กรณีศึกษา 1.57 คุณบุญยวีร์ ศักดิ์สิริวาณิช

อาการ :

• ระบบเลือด เม็ดเลือดแดงต่ำ เม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ ทำให้ตัวซีด เพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่าย
• ไต ขาบวม เปลือกตาบวม เมื่อยช่วงเอวด้านขวา ปัสสาวะสีเหลืองเข้มปนน้ำตาลเหมือนสีน้ำชา มีฟองไข่ขาวในปัสสาวะ

การรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน

• ระบบเลือด ใช้ยาเพนนิโซโลนเพื่อกดภูมิคุ้มกัน ยาโฟลิคแอซิดเพื่อเพิ่มเม็ดเลือด ยาแคลเซียมเพื่อป้องกันกระดูกบาง
• ไต ในช่วงแรกได้ใช้ยาเพนนิโซโลนและยาพลัคควินนิลควบคู่กันเพื่อรักษาการอักเสบของไต กินได้เป็นเวลา 2-3 ปี อาการขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่หายขาดและอาการอักเสบก็เพิ่มมากขึ้นคุณหมอจึงสั่งให้เจาะไต ผลที่ออกมาคือมีอาการอักเสบมากจึงสั่งให้ยาเอนด๊อกแซน โดยวิธีการฉีดเข้าเส้นผลข้างเคียงของยาตัวนี้คือทำให้ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปรกติ คลื่นไส้อาเจียน หลังจากฉีดยา ผลการตรวจเลือดและการทำงานของไตถือว่าอยู่ในระดับดี แต่สภาพร่างกายจะรู้สึกร้อนทำกิจกรรมอะไรนิดหน่อย เหงื่อจะออกมากผิดจากก่อนป่วยที่เหงื่อจะไม่ค่อยออกมาก หลังจากฉีดยาจนครบต้องเพิ่มตัวยาในการักษาอีกหนึ่งตัว คือยาเซลล์เซป ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นตัวยาที่ใช้สำหรับการรักษาไตอักเสบ โดยเฉพาะแต่อาการก็ไม่ได้หายขาดยังขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ ส่วนตัวยาเพนนิโซโลน หลังจากกินแล้วจะมีผลข้างเคียง คือมูนเฟส ทำให้หน้ากลม หลังเป็นหนอก

การรักษาและค่าใช้จ่าย

1. ค่ารักษาแพทย์แผนปัจจุบัน ประมาณ 4-5 แสนบาท
2. ค่ารักษาแพทย์แผนไทย  ประมาณ 1,000-2,000 บาท (กินยาต้ม)
3. การรักษาแพทย์แผนจีน  ประมาณ 2-3 หมื่นบาท ได้ตรวจกับหมอแมะบอกว่าตับและม้ามไม่แข็งแรงต้องกินยาปรับสมดุลอวัยวะหลังจากกินยาต้มแล้วต้องกินยาลูกกลอนเพื่อบำรุงหัวใจ ตับ ปอด ม้าม และเลือดต่อ
4. การรักษาทางไสยศาสตร์ ช่วงแรกที่ขาบวมได้ไปหาคนทรงบอกว่าโดนลมเพลมพัด ให้นำฮู้มาเผาใส่น้ำผสมกับแป้งข้าวจ้าวและข้าวเหนียวพอกไว้ 2 คืนหลังจากพอกเสร็จ 2 คืน ขาที่บวมยุบลงเหมือนไม่เคยบวมมาก่อนแต่อาการไตอักเสบยังมีอยู่
5. การรักษาด้วยยา 9 เม็ด ในช่วงแรกที่เข้าไปในค่ายมีอาการเมื่อยหลังและปัสสาวะสีเข้ม มีฟอง เมื่อกินอาหารปรับสมดุล ทำดีท็อกซ์กัวซา โยคะ อาการเมื่อยหลังยังมีอยู่แต่ก็รู้สึกเบาตัวขึ้น ปัสสาวะรสจืด