลูก ลูกสะใภ้อะไร เราก็ไปกันหมดแล้วลูกเขาก็พาไปทานอาหารญี่ปุ่นซึ่งมันก็เค็ม มันเค็มแล้วมันก็ทั้งหวานทั้งมันทุกอย่างมาสนามบินคุณหมอเดินไม่ได้เลย เขาเจ็บหัวเข่ามากเลยเดินไม่ได้เลยพอกลับมาบ้านลูกสะใภ้ทำน้ำเขียวให้กินหายเลย รุ่งเช้าเป็นปกติ ข้อที่เจ็บก็หาย ทีนี้เราก็พยายามจะคอนวินซ์ (Convince) อธิบายชักจูงลูกชายซึ่งเป็นหมอเขาก็เป็นหมอตาทั้งคู่เขาก็มีปัญหาเรื่องเจ็บข้อเหมือนกัน บอกว่าลูกกินสิน้ำเขียวสิดีนะมีประโยชน์อย่างโน้นอย่างนี้นะเขาก็ไม่เชื่อพูดกันอยู่นั่นแหละพูดจนคนโตหัวอ่อนหน่อย เขาก็กินเขากินแล้วเขาชอบ เขาบอกเออมันช่วยเขามันช่วยเขาหายเจ็บตามข้อหัวไหล่ เพราะเขาผ่าตัดเขาก็ต้องงอ อะไรอย่างนี้ ใช้มือใช้อะไรเสร็จแล้วเขาก็ดีขึ้นเสร็จแล้วทีนี้เราก็บอกว่าเธอไปบอกน้องชายเธอหน่อยสิ ให้เขากินหน่อยเขาบอกพูดยากแม่ เขาไม่ค่อยเชื่อฟัง ก็โอเค ก็แล้วไป เสร็จแล้วพอน้องชายเจ็บเข้ามาก ๆ เขามาถามพี่ชายเขาเออ.ยูหายเจ็บแล้วหรือยังที่ยูเจ็บน่ะ พี่เขาบอกเขาหายแล้วแล้ว ยูทำยังไงหายล่ะ เขาบอกก็กินน้ำเขียว กรีนวอเตอร์ที่แม่บอก เสร็จแล้วเขาก็บอกเอามั่ง ๆ เขาก็ลองก่อนหน้านี้ก่อนที่เขาจะลองนะเขาต่อรองกับแม่มากเลยเขาบอกแม่ยูต้องกินยานะ กินยาลดคอเลสเตอรอล เพราะว่าคอเลสเตอรอลสูง ลืมบอกไปว่าหลังจากเข้าค่ายหมอเขียวแล้วยาไม่กินเลยยาลดคอเลสเตอรอล แล้วก็กรดไหลย้อนสารพัดไม่กินเลย ลูกเขาก็คอยถามอยู่เรื่อย แม่ยังกินยาอยู่หรือเปล่าเราก็ไม่กล้าบอกเพราะว่าลูกเขาเป็นหมอก็อยากให้เรากินยา เราก็เฉย ๆ อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เขาก็รู้แล้วแม่ไม่ได้กินแล้ว เขาต่อรองเขาบอกว่าถ้ายูจะให้ไอกินน้ำเขียวแม่ ยูต้องกินยาคอเลสเตอรอลโอเคกินเขาก็จิบเข้าไปนิดนึงจิ๊ดนึงแล้วก็ไม่กิน พอพี่ชายบอกว่าดีขึ้น เดี๋ยวนี้มีประจำบ้านกินต่างน้ำเลย ก่อนจะไปทำงานตอนเช้า ลูกสะใภ้ก็ต้องทำน้ำเขียวให้เขา 1 แก้วผลไม้ 1 ถุง ถั่ว 1 ถุง นั่นคืออาหารมื้อเช้าประจำของเขาเลยทุกวันถ้าวันไหนน้ำเขียวไม่มีปุ๊บเขาจะขอทันทีเลยคือขาดตู้เย็นไม่ได้แม้กระทั่งหลาน 4 คน 9 ขวบ 7 ขวบ 5 ขวบ 3 ขวบกินน้ำเขียวกันทั้งบ้านเลยกรีนวอเตอร์กรีนวอเตอร์ ก็นี่ล่ะค่ะก็ปฏิบัติแนวหมอเขียวมาเรื่อย ๆ ยาทั้ง 9 เม็ด มันก็ช่วยเยอะ แล้วปกติก็เป็นคนชอบเจ็บหลังเวลาลุกขึ้นจากทำสวนมันลำบากมันเจ็บหลังมาก ก็เอาโยคะหมอเขียวที่ 1 ชั่วโมงที่เราทำกันเช้า ๆ นี่ล่ะค่ะช่วยมากเลยหายเลยช่วยจริง ๆ ก็เลยเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่านี่นะโยคะนี่ดีมากนะทำนะอย่างโน้นอย่างนี้ บางคนเขาก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อเพราะเราอยู่ที่โน่นมันไกล เราก็จะใจดีอัดเทปแจกเพื่อน ๆ เลยบางคนเขาก็ทำบางคนก็ไม่ทำแต่คนที่เขาทำแล้วเขาจะเห็นผล อย่างตัวดิฉันนี่เห็นผลเลยค่ะ ดีมากข้อนี้ ก็ปฏิบัติมาเรื่อย ๆ เรื่องอาหารก็เช่นเดียวกันก็กินอาหารแนวหมอเขียวนี่ล่ะค่ะ แต่ก็สลับกันบ้างถ้าต้องไปกินอาหารข้างนอกแล้วกลับมาบ้านเรารู้สึกว่าเรากินอาหารมีพิษแล้ว เราก็กลับมาบ้านมาดีท็อกซ์ ก็หาย ข้ออื่น ๆ ก็ทำอยู่แล้วข้อ 8 ข้อ 9 ก็ทำอยู่แล้วปฏิบัติธรรมเพราะเรา 2 คนเราก็มาทางนี้เยอะแล้วค่ะ
จิตอาสา: ก็คืออาทั้ง 2 คนใช้ยา 9 เม็ดทั้ง 2 ท่านเลยนะคะ ณ ปัจจุบัน แล้วก็ทั้งบ้านนี้คือไม่มียาแผนปัจจุบันแล้วใช่ไหมคะในบ้าน
คุณเตือนใจ: ไม่ทานแล้วค่ะ
จิตอาสา: ทั้งลูกชายด้วยหรือเปล่า
คุณเตือนใจ: ลูกชายบอกเขาสอนเขาเขาว่ายังไงรู้ไหม แม่ยูไม่ใช่เป็นหมอเขาว่าแม่ แม่เลยบอกว่า แต่ฉันเป็นแม่หมอนะ เงียบ
จิตอาสา: ไม่เป็นหมอ แต่คุณหมอเขียวสอนให้เราเป็นหมอดูแลตัวเอง
คุณเตือนใจ: เป็นหมอดูแลตัวเอง ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ใช่ไหมคะ ค่ะ ก็คือจริง ๆ ถ้าฟังจากอาเตือนอาเตือนก็คือก่อนมาเข้าค่ายหมอเขียว ก็คือเป็นคอเลสเตอรอลสูง
คุณเตือนใจ: ค่ะ
จิตอาสา: ความดันสูง
คุณเตือนใจ: ความดันไม่สูง คอเลสเตอรอลอย่างเดียว
จิตอาสา: คอเลสเตอรอลสูง
คุณเตือนใจ: แล้วก็กรดไหลย้อน
จิตอาสา: ค่ะ กรดไหลย้อนนะคะ
คุณเตือนใจ: คือวันหนึ่งกินยาหลายเม็ดเลยค่ะเกือบจะสิบเม็ดใครว่าอะไรดีกินหมดเลยเป็น ภาระมากเลยค่ายาก็แพงแล้วไปไหนนี่ต้องซื้อไอ้ที่เป็นกล่อง ๆ อ่ะที่เขียนว่า จันทร์ อังคาร พุธ ถึง อาทิตย์ถ้าไม่อย่างนั้นนะลืม พอหลังจากเลิกนะรู้สึกมันเบาโล่ง ไม่ต้องกินยาไม่ต้องเสียตังค์ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นเลยอยากจะไปไหนไปเลย
จิตอาสา: แล้วทำยังไงถึงเลิกได้เลยคะ คือมีเทคนิคอะไรไหมคะ เผื่อพี่น้องเขาที่ยังคิดอยู่ว่าจะเลิกดีหรือไม่เลิกดี แล้วจะมาปฏิบัติแบบนี้ยังต้องกินยาไหม อาเตือนมีเทคนิคอย่างไรคะ
คุณเตือนใจ: ก็นี่ค่ะ อาเตือนก็ใช้ 9 ข้อนี้ค่ะตั้งใจว่า เออ เราก็กินอาหารสมบูรณ์แล้วเราก็ออก กำลังกายแล้วเราก็ทำตามที่หมอเขียวบอกแล้ว ทั้ง 9 ข้อ ถ้าอะไรมันจะเกิดก็คิดว่าวิบากเก่าก็แล้วกันคือเราทำใจเราได้แล้ว แล้วก็ไม่กินยาอีกเลย แล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย หลังจากไปศึกษามาก ๆ นะ ยาทุกชนิดนี่เป็นกรดหมดเลย เป็นสารเคมีหมดเลยมีผลข้างเคียงด้วย เราถูกหลอกมาตั้งนานตั้งเป็นสิบ ๆ ปี แล้วก็เลยตัดสินใจเลิกเด็ดขาดเลย สุขภาพแข็งแรง สบาย ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
จิตอาสา: ค่ะ แล้วอยู่ที่นั่นมีความยากลำบากไหมคะอาเตือน ในการที่อาจจะหาสมุนไพร ฤทธิ์เย็นหลายท่านพี่น้องที่อยู่ต่างประเทศหรือมีญาติพี่น้องอยู่ต่างประเทศก็อยากจะแนะนำญาติพี่น้อง แต่บอกว่า บางคนที่มาเข้าค่ายที่มาจากต่างประเทศมี เดี๋ยวนี้มีเยอะนะคะแต่บอกว่าที่นั่นหาย่านางไม่ได้ อย่างนี้
คุณเตือนใจ: ไม่มีปัญหาเลยค่ะแรก ๆ ใบย่านางเราก็มีขาย ก็ส่งไปจากประเทศไทยนี่ล่ะค่ะ เขา ใส่ตู้แข็งขาย เราก็ใช้อันนั้นล่ะค่ะใบเตยก็ใช้อันนั้น แข็ง ๆ ใส่ตู้แข็งก็มี ส่วนใบบัวบกที่บ้านปลูกเต็มเลย ชอบปลูกสวนครัวเราปลูกสวนครัว ปลูกสมุนไพรกันเยอะเลยค่ะพอหน้าหนาวเราก็เอาเข้าโรงรถ แล้วตอนนี้มีย่านางสดแล้วค่ะมีแล้วมีคนไทยเขาไปทำร้านเนอร์สเซอรี่ ร้านขายต้นไม้ค่ะเขาปลูกต้นย่านางเป็นพัน ๆ ต้นเลยเขาเอามาแจกจ่าย เราก็ได้มาด้วยเสร็จแล้วก็นั่นล่ะใช้สดแล้วเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ย่านาง สมุนไพรแปลก ๆ มีเยอะเลย เพื่อนเขาก็แจก ๆ กันเราก็ปลูกเป็นคนชอบอยู่แล้วด้วยมันของดี ผักบุ้งเขาก็มีขายกวางตุ้งอะไรพวกนี้ฤทธิ์เย็นทั้งนั้นใช่ไหมแล้วก็มะละกออย่างนี้ ก็ทำได้ค่ะกินส้มตำกันทุกวันเลยเป็นอาหารประจำวันทุกวันเลย
จิตอาสา: ก็คือหาได้ไม่ยาก สามารถหาได้
คุณเตือนใจ: หาได้ค่ะ หาได้
จิตอาสา: ค่ะก็คือเราก็ปรับเอาตาม
คุณเตือนใจ: เราก็ปรับเอาค่ะ
จิตอาสา: ค่ะเพราะที่นั่นก็อาจจะอากาศหนาวในบางครั้งนะคะอยากจะถามอาเตือนนิดนึงว่า ที่ ครั้งนี้มาครั้งที่ 3 ใช่ไหมคะ
คุณเตือนใจ: ค่ะ ครั้งที่ 3 แล้วค่ะ
จิตอาสา: ก็มาดอนตาลปี 2554
คุณเตือนใจ: ค่ะ 2554 แล้วก็ 2555 หมอเขียวไปที่ดัลลัส เท็กซัส
จิตอาสา: ก็ได้ไปร่วมเข้าค่าย
คุณเตือนใจ: เรียกว่าเป็นบุญของพวกเรามากที่ได้รับใช้ท่านอาจารย์และคณะไม่เคยคิดเลยว่า อาจารย์จะไปถึงอเมริกาเพราะตอนที่มาสวนป่านาบุญวันสุดท้ายก่อนจะกลับ ก็เขียนที่อยู่ไว้ให้อาจารย์บอกว่าถ้าอาจารย์มีโอกาสไปอเมริกานะคะยินดีรับใช้แต่ไม่เคยคิดว่าอาจารย์จะไปได้เพราะอาจารย์ก็ยุ่งแล้วทางนี้แต่ธรรมะจัดสรรค่ะ อาจารย์ไปได้ไปได้ก็พวกเราก็มีบุญก็ได้บริการอาจารย์
จิตอาสา: ค่ะแล้วก็เป็นครั้งแรกที่อาหมอธรรมศักดิ์ได้พบกับอาจารย์หมอเขียว
คุณเตือนใจ: ค่ะ ได้พบกับอาจารย์
จิตอาสา: ซึ่งอาจารย์อาหมอธรรมศักดิ์ก็ได้ประโยชน์อะไรไปเยอะแยะเลยนะคะเดี๋ยวอาจจะ ให้อาหมอธรรมศักดิ์พูดเพิ่มเติมนะคะตรงนี้ เมื่อกี้จริง ๆ ได้เทคนิคยาเม็ดที่ 8 นะคะ จากอาหมอธรรมศักดิ์ที่บอกว่าเป็นหมอเด็กนะคะจริง ๆ อาหมอสอนบอกแนะนำใช่ไหมคะให้ยิ้มกับเด็กนี่ไงเมื่อกี้ได้ธรรมะข้อ 8 ไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว จริง ๆ อาเขาก็ได้ธรรมะข้อ 8 ไปเยอะอยู่แล้วนะคะ อยากให้อาหมอพูดจริง ๆ ที่ได้คุยกับอาหมอนะคะพอดีได้ไปอเมริกาด้วยนะคะคืออาหมอจะได้มีโอกาสคุยธรรมะกับคุณหมอเขียวเยอะมากเลยกับอาจารย์หมอเขียวตรงนี้ อาหมออยากแนะนำอะไรพี่น้องตรงนี้ไหมคะ
คุณหมอธรรมศักดิ์: ขอบคุณมากนะครับที่ถาม ความจริงนี่อาจารย์หมอเขียวนี่ท่านมีความรู้เยอะนะครับความรู้ในเรื่องธรรมะนี่ ท่านเป็นผู้ซึ่งเห็นธรรม รู้ธรรม ปฏิบัติธรรมคือผมได้ศึกษาธรรมะมาเป็นเวลาประมาณมากกว่า 10 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นอาจารย์หมอเขียวพูดธรรมะอะไรนี่นะมันถูกต้องเราก็เออ ขนาดอาจารย์หมอเขียวธรรมดานี่นะ ธรรมะของท่านสอนนะแล้วมาฟังเมื่อวานนี้ ยิ่งคอนเฟิร์มใหญ่เลยว่าที่อาจารย์บอกว่าทุกอย่างนี่นะมันเกิดจากกระแสไฟฟ้าพวกแม่เหล็กทั้งหลายแหล่นี่ มันส่งกัน เพราะฉะนั้นเรื่องจิตวิญญาณนี่มันมีผลเพราะว่าเป็นกระแสติดมาถึงเราปัจจุบันเรื่องธรรมะที่อาจารย์หมอเขียวบอกมานี่เป็นความถูกต้องนะครับ เพราะว่าคนนักวิทยาศาสตร์จะไม่เชื่อฝรั่งนี่เขาไม่รู้เท่าของพระพุทธเจ้าที่รู้ พระพุทธเจ้ารู้เป็นรู้ธรรมะซึ่งถูกวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ถูกทุกเวลา แต่ฝรั่งนี่เขาสอนอะไรรู้ไหม เขาสอนบอกว่า Possibility เป็นไปได้ น่าจะเป็นอย่างนี้ ที่พวกเรารักษานี่เขาบอกสมมติฐานน่าจะเป็น เห็นไหมมันหลอกเราผมเป็นตัวหมอเองนี่ ไปกินยามาตั้งนาน เป็นพวกกรดทั้งหลายแหล่และถ้าพวกเรามีความศรัทธาในอาจารย์หมอเขียว ปฏิบัติทั้ง 9 ข้อนี่นะ พวกเราจะหายจากโรคที่เราเป็น ๆ นี่มันหายนะไอ้มะเร็งนี่จากถ้าอาจารย์ ก็จะเอาธรรมะของอาจารย์เมื่อวานนี้ที่พูดเมื่อวานนี้ เขาจะบอกเราว่ามันอากาศจะร้อนจะเย็น กับที่เกิดจากอารมณ์บ้างเกิดจากที่อาหารบ้างที่เราผัสสะที่พวกอะไร ที่เราประสบนี่มันเกิดเพราะว่าความเครียด ทุกอย่าง ความพอใจไม่พอใจ เกิดขึ้นอันนี้ต่างหากที่มันทำให้เราเกิดปัญหาขึ้นมา เพราะฉะนั้นนะผมว่านี่เชื่ออาจารย์หมอเขียวถูกต้องแล้ว พวกเราขอให้มีความศรัทธาปฏิบัติที่อาจารย์หมอเขียวบอก ไอ้ยาทุกอย่างนี่สิ่งใดที่เราต้องทานก็ต้องทาน สิ่งใดที่ไม่จำเป็นต้องทานก็พยายามปรับปรุงตัวเราเองร่างกายเราจะสมบูรณ์จริง ๆ ดูตัวอย่างผมสิครับดูไม่ออกเลยผมอายุเท่าไร แล้วดูไม่รู้ว่าผมนี่ร่างกายแข็งแรงขนาดไหนผมทำงานนี่ ผมบางทีทำงานตอนเช้าผมกว่าจะกินข้าวบ่าย 3 โมงนะครับแต่ผมกินน้ำอาจารย์หมอเขียวแล้วผมกินโปรไบโอติกส์อย่างหนึ่งนะครับซึ่งเป็นยาที่ช่วยขับถ่ายนะครับและรักษาโรคเรา อันนี้นะอันที่ยังไม่มีใครพูดนี่ ต้องถามอาจารย์เตือนใจ
คุณเตือนใจ: อันนี้สงสัย โปรไบโอติกส์ นี่ยากหน่อย ตัวแบคทีเรียดีค่ะ
จิตอาสา: อาจจะให้อาเตือนอธิบายสั้น ๆ นิดนึงแล้วกันนะคะ เดี๋ยวพี่น้องอาจจะสงสัยว่าคืออะไร
คุณเตือนใจ: คือที่คุณหมอพูดเมื่อกี้นะคะดิฉันทำน้ำเขาเรียกว่า ถ้าจะพูดภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า โปรไบโอติกส์ดริ๊ง คือไอ้สารจุลินทรีย์ตัวดีค่ะ ชื่อฟลอร่า (Flora) ปกติในลำไส้เรามันจะมีจุลินทรีย์ตัวไม่ดีเยอะใช่ไหม เพราะฉะนั้นมันทำให้เราไม่ค่อยสบายโดยเฉพาะคนที่ท้องผูกแล้วจุลินทรีย์ที่ว่านี้มันเป็นจุลินทรีย์ตัวดี แต่ทำเองต้องมีเชื้อ ก็ทำให้คุณหมอเขากินทุกวัน ๆ เขาก็ท้องไม่ผูก แล้วสุขภาพเขาก็ดีขึ้นด้วยแล้วก็ภูมิต้านทานก็ดีขึ้นด้วยเพราะเรามีตัวคล้าย ๆ กับอะไร ตัวแบคทีเรียตัวไม่ดีกับตัวดีอยู่ในร่างกายเราแล้วเรากินตัวดีเข้าไปเยอะ ๆ มันก็ไปต่อสู้กันนี่ตัวไม่ดีมันก็แพ้ ร่างกายเราก็แข็งแรงมีภูมิต้านทานขึ้นมันก็คล้าย ๆ กับที่อยู่ในโยเกิร์ต แต่โยเกิร์ตที่เขาทำขายตามตลาดน่ะจุลินทรีย์ดี ๆ มันตายไปตั้งเยอะแล้วเพราะมันกว่าจะขนส่งแล้วมันไปพลาสเจอไรส์ไปฆ่าเชื้ออีก แต่ที่เราทำเองนี่มันดีมันมีตัวจุลินทรีย์เยอะ ๆ ดี ตอนนี้ก็เลยมานึกถึงเมืองไทย เออ เมืองไทยทำไมคนไทยเขากินข้าวหมากกัน ข้าวหมากนี่ดีนะ มันเป็นจุลินทรีย์ตัวดีนะ เมืองไทยก็กินข้าวหมากได้
จิตอาสา: ที่บอกว่าพวกของหมักดองหรือเปล่าค่ะที่บอกว่าเราจะได้วิตามินบี 12 อะไรอย่างนี้
คุณเตือนใจ: ไอ้หมักดองนี่มันก็แล้วแต่จำนวนที่เรากินนะเรากินบ้างก็ไม่เป็นไรนะอย่างพวก เกาหลีนี่เขาบอกเขาไม่ได้เป็นโรคอะไรเขากินกิมจิ
จิตอาสา: กิมจิ
คุณเตือนใจ: กิมจิก็เป็นพวกหมักเหมือนกันนะ มันก็มีเชื้อจุลินทรีย์ตัวดีอยู่ในนั้นนะ แต่ไม่ แน่ใจนะ ของอันนั้นเพราะว่ายังไม่เคยลอง
จิตอาสา: อันนี้ก็เป็น อาจจะเป็นอะไรที่เสริม เพิ่มเติมนะคะ
คุณเตือนใจ: อันนี้ก็เพิ่มเติมนอกเหนือจากหมอเขียว
จิตอาสา: ใช่ อันนี้ก็คือคุณอาเอามาเพิ่มเติม แต่จริง ๆ แล้วในแพทย์วิถีธรรมเราก็จะสอนให้ ทำอะไรที่เรียบง่าย
คุณเตือนใจ: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ประหยัด เรียบง่าย ใช้ของที่อยู่ใกล้ตัวนะคะเพราะจริง ๆ แล้วสุดท้ายทุกอย่างมันก็ คือการปรับสมดุล อันนั้น ก็อาจจะเป็นวิธีที่คุณอาทั้งสองเอามาใช้ปรับสมดุลเพิ่มเติม
คุณเตือนใจ: ใช่
จิตอาสา: ใช้แล้วก็ทำให้สุขภาพดี ทีนี้พี่น้องฟังแล้วเดี๋ยวอาจจะสงสัยก็เอาเท่าที่เราทำได้
คุณเตือนใจ: ใช่ค่ะ เอาเท่าที่เราทำได้ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ ที่สบายตัวค่ะ ก็เดี๋ยวท้ายนี้ อยากจะให้อาทั้งสองสรุปอะไรเพิ่มเติมแต่ถ้าจากที่ คุณอาทั้งสองเล่าก็คือวันนี้โรคที่เคยเป็นนี่หายแล้วไม่มาเยือนเราอีกแล้วนะคะ
คุณเตือนใจ: หายแล้วแล้วก็ไม่กังวลแล้วค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ ของอาเตือนอย่างของอาหมอนี่ฟังดูยังไม่แน่ชัดตกลงว่าเป็นอะไรที่ แต่จะมี ปวดเข่าใช่ไหมคะ มีเจ็บ อะไรอย่างนี้เหล่านี้
คุณหมอธรรมศักดิ์: ตอนนี้ผมนี่คือพวก Joint pain ที่ว่าข้อเข่าปวดนี่ครับ คนโดยมาก สูงอายุมากจะเป็นนะครับ วิธีการที่จะไม่ให้ปวดหรืออะไรนี่ถ้าปฏิบัติของอาจารย์หมอเขียวทั้ง 9 ข้อนี่อาการนี่จะหายไปเอง แต่ถ้าเกิดเนื่องจากว่าเราต้องกินอาหารบางอย่างซึ่งมีอาหารฤทธิ์ร้อน นี่หรือว่ามันจะทำให้เราเป็นปวดข้อทั้งหลายแหล่ ยาที่เรากินนี่ที่ฝรั่งเอามาให้ผมกินนี่มันเป็นกรดทั้งนั้นมันไม่ได้แค่เป็นด่างมันเป็นกรด เพราะฉะนั้นอาหารนี่แหละจะช่วยเราก็ต้องปฏิบัติสิ่งที่ดีก็คือว่าพวกนี้ป้องกันมะเร็งนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่พวกผมนี่อายุมาก ๆ อาหารฤทธิ์ร้อนฤทธิ์เย็นนี่ต้องสนใจที่สุดนะครับเรื่องนี้ สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ก็คือเนื้อนมไข่ของมัน อดได้อดพวกเนื้อทั้งหลายที่ฟังอาจารย์ฟังท่านคุณจำลองนี่ท่านบอกเมื่อวานนี้ พวกเราควรจะปฏิบัติตาม เพราะมันผิดศีลอยู่แล้วเพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าอยากให้ศีลสมบูรณ์ก็ต้องเชื่ออาจารย์เชื่อลุงจำลองนะครับ อันนี้เป็นธรรมะที่ถูกต้องเพราะว่ามันจะช่วยให้เราอายุยืนครับมะเร็งมันจะหายเอง แล้วปฏิบัติของอาจารย์หมอเขียวนี่ ผมพยายามบอกหลายคนแล้วว่าปฏิบัติที่เป็นธรรมะ ซึ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ของเรานะครับ
จิตอาสา: ท้ายนี้ก็ต้องขอบพระคุณอาทั้งสอง แต่มีอะไรจะทิ้งท้ายแนะนำเพิ่มเติมอีกไหมคะ
คุณเตือนใจ: ก็อยากจะบอกว่านั่นล่ะค่ะยาทั้ง 9 เม็ด ของอาจารย์หมอเขียวนะคะ ควบคุมทุก อย่างทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าเราทำอย่างจริงจัง ทำให้สุด ๆ อย่างที่อาจารย์นิดดาพูดนะคะผลจะเกิดขึ้นกับตัวเองแต่ก็อย่าเชื่อนะคะ ต้องลงมือทำเองค่ะสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้นะคะ ต้องทำเองค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ ก็ขอบคุณคุณอาทั้งสองคนมาก ๆ เลยนะคะ เราก็ได้ความรู้มาแลกเปลี่ยนจาก คุณอาซึ่งเป็นทั้งหมอปัจจุบันแล้วก็พยาบาลวิชาชีพปัจจุบันด้วยนะคะ แล้วก็ได้สาระเยอะมาก ๆ ถ้ามีเวลาจริง ๆ น่าจะคุยอะไรได้มากกว่านี้อีกเยอะแต่ถ้าใครสนใจสามารถหลังไมค์ได้คะคุณอามีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าค่ะ
คุณหมอธรรมศักดิ์: ไม่มีแล้วครับขอบคุณมากครับ
จิตอาสา: ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ