2. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 10 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
| กรณีศึกษาที่ | 2.15 |
| ชื่อ | นางพูนศรี พรหมสุรินทร์ |
| เพศ | หญิง |
| อายุ | 55 ปี |
| ประเทศ | รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา |
| โรค | โรคภูมิแพ้ |
| วันสัมภาษณ์ | 4 พฤศจิกายน 2557 |
อยู่ฟลอริด้าเคยเป็นโรคภูมิแพ้ ช่วงฤดูหนาวจะเป็นหนักมาก ตอนละอองสน โอ๊ค ดอกส้มบาน จะมีอาการจมูกตัน หายใจทางปากตลอดเวลา จะคันตาและน้ำมูกไหล ทุกครั้งที่เป็นก็จะไปหาหมอ ๆ ก็จะให้ยาแก้อักเสบและ สเตอรอยด์แรก ๆ อาการเหล่านี้ก็หายไปทันที นาน ๆ เข้าอาการที่เป็นยิ่งหนักขึ้นและยาวขึ้น รู้สึกทรมานมาก ยิ่งหาหมออาการก็ยิ่งหนักและได้โรคเพิ่มมาเรื่อย ๆ ยาก็เต็มตู้ไปหมดจนไม่มีที่จะเก็บเพราะหลายขนานเหลือเกิน เป็นเวลายี่สิบปี ตัดสินใจว่าจะไม่ไปหาหมอโรคภูมิแพ้อีกและเริ่มรักษาตัวเองมาเรื่อย ๆ โดยใช้สมุนไพร หญ้าปักกิ่ง แป๊ะตำปึง พญาวานร ใช้มาเรื่อย ๆ ยาก็ไม่กิน หมอก็ไม่หา กลับหายเร็วขึ้น หายใจโล่งขึ้น จากนั้นก็เริ่มใช้สมุนไพรกับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ทำงานที่ Walt Disney Worldและได้แบ่งปันสมุนไพรเหล่านี้ให้เพื่อน ๆ สังเกตแต่ละคนก็อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนคนไหนมีโรคอะไรที่ไม่เคยรู้จักก็จะเข้า Internet และศึกษาค้นคว้าไปเรื่อย ๆ
วันหนึ่งได้เจอรายการคนค้นฅน ซึ่งมีหมอเขียวเป็นต้นเรื่องจากนั้นก็ดู Youtube รายการของหมอเขียวมาเรื่อย ๆ ได้เรียนรู้สรรพคุณของย่านาง แต่ก็หามาปลูกยากเหลือเกิน เวลาอากาศหนาวอุณหภูมิลงต่ำเป็นน้ำแข็ง ต้นไม้ที่ไม่ได้คลุมหรือย้ายเข้าบ้านก็จะตายหมด ย่านางกว่าจะหามาปลูกจนพอกินใช้เวลานานหลายปี แต่ก็ยังไม่ได้กินย่านาง ไม่ได้ไปหาหมอตรวจร่างกายหลายปี เมื่อมีนาคม 2011 ไปตรวจร่างกาย พบว่าไทรอยด์เริ่มจะมีปัญหา 4.2 หมอจะให้ยาแต่ไม่เอา เริ่มใช้ย่านางเด็ดใบเคี้ยวทุกวัน ๆ ละหลายใบเป็นเวลาหกเดือน กลับไปตรวจเลือดค่าไทรอยด์ลดลงมาเป็น 3.1 หมอถาม ทำยังไงก็เลยให้ชื่อย่านาง (Tiliacoratriandra) ไป จากนั้นได้เริ่มใช้ย่านางช่วยผู้คนอีกมากมาย
เมื่อสองปี (พ.ศ. 2555) ที่แล้วทำงานหนักมากพักผ่อนไม่พอ ไม่สบาย จำได้ว่าน้ำพุทธโอสถ (รายการหมอเขียว) สามารถช่วยรักษาโรค ก็เริ่มใช้ตั้งแต่นั้นมา แรก ๆ ก็ยังแค่ชิม ครั้งแรกรับไม่ลงเพราะเค็มมาก จากคนที่เป็นคนที่ทำอะไรจะต้องสมบูรณ์แบบก็ได้เห็นตัวเองลดอัตตาตัวตนลงมาก พยายามเลิกอาหารที่มีเนื้อสัตว์ จะมีบ้างถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาหารส่วนใหญ่จะเป็นผักผลไม้ตามฤดูกาล ได้รับอาหารฤทธิ์เย็นไม่มีรสจัดน้ำปัสสาวะยิ่งใสและหอม สามารถดื่มอย่างสบายใจ อยู่มาวันหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2012 นอนไม่พอเป็นเวลานาน และได้รับอาหารที่เป็นพิษเพราะต้องเดินทางธุรกิจ ยังดื่มน้ำปัสสาวะตามปรกติ มีอาการผื่นคันตามหน้าและคอ คันมากจนทนไม่ไหวเป็นเวลานานสามอาทิตย์เข้าใจว่าตนเองเกิดอาการซ่านพิษปัสสาวะ เลยได้หยุดดื่มไปสักระยะเป็นเวลาหลายเดือนเริ่มศึกษาต่อไปพบเรื่องล้างพิษตับ ก็ลองทำดู ทรมานมากกับการต้องกินน้ำมันมะกอกผสมมะนาวอาการดีขึ้นทำไปห้าครั้ง ถ้าถามว่าจะทำอีกไหมคงไม่ทำอีกได้ใช้ยาเก้าเม็ดของอาจารย์หมอเขียวมากขึ้น กดจุดนวดตัว การสวนล้างลำไส้ใหญ่ อาการป่วยหายในเวลาอันสั้นอาการต่าง ๆ หมดไปอย่างไม่น่าเชื่อเวลามีอาการก็จะกัวซาเป็นหลักปรกติจะรู้สึกสดชื่นตลอดเวลาจึงทำงานได้คล่องแคล่วว่องไว อาการมึนหัวหลังจากกัวซาดีขึ้นทันที อาการปวดต้นคอทำโยคะก็ดี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ได้ไปตรวจร่างกายเลือด Lab test ออกมาเป็นที่น่าพอใจแต่ค่า TSH 4.290 (0.450-4.500 uIU/ml) ไทรอยด์ ใกล้มีปัญหา หมอให้เวลา 6 เดือนเพื่อรักษาตัวเอง รู้มาว่าย่านางช่วยรักษาไทรอยด์ได้ ตั้งแต่นั้นก็เริ่มเคี้ยวใบย่านางทุกวันที่เข้าสวน 6 เดือนต่อมากลับไปตรวจพบว่าค่า TSH อยู่ในระดับที่เยี่ยมมาก 3.110 (0.450-4.500 uIU/ml) หมอถามว่า ยูทำได้ยังไง ก็ได้เล่าให้ฟังตามข้างต้น มารู้อีกทีข้อมูลย่านางที่รู้มาก็มาจากตำราของอาจารย์หมอเขียวนั่นเอง ตอนนั้นไม่มีตำราหรือหนังสือเกี่ยวกับอาจารย์หมอเขียวเลย นอกจากดู Youtube คนค้นฅน ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มใช้ย่านางมากขึ้น แต่ยังใช้หญ้าปักกิ่งเป็นหลักในการรักษาโรคภูมิแพ้ โดยใช้การเคี้ยวใบสดเป็นหลัก ซึ่งรู้สึกว่าได้ผลเร็วกว่าปั่นดื่ม สังเกต การหายของอาการถ้าเป็นปัญหาแถวปาก ลำคอ ทางเดินหายใจ ใช้เคี้ยวจะดีกว่า ถ้าเป็นเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ท้อง ใช้ปั่นดื่มจะได้ผลเร็วกว่า
จิตใจสบาย มีความมั่นใจว่าตัวเองเดินถูกทาง รู้กายรู้ใจ รักษากาย รักษาใจ ทำอะไรก็เบิกบาน ช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก พอเห็นเขาหายป่วย หายทุกข์กาย ทุกข์ใจ ก็มีปิติ หลาย ๆ คนเห็นอาหารเราแล้วเขาทนไม่ได้ หาว่าเราทรมานตัวเอง หลายคนอยากลองชิมน้ำสมุนไพรบ้าง ให้ชิมบ่อยเข้า ๆ อาการที่พวกเขาเคยเป็นเริ่มทุเลา บางคนก็ออกจากยา เจ้านายใหญ่น้อย พาพ่อแม่ ลูกหลาน มาหาที่บ้านและทุกคนก็มีอาการดีขึ้น บางครั้งเจ้านายเห็นพนักงานในละแวกใกล้เคียงเจ็บป่วยก็จะถ่ายรูปมาให้ดู ขอคำปรึกษาและได้ให้ความช่วยเหลือกันตามภูมิปัญญาโดยใช้หลักยาเก้าเม็ดเป็นแบบฉบับ เพื่อนร่วมงานหลายคนได้ออกจากยา บางคนทำบ้างไม่ทำบ้างอาการเจ็บป่วยก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ทุกคนยอมรับว่าวิธีดูแลตัวเองโดยใช้หลักยาเก้าเม็ดของอาจารย์หมอเขียวสามารถทำให้อาการป่วยทั้งหลายดีขึ้นหายเร็วขึ้น
ตั้งแต่ปฎิบัติ ไม่ได้ไปหาหมอแผนปัจจุบัน (นอกจากตรวจร่างกาย) ไม่ได้ใช้ยาเคมีเป็นเวลา 10 ปี ถ้าป่วยก็จะสามารถรับมือกับอาการป่วยได้อย่างมั่นใจและทุกครั้งก็รับมือได้อย่างเห็นผลทันตาคือหายทันที พอมีอาการที่ไม่ปรกติก็นำยา 9 เม็ดมาใช้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งกับสมาชิกในครอบครัวสุขภาพโดยทั่วไปจัดตัวเองในขั้นแข็งแรง ทำงานได้นานไม่เหนื่อยง่าย อาหารก็รับตามความต้องการของร่างกายซึ่งจะเป็นผักผลไม้ส่วนใหญ่ ราคาของผักที่อเมริกาแพงพอ ๆ กับอาหารเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นผักปลอดสารพิษราคาแพงเกือบเท่าตัวถึงจะแพงแต่ให้ผลที่ดีต่สุขภาพ ไม่เกี่ยงเรื่องราคา ผักบางอย่างปลูกเองได้ เช่นผักหวาน ผักบุ้ง ตำลึง ต้นหอม ต้นพริก สมุนไพรหลายชนิด อาชีพนอกจากทำงานที่วอลท์ดีสนีย์เวิลด์แล้วก็ทำสวนกล้วยไม้จนทุกวันนี้ (14 ปี) สวนสมุนไพร (7 ปี) รายได้หลักจะมาจากกล้วยไม้ ส่วนสมุนไพร ก็ขายบ้างแจกบ้าง ที่พอใจก็คือสมุนไพรที่ปลูก สามารถช่วยชีวิตและบรรเทาอาการของโรคได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ถ้าปลูกสมุนไพรมากขึ้น ได้ทั้งลดกิเลสและช่วยชีวิต
รูปแบบหรือแนวทางในการเผยแพร่การแพทย์วิถีธรรม จิตอาสาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง โลภ โกรธ หลง อิจฉา ขัดแข้งขัดขากัน ก็มีบ้างเป็นครั้งคราว ถ้าจิตสำนึกของแต่ละท่านที่ยอมรักษาศีลมากกว่าชีวิตเมื่อไร เมื่อนั้นก็เมื่อนั้น ใครทำใครได้ You have to earn it
รูปแบบหรือแนวทางในการเผยแพร่การแพทย์วิถีธรรม อยากให้ Youtube ของหมอเขียวมี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ มวลมนุษย์ชาติจะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล ชาวโลกจะได้รับรู้สูตรยาเก้าเม็ดว่ามาจากหมอเขียว ไม่ได้มาจากชาติอื่น ยิ่งกระจายให้โลกรู้เร็วเท่าไหร่ มากเท่าไหร่ยิ่งดี พลังแรงและยิ่งใหญ่ ฝรั่งจะมาอ้างไปจดทะเบียนไม่ได้ เพราะใคร ๆ ก็รู้แล้วว่าเป็นของคนไทย (ใจเพชร กล้าจน) และการแพทย์วิถีธรรมควรมีเทคนิคการจัดกระดูกและฝังเข็ม เพราะอยากให้อาจารย์หมอสาธิตวิธีจัดกระดูกและฝังเข็ม