2. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 10 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 2.65 |
ชื่อ | นางสาวจุฬาพรรณ วงษ์สมตระกูล |
เพศ | หญิง |
อายุ | 28 ปี |
อาชีพ | อิสระ |
จังหวัด | อยุธยา |
โรค | โรคหวัด โรคโลหิตจาง |
วันสัมภาษณ์ | 15 พฤศจิกายน 2557 |
โรคหวัด จากการพักผ่อนน้อยเนื่องจากอ่านหนังสือ มาได้ทานน้ำย่านางครั้งแรกตอนป่วยเป็นหวัดช่วงอ่านหนังสือสอบเรียนต่อ แม่ทำให้ทานค่ะตอนปี 2551 เพราะอ่านจากหนังสือย่านางเล่มเล็กมันเจ๋งมาก คือทานตอนตื่นเช้ามา แล้วก่อนหน้าก็ทานอะไรไม่ค่อยลง มันเลยซึมซาบรู้สึกมีแรงสดชื่นขึ้นทันที จากที่ป่วย ๆ ก็ติดใจตั้งแต่นั้น
จำไม่ได้ว่าได้ยินชื่อหมอเขียวครั้งแรกตอนไหน เพราะตอนปี 2553 ก็ไปเกี่ยวข้าวกับทีวีบูรพา เขาก็พูดถึงอาจารย์หมอเขียว หลังจากนั้นได้มาเข้าค่ายตอนเมษายน 2554 แต่อยู่ไม่ครบเพราะอากาศหนาวมาก ไม่ได้เตรียมตัวไปพร้อม คือไปกับแม่และน้อง เขาก็ไม่ไหวกันก็เลยตัดสินใจกลับจนได้มาค่ายอาจารย์หมอเขียวอีกครั้งเมื่อ 7-11 กันยายน 2557 กะว่าจะขอแค่อยู่ให้ครบ คราวนี้มัน 5 วันก็โอเคนะ สุขภาพเราก็ปล่อยปละมาเป็นปีแล้ว เลือดจาง ผมร่วง ก็ไปคนเดียว ก่อนไปพ่อ บอกว่าให้เก็บเกี่ยวให้ได้เยอะ ๆ นะ (พ่อเป็นทันตแพทย์ค่ะ แต่มาชอบสุขภาพวิถีทางเลือกเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยให้เวลาตัวเองมาค่าย) ก็ยังบอกเขาว่าแค่ 5 วันมาเก็บสูตรอาหารเฉย ๆ ปรากฏว่าวันที่ 3 บ่ายพิษออกตา เพราะเล่น Smartphone เยอะมากและไม่พัก และเราก็มีความผิดปกติทางสายตาที่ทำให้ตาต้องเพ่งในระยะใกล้ พอพิษออกก็ได้ใช้วิชาของอาจารย์หมอเขียว ได้คำแนะนำจากป้าปานและคนอื่น ๆ เลยได้ฤกษ์กินฉี่ ใช้ฉี่หยอดตา จนได้พบ Effect มหัศจรรย์ของฉี่ที่เกิดทั้งร่างกายเลยประคบตาด้วยน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด พอกตัว วันแรกผ่านไปตาดีขึ้น ไข้ลด ก็รู้ว่ามาถูกทางแล้ว ก็ปฏิบัติต่อไป ๆ วันกลับพี่ขวัญเอาข้าวสารมาให้และทำลูกประคบตาจากข้าวปั่น อันนี้ใช้ดีมาก กับพิษออกตานี่ใช้ดีทีเดียวเรื่องฉี่เข้าค่ายตอนปี 2554 ก็รู้ว่าฉี่ก็น่าจะดีนะ แต่ให้กินนี่ยากจัง ขอทำข้ออื่นดีกว่า คราวนี้หมดทางเลือก อยากหายก็ต้องใช้ฉี่ เพราะตามันแดงและแสบและร้อนออกมาก ให้กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น ก็เลยได้ไปแบบเต็ม ๆ แค่ 5 วันและไม่ได้จ่ายสักบาท เพราะไม่เจออากิม รู้สึกคุ้มค่ามาก คราวนี้กลับมาเผยแพร่สูตรอาจารย์หมอเขียวที่บ้านโดยไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย เพราะเค้าเห็นเราเป็นขนาดนี้ แล้วหาย ทั้งน้องอายุ 21 แม่ แม่บ้าน สามีแม่บ้าน ลูกแม่บ้าน ได้เอาสูตรไปใช้ แล้วเขาดีขึ้น ตั้งแต่กลับมาก็รู้สึกดีมาก ๆ ค่ะ มันเปิดโลกแห่งความมั่งคงและมั่นใจให้กับเรามาก ถ้ากินก็กินแค่นี้ ป่วยก็รักษาอย่างนี้ แล้วเรามั่นใจแล้วว่าเรารักษาตัวเองด้วยวิธีนี้ได้ ชีวิตนี้ก็สบายแล้ว มันทำให้ความพอเพียงเป็นไปได้มาก ๆ แล้วฉี่นี่ก็ช่วยมาก ๆ รู้สึกเหมือนได้คนใหม่ที่วัยเยาว์กลับมา สุขภาพร่างกาย อารมณ์ความรู้สึก ฉี่นี่ช่วยมาก ๆ ค่ะ เพราะมันได้ทั้งฮอร์โมน ภูมิคุ้มกัน และเมตาบอลิซึ่มรู้สึกเหมือนย้อนไปตอนอายุ 18 น่ะค่ะ คืนความสาวและสมบูรณ์กลับมาจริง ๆ ผลการตรวจร่างกายที่ผ่านมาเม็ดเลือดปกติแล้ว ไม่มีเลือดจาง เม็ดเลือดขาวเพิ่ม ผมไม่ค่อยร่วง มีงอกใหม่ด้วย ประจำเดือนมาปกติเดือนต่อมาทันทีเลย เขาปรับเข้าสู่ Cycle ปกติ จากที่เพี้ยนมาต้นเดือนก็ปรับให้เป็นปลายเดือนที่ควรจะเป็น
ประวัติสุขภาพก่อนรู้จักแนวทางดูแลสุขภาพด้วยหลักการแพทย์วิถีธรรม นอนหลับไม่ค่อยสนิท เลือดจางมาหลายปี บางปีตรวจเลือดขาวก็ต่ำ ผมร่วง ตาเหลือง ไม่ค่อยสดชื่น มีตุ่มไขมันขึ้นที่รักแร้ ขาข้อพับ ท้อง
การรู้จักการแพทย์วิถีธรรมไม่แน่ใจว่ารู้จักครั้งแรกที่ไหน แต่ได้อ่านหนังสือย่านาง และหนังสือ 3 เล่ม ของอาจารย์หมอเขียวที่ขายที่ SE-ED และจากทีมงานทีวีบูรพา
มูลเหตุหรือแรงจูงใจที่มาเป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เพราะทึ่งในความมหัศจรรย์ของการรักษาเยียวยาทางนี้ รู้สึกขอบคุณและอยากเผยแพร่ เพราะคนทุกวันนี้ทุกข์กับโรคหลายอย่าง และยังต้องมาทุกข์กับความหลอกลวงของระบบทุนนิยม รักษาก็ไม่หายทรมาน และจ่ายแพงมาก
การเผยแพร่ความรู้ช่วยเหลือผู้อื่นบอกต่อ ๆ คนใกล้ตัวที่ได้ผลก็เป็นทางครอบครัวแม่บ้านที่สามีเขาร่างกายอ่อนแอ เขาไปทานฉี่ และทาฉี่ พอกหน้า ปรากฏว่าหน้าเด้ง เผยผิวเดิมออกมา คือเขาเป็นคนลาว ผิวเดิมเขาสวย ทีนี้ออกแดดทำสวนหน้ามันก็เป็นฝ้า พอทาเอาฉี่ทา ทีนี้ฝ้าลอกออกมา เขาก็ได้ผิวใหม่ เลยติดใจมาก อารมณ์ สุขภาพก็ดีขึ้น มีบอกว่ากินฉี่แล้วง่วง ก็อาจจะเพราะเขาพิษเยอะหน่อย ส่วนน้องสาวมีอยู่คืนหนึ่ง กรามบวมเหมือนคางทูม ปวด แม่ก็เลยบอกให้กินฉี่ เขาก็กิน เช้ามาก็ปรากฏว่าหาย แล้วก็ใช้ผงพอกอะไรไป ก็ไม่ได้ใช้ยาแผนปัจจุบันเลย ตอนนี้ทุกคนกินฉี่เป็นประจำวันเลยค่ะ สามารถปรับรสชาติฉี่ได้ จริง ๆ ฉี่ก็ช่วยให้พวกเราทานจืดได้มากขึ้น เพราะถ้าไม่จืดฉี่จะไม่อร่อยเลย อาหารก็ทำสุขภาพบ้าง มีรสชาติบ้าง แต่เน้นไม่ทานเนื้อสัตว์ อาจจะมีไข่กับปลาบ้าง เนื้ออื่น ๆ นาน ๆ ที ถ้าเลี่ยงไม่ได้ แม่ช่วงหลังกรนเบาลงมาก น้องสาวกัวซาเก่ง ก็ทำให้แม่ หลังเขาแดงมาก เราเดาว่าบริเวณปอดเขาร้อน ช่วงนี้กรนเบาลงมาก Power ลดลง อย่างเห็นได้ชัด
ปัญหาอุปสรรคในการดูแลตนเองหรือพึ่งตนตามหลักแพทย์วิถีธรรม ปัญหาตอนนี้ที่คิดว่ายังทำไม่ได้ดีคืออาหารค่ะเอาแค่ 30-40 % แนวทางแก้ไขคือฝึกทำอาหารฤทธิ์เย็นให้อร่อยขึ้น และหมั่นพิจารณาอาหารถึงประโยชน์และโทษ
ปัญหาอุปสรรคในการเผยแพร่ความรู้แพทย์วิถีธรรมอุปสรรคคือเขาไม่ค่อยรับ ไม่คิดจะลองทำกันเลยบางคนก็มีกระแสต่อต้านจากสามีจากลูก
เหตุปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการดูแลตนเอง หรือพึ่งตนตามหลักแพทย์วิถีธรรม ผลที่ร่างกายดีขึ้นจนเราติดใจ และการได้ไปล้างพิษในค่าย มันทำให้ร่างกายได้ถอดพิษจนเขาสมดุลและจะมีอาการปฏิเสธอาหารไม่ดี อากาศไม่ดี สารเคมี พอออกมามันก็จะมีอาการแบบนี้ หลังจากนั้นมันจะทำต่อไปได้เรื่อย ๆ ค่ะ คิดว่าควรผ่านค่ายก่อนเพราะไปทำเองคิดว่าพิษคงไม่ออก และถอนร้อนออกไม่ได้เท่าในค่าย หรือผลที่ได้จะไม่เร็วและไม่ดีเท่า