3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.41 |
ชื่อ | นางหนูเกณท์ พลบูรณ์ |
เพศ | หญิง |
อายุ | 65 ปี |
อาชีพ | แม่บ้าน |
จังหวัด | กาฬสินธ์ |
โรคหรืออาการ : โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
วันที่เข้าค่าย 12-18 มีนาคม 2555 (ค่ายดอนตาล) และค่ายมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (2 ครั้ง) เก็บข้อมูลวันที่ 18 มีนาคม 2555
ก่อนหน้านี้เป็นคนท้องผูก ท้องอืด ถ่ายออกเป็นก้อนเหมือนขี้แพะ ทำให้เป็นริดสีดวงทวาร เมื่อปลายปี 2554 ต้องไปเฝ้าไข้สามี มีอาการเครียด หลังสามีเสียได้ประมาณ l เดือน ถ่ายไม่ออก มีอาการหนาวสั่น ก็พาไป รพ. หมอตรวจดูสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็ให้ยามาทานและนัด X-ray ผลออกมาว่าเป็นในระยะที่ 2 คนไข้เริ่มเบื่ออาหารน้ำหนักลดลง อ่อนเพลีย ถ่ายไม่ออก ให้ดื่มน้ำหมักชีวภาพของป้าเช็ง ก็พอถ่ายได้บ้าง หมอได้นัดผ่าตัดลำไส้ราวปลายมีนาคม
การดูแลและแก้ไขอาการ :
เพื่อนลูกสาวแนะนำให้มาเข้าค่ายก็จองมา โดยก่อนหน้าที่จะมา ก็ทำน้ำสมุนไพรและดีท็อกซ์ ปั่นผลไม้รวมให้ดื่มก็พอถ่ายออกได้บ้าง ทานข้าวต้มธัญพืช แต่ยังไม่รู้เรื่องอาหารฤทธิ์ร้อนเย็น
- วันแรก ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด พอกตัว กัวซา ทานอาหารปรับสมดุลได้เล็กน้อย นอนหลับดี
- วันที่ 2 ตรวจสุขภาพ ค่าเบาหวานสูงประมาณ 400 ความดันปกติ เริ่มทำดีท็อกซ์ ประมาณ 2 ขวด ทำเหมือนวันแรก สวดมนต์ โยคะกดจุด ออกเดินบ้าง หยอดหู หยอดตา แต่ยังทานอาหารไม่ค่อยได้เหมือนเดิม
- วันที่ 3 ทำดีท็อกซ์ 2 ครั้ง วันนี้เริ่มให้ดื่มน้ำปัสสาวะ แช่มือแช่เท้า นอกนั้นก็ทำหมือนเดิม
- วันที่ 4 ทำดีท็อกซ์ด้วยน้ำฉี่ มือเท้าเย็น เอาน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมน้ำตะไคร้ให้ดื่ม ประคบด้วยน้ำร้อน ทานผลไม้และส้มตำได้เล็กน้อยอาการยังอ่อนเพลีย แนะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ+สมุนไพรฤทธิ์เย็น+ผงถ่าน นอนหลับปกติ
- วันที่ 5 เหมือนเดิม เพลียมาก เลยไม่ได้ให้ทำดีท็อกซ์
- วันที่ 6 ทำดีท็อกซ์เช้า อาการเพลียเริ่มดีขึ้น ตรวจสุขภาพ เบาหวานลดลงเหลือ 320
ค่ายที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (วันที่ 20-26 มีนาคม 2555)
- วันแรก มาพร้อมคณะ ลงทะเบียน ทำ ดีท็อกซ์ให้ พักผ่อน
- วันที่ 2 แนะนำให้พอกบริเวณที่ปวด ทำดีท็อกซ์ด้วยน้ำสมุนไพรและน้ำปัสสาวะ เอาใบสาบเสือคั้นน้ำให้ดื่มป้องกันเลือดออกทางรูทวาร เจ็บก้น พอกทาที่บริเวณใกล้รูทวารที่เป็นแผลและเจ็บ การทานอาหารทานได้มากขึ้นเล็กน้อย
- วันที่ 3 ดื่มน้ำเปลือกแค+น้ำปัสสาวะ+น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น+ผงถ่าน พอกบริเวณก้นทำให้บรรเทาปวดได้บ้าง วันนี้แช่มือแช่เท้าแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย
- วันที่ 4 ทำดีท็อกซ์เช้า-เย็น อาการเพลียดีขึ้น มีอาการร้อนเย็นพันกัน แนะวิธีแก้ให้ก็ดีขึ้น เริ่มสอนให้ทำ Homeopathy ดื่ม รู้สึกดีขึ้น ทานข้าวได้บ้าง ร่างกายแข็งแรงขึ้น การขับถ่ายเริ่มมีอุจจาระออกมาบ้าง
- วันที่ 5 คนไข้มีอาการสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด เดินได้มากขึ้น ทำกิจกรรมทุกอย่าง สวดมนต์ กดจุดโยคะ ทานอาหารเพิ่มขึ้น น้ำปัสสาวะสีใสขึ้น
- วันที่ 6 ปฏิบัติเหมือนเดิม
- วันที่ 7 เตรียมตัวกลับบ้าน ได้แนะให้ไปทำอาหารอ่อน ๆ ให้ทาน เช่น ข้าวต้มล้างพิษ หรือถ้าคนไข้ไม่อยากทานอาหาร ก็ให้ทานผลไม้หรือปั่นน้ำผลไม้ให้ทานก็ได้
- เดือนพฤษภาคม 2555 คนไข้ก็ยังไม่ค่อยทานอาหารเช่นเดิม นำเข้าโรงพยาบาล ลูกสาวเพิ่งทราบว่า ก่อนมาเข้าค่ายนั้นคุณแม่ไม่ได้เป็นมะเร็งเฉพาะที่ลำไส้เท่านั้น แต่อันที่จริงมะเร็งได้กระจายไปถึงตับ กระเพาะอาหาร และกระจายไปทั่วและเป็นระยะสุดท้ายแล้ว แต่คนไข้ก็เป็นคนอดทนมาก ไม่แสดงอาการปวดให้ใครเห็น เมื่อไปพบหมออีกครั้ง หมอก็พยายามบอกให้ทำการผ่าตัดลำไส้ออกประมาณหนึ่ง แต่ลูกสาวไม่เห็นด้วยเพราะทราบว่าถึงผ่าตัดไปก็ไม่สามารถยับยั้งเชื้อมะเร็งได้ ก็พาคุณแม่กลับบ้าน และท่านก็ได้วางขันธ์วางร่างอย่างสงบในวันที่ l มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา