1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.60 |
ชื่อ | ธนกร ซึ้งตระกูล |
เพศ | หญิง |
อายุ | 46 ปี |
จังหวัด | อุบลราชธานี |
โรค | โรคความดันเบาหวาน โรคไตเสื่อม |
วันสัมภาษณ์ | 30 กรกฎาคม 2556 |
จิตอาสา: รบกวนช่วยแนะนำตัวด้วยค่ะ
ธนกร: นายธนกร ซึ้งตระกูล ธกส.อุบลราชธานีครับ ผมอายุ 46 ปี
จิตอาสา: มีอาการไม่สบายเป็นอะไรมาคะ
ธนกร: ความดันเบาหวาน แล้วก็ไตเสื่อม
จิตอาสา: ความดันเบาหวาน และไตเสื่อมนะคะความดันเป็นมานานแล้วหรือยังคะ
ธนกร: เป็นมาประมาณสิบกว่าปีประมาณ 15 ปี
จิตอาสา: จากนั้นก็เป็นเบาหวานหรือคะ
ธนกร: ครับจากนั้นก็เป็นเบาหวาน 5-6 ปีหลัง
จิตอาสา: แล้วเป็นไตเสื่อมนะคะเป็นมากี่ปีคะ
ธนกร: ผมเพิ่งรู้เพิ่งไปตรวจเมื่อต้นปี (2556) หมอว่าไตเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์
จิตอาสา: หมอว่าไตเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ ตกใจไหมคะ
ธนกร: ก็งง ๆ หน่อย
จิตอาสาพูดเสริม:ก็งง ๆ หน่อยไม่เป็นไรยังซ่อมทันได้อยู่ได้นะยังซ่อมได้อยู่
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: แล้วไม่ว่าจะเป็นความดัน เบาหวาน ที่เป็นมาค่ะก็คือว่าใช้วิธีการรักษาใช้ยาแผนปัจจุบันใช่ไหมค่ะ
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: ถ้าจะให้ประเมินค่าใช้จ่ายความดันเบาหวานที่เป็นมาตั้งนานแล้วนี่ ไม่ว่าจะไปกินยา ไปหาหมอค่ะ ไม่ทราบว่าเสียค่าใช้จ่ายไปมากน้อยแค่ไหนคะ
ธนกร: ก็พอสมควรครับก็พอดีเบิกสำนักงานได้เลยไม่ได้จำ
จิตอาสา: เลยไม่มีข้อมูล เพราะเบิกได้นะคะ
ธนกร: ครับก็แต่ละครั้งก็ประมาณ 5-6 พันบาท
จิตอาสา: โอ้ครั้งละประมาณ 5-6 พันบาทแล้วไปปีละประมาณกี่ครั้งคะ
ธนกร: ปีละประมาณ 4-5 ครั้ง
จิตอาสา: อ๋อ ประมาณ 4-5 ครั้งนะคะ
ธนกร: พอดีเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ Contact กับสำนักงาน
จิตอาสา: อ๋อ ก็ ปีละประมาณ 4-5 ครั้ง ครั้งละประมาณ 5-6 พันบาทนะคะ คือตั้งแต่เป็นความดันโลหิตและเบาหวานเลยนี่ เป็นความดันควบเบาหวานเลยนะคะ ก็จะใช้ค่าใช้จ่ายประมาณนี้ เบิกได้นะคะ เขาเรียกเบิกราชการใช่ไหมคะ
ธนกร: เขามี Contact กับโรงพยาบาลส่งพนักงานเข้ารักษาตัว
จิตอาสา: ค่ะแล้วพอมาเป็นไตเสื่อมปุ๊บ คุณหมอบอกว่าไตเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วนะคะ
ธนกร: ไตเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 2 ปีนะ หมอว่า แฮะ ๆ นับถอยหลังให้ด้วย
จิตอาสา: เหลืออีก 2 ปีนะแหมมีนะ มี Countdown ให้ด้วยนะคะ แล้วคุณหมอรักษาอย่างไรคะ ให้ยาอะไรไปกินมั๊ยหรือแนะนำอะไรมั้ย
ธนกร: ครับพอดีมาเข้า Course ที่นี่
จิตอาสา: อ๋อ ๆ อันนี้เมื่อต้นปีนะ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 นะคะ
ธนกร: ครับตอนนี้รอบ 2 แล้วเข้าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 แต่ก่อน (เมื่อเข้าค่ายครั้งแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2556) จะปวดเมื่อยเหนื่อยง่าย เยี่ยวเป็นฟองครบสูตรเลยปวดหลังครบหมดเลย พอเขาไล่ให้ฟังครบหมดเลย พอเข้า Course แล้ว รู้สึกดีขึ้น แล้วมา Course หลัง ก็ไม่มีอาการอะไร
จิตอาสา: ถ้าเช่นนั้น เข้า Course ครั้งแรกเมื่อกุมภาพันธ์ถูกไหมคะกุมภาพันธ์ 2556 เป็นครั้งที่หนึ่ง และกรกฎาคม 2556 เป็นครั้งที่สอง ก็คือครั้งแรกที่มามีอาการปวดเมื่อยเหี่ยวแห้งแล้วก็ปวดหลังมีอาการอื่นอีกไหมคะ
ธนกร: หน้าคล้ำหม่นหมอง
จิตอาสา: แล้วพอมาเข้าค่ายครั้งแรกย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นะคะก็คือเกิดอาการที่ว่ามานี่ะ แล้วหลังจากเข้าค่ายแล้วอาการนี่มีความรู้สึกว่าดีขึ้นหรือเป็นอย่างไรบ้าง
ธนกร: วันที่ 5-6 ครับผม
จิตอาสา: ประมาณวันที่ 5-6 แล้วมีอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ที่บอกว่าดีขึ้นนะคะ
ธนกร: ไม่เมื่อยไม่ปวด เยี่ยวไม่เป็นฟอง
จิตอาสา: ไม่ปวดนะคะฉี่ไม่เป็นฟองแล้วได้ลองทำยาเม็ดไหนไปบ้างคะในระหว่างที่เข้าค่าย
ธนกร: ตอนนั้นก็ทำ Detox วันที่ 3 กินยูรีนวันที่ 5
จิตอาสา: แล้วได้พอกด้วยใช่ไหมคะ
ธนกร: พอกหน้าครับได้พอกหน้า
จิตอาสา: พอกหน้าวันแรกเลย เพราะเราสอนวันแรกใช่ไหมคะแล้วอาการทั้งหมดนี่ก็คือว่าก็ประมาณวันที่ 5-6 ก็รู้สึกว่าหลับสนิทไม่ปวดนะคะ แล้วก็ฉี่ไม่เป็นฟองนะคะ คือเริ่ม ๆ รู้สึกดีขึ้นนะคะ
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: ค่ะแล้วพอครบ 7 วันแล้วเป็นยังงัยค่ะดีขึ้นเป็นลำดับมั๊ยหรือว่ายังไงคะ
ธนกร: ดีขึ้นเป็นลำดับครับในระดับหนึ่ง
จิตอาสา: ดีขึ้นในระดับหนึ่งนะแต่ยังไม่ได้หายหมด
ธนกร: ครับ ๆ
จิตอาสาพูดเสริม: ดีขึ้นในระดับหนึ่งนะแต่ยังไม่ได้หายหมด เพราะว่าพิษเราสะสมมาเท่าที่อายุเรามี แล้วนี่แค่ 7 วันก็คือบรรเทาขึ้นนะคะ แล้วไม่ทราบว่าหลังจากที่กลับไปแล้วนี่ได้ปฏิบัติตนต่อไหมคะ
ธนกร: ก็ทำอยู่ช่วงหนึ่งอยู่แต่ทีนี้พองานเข้ามาก็เลยไม่ได้ทำ
จิตอาสา: แล้วช่วงหนึ่งที่ได้ทำช่วงหนึ่งนี่หมายถึงระยะเวลาประมาณเท่าไหร่คะ
ธนกร: ประมาณเดือนหนึ่ง
จิตอาสา: อ๋อประมาณเดือนหนึ่ง
ธนกร: ก็ทำกัวซา Detox
จิตอาสา: แล้วได้ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดด้วยไหมคะ
ธนกร: ได้ดื่มครับ
จิตอาสา: พอกลับไปก็ได้ทำต่อนะคะใช้ยา 3 เม็ดนะคะ คือ Detox ทำกัวซา น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด หลังจากนั้นก็ภารกิจเยอะก็เลยไม่ได้ทำต่อนะคะ แล้วการที่เราไม่ได้ทำต่อนี่ตอนนี้สุขภาพเป็นอย่างไร
ธนกร: ก็เหนื่อยก็เลยมารอบ 2 และก็พอดีแฟนคลอดลูกคนที่ 2 ตอนนี้ลูกคนที่ 2 ก็อายุ 6 เดือน ก็เลยเหนื่อย
จิตอาสา: ก็เลยเหนื่อยก็เลยมาเข้าค่ายครั้งที่ 2
ธนกร: ครับผม
จิตอาสา: พอมาเข้าค่ายครั้งนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ อาการเหนื่อยหายไปไหม หรือว่ามีอะไรดีขึ้นไหมคะ
ธนกร: ก็ดีขึ้นก็ดีขึ้นอยู่พอถึงวันสุดท้ายก็รู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น
จิตอาสา: วันสุดท้ายก็แข็งแรงขึ้นนะคะ แล้วกลับไปหลังจากนั้นค่ะ จนถึงปัจจุบันนี่ยังได้ทำอะไรต่อไหมคะ
ธนกร: ก็ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
จิตอาสา: เหรอคะ
ธนกร: พอเครียดความดันก็เลยกลับมาแฮะ ๆ กลับมาหลายวันกลับมางานกองเป็นกระตั๊กเลย
จิตอาสา: ก็คือต้นเหตุมาจากความเครียดนะ มันทำให้เป็นได้ทุกโรค
ธนกร: ได้ 2 โรคครับ ได้ความดันมาความเครียดมา
จิตอาสาพูดเสริม: คือคิดว่านะคะ เข้าใจนะว่าทำงานไม่มีเวลาแต่ว่าสามารถดื่มฉี่ได้นะฉี่ มันได้เลย ฉี่ผสมน้ำเปล่าก็ไม่มีใครรู้กับเราหรอกเราก็เข้าห้องน้ำของเราเอาแก้วเข้าไปผสมน้ำเปล่าดื่มค่ะ อันนี้คือช่วยได้เลยนะ เพราะว่าฉี่ เพราะคนที่มาด้วยอาการไตวายเขาจะมีภาวะบวมบวมก็คือเขาจะร้อนมากคุณหมอบอกว่าการที่ร่างกายมันร้อนมากก็คือให้ดื่มฉี่หรือดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดทำให้เย็น
ธนกร: นี่ผมร้อนจริง ๆ แหล่ะนั่ง ๆ อยู่เหงื่อก็ผุด ๆ เลย แฮะ ๆ
จิตอาสาพูดเสริม: แปลว่าคุณธนากรต้องรีบดูแลตัวเองนะ ถ้าคุณไม่มีน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนะคะ ใช้ฉี่ค่ะฉี่จะช่วยคุณได้ดื่มฉี่เข้าไปปุ๊บมันจะขับออก ๆ เป็นอย่างนี้ เป็นเพราะร่างกายมันร้อนมากค่ะ มันร้อนมากดังนั้นรีบดับความร้อนในตัวนะคะ ดื่มเข้าไปเลยถ้าเรายังไม่ว่างทำวิธีอื่นนะหรือว่านั่ง ๆ ระหว่างที่เบรคเมื่อย เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวก็ดัดมือดัดแขนขาก็ได้ หรือเอาไม้มากัวซาบริเวณที่เป็นไต บริเวณตะโพก บริเวณกระเบนเหน็บแบบนี้ค่ะ ทำไปนิด ๆ หน่อย ๆ ดีกว่าไม่ได้ทำนะคะก็ลองดูต้องดูแลสุขภาพหน่อยแล้วก็ด้านของเมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของกายแล้วค่ะ ตอนนี้ถ้าเราพูดถึงเรื่องของใจจิตใจนี่เป็นอย่างไรบ้างคะ ก่อนที่จะมาเข้าค่ายนี่ย้อนไปครั้งที่ 1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เลยนะคะ ด้านใจจิตใจเป็นอย่างไรคะก่อนเข้าค่าย และก็หลังเข้าค่ายแล้ว เพราะว่าอาจารย์หมอเขียวก็ได้แนะนำเทคนิคดูแลสุขภาพทั้งกายและใจค่ะ ได้นำไปปฏิบัติอย่างไรบ้างคะเรื่องของใจค่ะ
ธนกร: ช่วงแรกที่เข้า (ค่าย) มันก็สับสนอยู่พอสมควร เข้าไปก็ระดับหนึ่งแต่ที่ไม่เข้าใจก็มีหลายส่วนอยู่ ก็ยังไม่เท่าไหร่แต่ว่าครั้งที่ 2 นี่รู้สึกว่ามัน พอดีหมอเขียวพูดนิดเดียวก็เข้าใจจะปรับมันก็เร็วขึ้นแต่พอทีนี้กลับมานี่ได้อาทิตย์เดียวพอมาถึงแล้วมันกระตุ้นหลายโรคมันตั้งหลักไม่ทันแล้วมันก็ล้ากับร่างกายมากเลย
จิตอาสาพูดเสริม: เพราะว่าความเครียดมันทำให้เกิดโรคได้ทุกโรคอย่างเมื่อหลายวันก่อนค่ะมีผู้ป่วยไตวายมาท่านหนึ่งนะเขาเคยเป็น 5 โรค เขาหายไปแล้วนะเสร็จแล้วเขากลับมาที่ค่ายอีกครั้งหนึ่ง ก็ถามว่าเอ้เขาเป็นอะไร เขาบอก 5 โรคหายแล้ว เอ้ เป็นอะไรมา มีอะไรหรือ เขาบอกเขามีภาวะ (เป็นผู้หญิงนะคะ) เขามีแบบเลือดทะลักออกมาเหมือนกับเลือดประจำเดือน แต่เยอะผิดปกติ ก็เลยถามไปถามมาว่าเขาเป็นอะไรก็พบว่าเขาเครียดคือมีภาวะเครียด เครียดก็ทำให้ 5 โรคที่หายไปแล้วนะ มีโรคใหม่คือโรคที่ 6 คือเขาขับเลือดออกมาพอเขาขับเลือดออกมาปุ๊บเขาก็คิดสารตะของเขาเขามากับแฟนเขานะคะ เขาก็บอกว่าบวกลบคูณหารแล้วเขารู้ว่ามาจากความเครียดต่อไปนี้เขาจะปล่อย ละ วาง ทิ้งปล่อย คือทันทีที่เขาบอกที่เขาพูดอย่างนี้กับแฟนเขาค่ะ เขารู้สึกว่าเขาโล่งพอเขาโล่งปุ๊บนะไอ้ท้องของเขาที่มันเกร็งค้างค่ะที่เขาฉี่ไม่ออกก็เขามีแบบเลือดทะลักนะแต่เขาฉี่ไม่ออก ทันทีที่เขาปล่อย ละ วางนะ เขาบอกว่าเขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อเขาคลายเขาฉี่ออก เพราะฉะนั้นก็เลยจะเรียนคุณธนากรว่าใจนะคะเป็นยาที่เร็วและแรงที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นโรคของคุณน่ะที่เป็นความดันที่ขึ้นมาอีกนี่ล่ะค่ะ แก้ที่ใจแล้วมันจะหาย มันจะหาย มันจะหายนะ
ธนกร: แบบมันสะสมไว้เยอะเลยแฮะ ๆ
จิตอาสา: ใช่ ๆ เพราะมันก็ต้องค่อย ๆ ค่ะ อยู่ในภาวะทำงาน บริษัทพวกนี้นะคะ มันก็มีความเครียด เป็นธรรมดาแต่ก็ต้อง ๆ เอาแบบพอดีนะ
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: แล้วตอนนี้ความดัน เบาหวาน มันลดลงไหมคะตอนมาเข้าค่ายค่ะ
ธนกร: มัน ๆ ตอนผมเข้ามามัน 220 แต่ตอนที่ออก (ค่าย) มัน 180 แต่น้ำตาลจาก 300 เหลือ 200
จิตอาสา: แล้วตอนนี้มันยังคงตัวได้อยู่หรือปล่าวคะหรือ มันขึ้นไปอีกแล้วกระเด้งขึ้นไปอีกแล้ว
ธนกร: ก็คงมีขึ้นอยู่บ้างมันปวดหัวตึ๊บ ๆ
จิตอาสาพูดเสริม: ทีนี้ถ้าคุณไม่มีเวลา ถ้าคุณร้อนมาก ๆ ค่ะ แค่เอาผ้าขนหนูชุบน้ำแล้ว แค่แปะหัว
โพกหัวไว้ มันก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่งนะคะ นอกเหนือจากการดื่ม นี่คือเอามาสัมผัสถ้าได้กินเข้าไปมันก็ยิ่งได้ผลก็คือดื่มฉี่นี่แหล่ะ หรือดื่มสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดนะคะ และกินผักสดเยอะ ๆ หรือกินผักบุ้งสดก็ได้ ก่อนที่จะกินข้าวก็ได้สมุนไพรฤทธิ์เย็นสดเหมือนกันก็ยัง ๆ มีอาการอยู่นะคะแล้วคิดว่านะคะสาเหตุที่ทำให้เราไม่สบายค่ะ วิถีชีวิตปกติค่ะไม่ทราบว่าตื่นนอนมาเวลาประมาณเท่าไหร่คะ
ธนกร: ก็ประมาณตี 5 ถึง 6 โมงเช้าครับ
จิตอาสา: ก็ประมาณตี 5 ถึง 6 โมงเช้านะแล้วช่วงเวลาทำงานกี่โมงถึงกี่โมงคะ
ธนกร: ผมห่างจากที่ทำงานประมาณ 50 กิโลเมตร ช่วงเวลาทำงานแปดโมงครึ่งถึงสี่โมงครึ่ง
จิตอาสา: แปดโมงครึ่งถึงสี่โมงครึ่งแล้วกลับมามีกิจกรรมอะไรไหมคะ
ธนกร: ก็เล่นกับลูกธรรมดาครับ ผมนอน 4 ทุ่ม
จิตอาสา: อ๋อ เสาร์อาทิตย์ถึงได้มีเวลา Relax อย่างอื่น
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: ด้านของการรับประทานอาหารค่ะ ไม่ทราบว่าปกติชอบทานอาหารประเภทไหนอย่างไรคะ
ธนกร: ก็กินทั่วไปแล้วแต่สถานการณ์ที่ไหนให้กินอะไร
จิตอาสา: อ๋อไม่ค่อยได้เลือกเท่าไหร่นะคะแล้วอาหารที่ชอบรับประทานเป็นยังไงคะเป็นประเภทไหน
ธนกร: ก็เป็นปกติเป็นปกติ ก็คือข้าวมันไก่กับข้าวขาหมูแต่ตอนนี้ก็เริ่มห่าง ๆ แล้ว
จิตอาสา: ก็คือตอนนี้ห่าง ๆ แล้วที่ห่าง เพราะอะไรคะ
ธนกร: ที่ห่าง เพราะเบื่อ
จิตอาสา: เพราะได้เรียนรู้หรือปล่าว
ธนกร: มันรู้สึกเบื่อไปเอง
จิตอาสา: พอมาเข้าค่ายแล้วมันรู้สึกเบื่อหรือมันรู้สึกเบื่อก่อนมาเข้าค่ายคะ
ธนกร: มันก็ก่อน (เข้าค่าย) คือมันก็รับไว้มากนาน ๆ ก็กลับมากินครั้งหนึ่งแต่ก่อนเป็นประจำ
จิตอาสาพูดเสริม: อ๋อ มันจะเป็นแบบนี้ค่ะสัญญามันจะบอกว่าเกินหรือมันไม่ต้องการหรือมันร้อนจะผลักไม่อยากกินพวกนี้มันร้อนไอ้พวกนี้มีฤทธิ์ร้อนร่างกายมันจะบอกว่าไม่ต้องการตอนนี้ร่างกายที่คุณร้อนน่ะมันจะดูดดึงสิ่งที่มีฤทธิ์เย็น เช่น แตงโมแตงโมแช่เย็นถ้าคุณร้อน ๆ อยู่นะ มันจะมีสัญญาดูดดึงฤทธิ์เย็นเข้ามานะคะ ผลักฤทธิ์ร้อนออกนะคะ แต่ทีนี้ข้าวมันไก่ข้าวขาหมู่นี่ตัวดีเลยนะ ทำให้เกิดความอ้วนเบาหวานไขมันหลายอย่างนะคะแล้วมันจะตามมาหลายอย่างเลย หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงค่ะ ดีแล้ว แล้วมีเวลาออกกำลังกายไหมคะปกติแล้ว
ธนกร: ปกติแล้วถ้าเริ่มกินเนื้อวัวเมื่อไหร่แล้วจะมีอาการเลย ไม่ย่อยเจ็บไข้ได้ป่วย วันสองวันเท่านั้นก็มีอาการเลย
จิตอาสา: ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ปกติตอนเย็นกลับไปกินข้าวบ้านใช่มั๊ยคะ เรากลับไปกินข้าวบ้านเราก็ควบคุมอาหารมื้อเย็นได้เหมือนกันนะ
ธนกร: ก็ได้
จิตอาสา: บางทีสมมุติมื้อเช้ากับมื้อกลางวันเราควบคุมไม่ได้ เพราะต้องซื้อเขากิน
ธนกร: ครับ
จิตอาสา: ตอนเย็นนี่ถ้าสมมุติเป็นไปได้อาจจะลองเป็นข้าวต้มสุขภาพผักลวกผัดจืด ๆ แบบที่อยู่ในค่าย มันก็อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่งนะคะ
ธนกร: ใช่จะลอง ๆ งดดูอยู่
จิตอาสาพูดเสริม: ค่ะก็กลายมาเป็นกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็นมากขึ้นนะคะแล้วก็ลดสัดส่วนของอาหารฤทธิ์ร้อนลงนะคะแล้วก็ลดความจัดลงนะคะสูตรคร่าว ๆ แบบนี้ค่ะมันจะทำให้คุณหายป่วยนะคะ เพราะว่ามันเท่ากับว่าเราไม่ได้รับพิษเพิ่มค่ะ ก็ลอง ๆ ดูนะคะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งอันนี้คือสามารถไปปฏิบัติได้ที่บ้านเลยค่ะ พอมาที่ค่ายนะคะเลยทำให้ดูเป็นตัวอย่างนี่ พอกลับไปก็แล้วแต่ความพากเพียรของแต่ละท่าน ค่ะว่าทำต่อมั๊ย ทำต่อก็จะได้เห็นผลด้วยตัวของตัวเองนะค่ะ ตัวเองจะทราบว่ามันดีขึ้นไหมหรือมันไม่ดีขึ้นค่ะ
ธนกร: โรคไตนี่ผมจำได้ว่าตอนสมัครครั้งแรกกับครั้งหลังไม่มีอาการเยี่ยวเป็นฟองแล้ว ดีขึ้นแล้ว
จิตอาสา: ค่ะพอเข้ามาครั้งที่สอง คือทำให้รู้สึกว่าแข็งแรงขึ้นนะคะ จากที่มาด้วยอาการเหนื่อยนะคะ ถ้ามีอะไรที่จะเพิ่มเติมก็คงจะรบกวนอีกครั้งหนึ่งนะคะ อาจจะโทรไปรบกวนอีกครั้งหนึ่งก็หวังว่าจะกรุณาให้ข้อมูลอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ธนกร: ครับเหมือนพี่น้องกันครับ
จิตอาสาพูดเสริม : ค่ะก็ช่วงนี้ไม่มีค่ายก็ไปหาข้อมูลจากทะเบียนค่ะ แล้วจดเบอร์โทรศัพท์มาก็เลยต้องรบกวนแล้วยังไงต้องฝากคุณธนากรดูแลสุขภาพด้วยนะคะสุขภาพแบบที่คุณหมอสอนนะตอนนี้ที่ทำได้ง่ายที่สุดคือหนึ่งดื่มฉี่เลยนะคะ สองเอาผ้าขนหนูชุบน้ำโพกหัวโพกบ่าเพื่อลดความร้อน กินฉี่บ่อย ๆ แล้วจะทำให้คุณฉี่ออกบ่อย ๆ ฉี่ออกบ่อย ๆ ก็คือลดความร้อนออกจากตัวนะคะ แล้วก็ดีท็อกซ์นะ ดีท็อกซ์กลับบ้านก็ดีท็อกซ์ ได้อาหารตอนเย็นค่ะ เปลี่ยนเป็นมื้อเบา ๆ อาจจะบอกแม่บ้านว่ารู้สึกตอนนี้ฉันเหนื่อยรู้สึกย่อยอาหารไม่ค่อยดี อยากจะกินอาหารอ่อน ๆ นี่เราก็กินข้าวต้มสุขภาพก็ได้นะ หรือกินข้าวกับเกลือก็ได้ค่ะ แล้วมีผักลวกผักสดกินเหมือนกับที่อยู่ในค่ายเราค่ะ เดี๋ยวมันจะอร่อยเองนะ จะช่วยได้ในระดับหนึ่งนะคะ ยังไงก็ขอขอบคุณคุณธนากรมากนะคะขอบคุณมากค่ะ เจริญธรรมค่ะ
ธนกร: ครับ