3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.34 |
ชื่อ | นางไข ป้องสี |
เพศ | หญิง |
อายุ | 6 ปี |
จังหวัด | ร้อยเอ็ด |
โรคหรืออาการ : มะเร็งตับ
วันที่เข้าค่าย 14-20 มกราคม 2555 (ครั้งที่ 1) ณ ดอนตาล มุกดาหาร เก็บข้อมูลวันที่ 19 มกราคม 2555
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เริ่มแรกรู้สึกปวดท้องมาก ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ร้อยเอ็ด หมอบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ ให้ยามาทานรักษาอยู่ ประมาณ 3 ปี ก็ไม่ดีขึ้นพอดีลูกสาวซึ่งเคยมาเข้าค่ายที่ดอนตาลแล้วกลับไปทำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดให้ดื่ม ก็ได้ดื่มบ้างแต่ไม่สม่ำเสมอ เมื่อไม่นานมานี้ไปทานอาหารรสจัดเข้า ทำให้ปวดท้องมาก พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน หมอพบว่าเป็นมะเร็งตับโตประมาณ 10×6 เซ็นติเมตร โดยทำใบส่งตัวให้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่ยังไม่ได้ไปตามหมอนัด
การดูแลและแก้ไขอาการ :
พอดีลูกสาวรู้ว่ามีการจัดค่ายช่วงนี้ ก็เลยลองพาคุณแม่มาร่วมค่ายดังกล่าว
- วันแรก มาไม่ทันเพราะอยู่ไกล
- วันที่สอง เริ่มปฏิบัติตามที่แนะนำกันในค่ายยังรู้สึกแน่นหน้าอกและร้อนท้องมาก
- วันที่สาม ตอนเช้าประมาณ ตี 3 กว่า ๆ ข้าพเจ้าเดินผ่านที่พักคนไข้เห็นนั่งคลุมโปงหนาวสั่นอยู่คนเดียวถามได้ความว่าลูกสาวที่พามากลับไปธุระที่บ้าน ก็ถามอาการ บอกว่าหนาวมาก ๆ ถามดูก็ได้ความว่า ตอนใกล้รุ่งรู้สึกร้อนมากก็เลยเอากากย่านางผสมน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดพอกเอาไว้ที่หน้าอก ประกอบกับเป็นเวลาที่อากาศหนาวมากในช่วงนั้น ก็ทำให้หนาวสั่นไปทั้งตัว ก็แก้ให้โดยลอกเอากากสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดออก เช็ดตัวให้แห้ง รีบไปเอากระเป๋าน้ำร้อน 3-4 ใบนำมาประคบร้อนบริเวณหน้าอก ปลายมือ ปลายเท้า โดยได้ถอดถุงมือและถุงเท้าของตัวเองใส่ให้คนไข้ และเพิ่มผ้าห่มให้อีก 2 ผืนโอบตัวให้อุ่นสักพัก และได้ผสมน้ำพออุ่น ๆ กับผงถ่านคน ๆ ให้ดื่มจนหมดแก้วประมาณครึ่งชั่วโมง คนไข้ก็เริ่มรู้สึกร้อน สลัดผ้าห่มออกบ้าง โดยบอกว่าไม่ค่อยหนาวแล้ว สักครู่ก็หลับไปจนสว่างพอตื่นขึ้นก็พอดีกับน้องสาวและลูกสาวกลับมา ก็ได้แนะนำให้ลูกสาวพาคนไข้ไปทำดีท็อกซ์วันนั้นก็ได้แวะเวียนไปถามอาการ ก็บอกว่าดีขึ้น ไม่ค่อยแน่นหน้าอก
แต่อาการร้อนบริเวณยอดอกก็ยังคงมี ก็ได้แนะนำเพิ่มว่า ถ้าคนไข้ไม่เพลียมากเกินไป ตอนเย็นก็ให้ทำดีท็อกซ์เพิ่มอีกครั้งเพื่อระบายความร้อนปรับสมดุล และให้ดื่มน้ำผสมถ่านหรือผสมน้ำปัสสาวะไปเรื่อย ๆ ส่วนการพอกกากสมุนไพรให้ทำเฉพาะช่วงกลางวัน ตอนกลางคืนหรือใกล้รุ่งที่อากาศหนาว อย่าเพิ่งพอก ถ้าร้อนก็ให้ทานน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมถ่านและน้ำอุ่นแทน และแนะนำให้ดื่มน้ำปัสสาวะด้วย - วันที่ 4-6 อาการคนไข้ดีขึ้นตามลำดับ สดชื่นขึ้น ลุกขึ้นเดินได้พอควร ยังคงปฏิบัติตัวตามที่แนะนำ แต่ทานอาหารไม่ค่อยได้ นอกจากผลไม้เล็กน้อย
- วันที่ 7-20 คนไข้อาการดีขึ้น ก็ขออยู่ต่อในช่วงพระไตรปิฎก อาการทั่วไปไม่น่าเป็นห่วง น้ำหนักลดไปกว่าเดิม 10 กิโลกรัม ก่อนกลับได้แนะนำให้กลับไปทำข้าวต้มล้างพิษให้ทาน เพราะคนไข้บ่นว่าไม่หิวข้าว และได้ย้ำเรื่องดีท็อกซ์และดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมผงถ่านไปทำที่บ้านด้วยสามอาทิตย์ต่อมา โทรถามอาการจากลูกสาว ก็บอกว่า อาการทั่วไปดีขึ้น เหลือเพียงเวลาทานอาหารก็ยังเบื่อ ๆ อยู่ ก็แนะนำให้ปั่นน้ำผักผลไม้ผสมน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นทาน หรือทานขนมปังกรอบบ้างถ้าอยากทาน บริเวณท้องที่เคยแข็งก็อ่อนนิ่มลง
ต้นเดือน มิถุนายน 2555 ลูกสาวได้โทรมาแจ้งข่าวว่า คนไข้ได้วางขันธ์วางร่างไปแล้วอย่างสงบ เนื่องจากทานอะไรไม่ได้เลยตลอดระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา