1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.54 |
ชื่อ | กล้วย (นามสมมติ) |
เพศ | หญิง |
อายุ | 69 |
โรค | โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 ได้ลุกลามไปที่กระดูกเชิงกราน |
ไม่ได้แต่งงานเป็นข้าราชการครูเกษียณ เคยเป็นมะเร็งที่ไต ได้ผ่าตัดแล้ว ปัจจุบันเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 ได้ลุกลามไปที่กระดูกเชิงกรานได้ทำการผ่าตัดลำไส้ใหญ่และมีทวารเทียมหน้าท้องเมื่อ 5 มกราคม พ.ศ. 2557 ทำการคีโมครั้งแรกเมื่อ 15 พฤษภาคม ครั้งที่ 2 เมื่อ 5 มิถุนายน ครั้งที่ 3 เมื่อ 26 มิถุนายน ครั้งที่ 4 เมื่อ 17 กรกฎาคม ครั้งที่ 5 วันที่ 7 สิงหาคม ขอยกเลิก เนื่องจากเจ็บปวดทรมานหลัง หยุดให้คีโมเมื่อ 29 ตุลาคม ไปตรวจวัดค่าเลือดลดลงเหลือ 2.41 (ค่าปกติ 0.00-5.00) ซึ่งหมอบอกว่าดีมาก
ข้อมูลการเจ็บป่วยการรักษาและการดูแลสุขภาพตนเองหลังการผ่าตัด
หลังจากได้ผ่าตัดมาอยู่บ้านญาติมีหลานช่วยดูแล ตอนนั้นยังรับประทานอาหารคือ ปลา และไข่อยู่นิดหน่อย ต่อมาไปอยู่ที่วัด เพื่อนแนะนำให้ไปทำคีโมจึงไปทำคีโม แต่การทำคีโมต้องกินเนื้อสัตว์มาก ๆ เพื่อจะได้มีแรง และต้องรับประทานไข่มาก ๆ ทำรับประทานทุกวัน วันละ 4-8 ฟองเพื่อจะได้สู้กับโรคได้ทานจนเบื่อ ครั้งแรกที่ไปให้คีโมจะได้รับประทานเป็นยาเม็ดไปด้วยใน 3 สัปดาห์แรก พอในสัปดาห์ที่ 4 หยุดแล้วมาฉีดคีโมใหม่อีกพร้อมกับรับประทานยาเม็ดไปด้วย
ใน 3 สัปดาห์แรก พอสัปดาห์ที่ 4 หยุดทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครั้งที่ 4 ไม่ไหว มันเจ็บปวดทรมาน คลื่นไส้อาเจียน เจ็บปาก ท้องเสีย นอนไม่ได้เลย ต้องให้เลือด อาบน้ำต้องมีคนช่วยอาบ มันอ่อนเพลียมาก ในครั้งที่ 5จึงไปยกเลิก หมอยินยอมและนัด 2 เดือนมาตรวจเลือด เช็ค ผลค่าของเลือด
ดีทุกอย่าง จึงเลื่อนไปเป็น 3 เดือนมาดูผลเลือดทีหนึ่ง ครั้งหลังนี้ค่า CEA ดีมากเท่ากับ 2.41 หลังจากหยุดคีโม สามารถดูแลตนเองได้จะทำความสะอาดตรงทวารเทียมแบบเบา ๆ มือค่อย ๆ เช็ด และจะเปลี่ยนถุงมาซักทุกวันแล้วเอามาผึ่งลมให้แห้งวันละ 2 รอบ วันหนึ่งใช้ 2 ถุง ส่วนแป้นที่รองรับจะเปลี่ยนทุกสัปดาห์ จะมีผู้อื่นช่วยจับให้แป้นรองรับ จะอยู่นานไม่ได้ มันสกปรก ส่วนเรื่องอุจจาระนั้น เมื่อขับถ่ายเสร็จ ก็จะเช็ดด้วยสำลีชุบน้ำทำความสะอาดทันที
เพราะอุจจาระมักจะติดอยู่ตรงแป้นที่รองรับถุงอยู่เสมอ แรก ๆ ยุ่งยากหน่อย ซึ่งระบบขับถ่ายนั้นจะมีอาการปวดท้อง เหมือนคนทั่วไป แต่ตนเองจะมีอาการปวดปัสสาวะด้วยไปพร้อมกัน หรือบางที่เมื่อปวดปัสสาวะแล้ว ก็จะมีอาการปวดอุจจาระตามมาด้วย ซึ่งมันกระทบถึงกันได้ จึงจำเป็นต้องมีแผ่นซึมซับอยู่ข้างในอีก 1 หนึ่งชิ้น วันหนึ่งต้องเปลี่ยน 5-6 แผ่น เราคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของเรา เราเคยไปทำร้ายคนอื่นมา เราต้องรับกรรมนั้น ส่วนการดูแลด้านอื่นนั้นตนเองชอบทำโยคะกดจุดลมปราณ ทำทุกวัน เพราะเมื่อทำแล้วจะนอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น มาทำกับข้าวกินเองบางทีหลานทำให้รับประทาน จะเลือกอาหารที่รสไม่จัด ไม่รับประทานเผ็ด จะมีผักผลไม้ และอาหารเสริมที่ทำจากผักผลไม้อีกด้วย เพราะรับประทานไปด้วยทำให้อุจจาระไม่เหลวเกิน นิ่มพอดีทำความสะอาดง่าย เคยปิดปากถุงไม่ดี อุจจาระรั่วกระจายไปทั่วแต่กลิ่นไม่เหม็นมาก เพราะไม่ได้รับประทานเนื้อสัตว์เลย มีแต่ผักและผลไม้
ตนเองไม่ชอบรับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน เช่น พวกสะตอ ชะอม กระถิน จะไม่รับประทานเลย จะรับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ ถ้าไม่ทำเองจะมีญาติช่วยดูแล จะช่วยเหลือกันเราจะทำแต่สิ่งที่ดี ๆ และจะห่วงใยผู้อื่น บางครั้งไปอยู่ที่วัดจะมีเรื่องขัดใจบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เป็นธรรมดา ไม่ถือสากัน จะปฏิบัติธรรมถือศีลสวดมนต์ไหว้พระนึกถึงพระพุทธเจ้าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรไปเกิดในที่ดี ๆ ปกติตนเองเวลามีเรื่องอะไรจะคิดว่ามันก็เป็นอย่างนี้เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไปอย่าเอามาเป็นอารมณ์ หลวงพ่อกัญหาสอนให้ทำใจดีทำใจสบาย ๆ จะเป็นทุกข์ทำไมบางครั้งดูทีวี ดูข่าว ฟังเพลง ผ่อยคลายพวกเพลงสุนทราภรณ์สุเทพเพลงเก่า ๆ และชอบออกไปเที่ยวแต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวเยอะแล้วตนเองจะมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องขับถ่าย เพราะถ้าอยู่นอกบ้านจะทำความสะอาดยากหน่อย เพราะเวลาปวดมีทั้งอุจจาระและปัสสาวะมาพร้อม ๆ กันแต่ไม่ทุกข์อะไร เพราะเชื่อว่าเรายึดมั่นทำดีต้องได้ดียึดมั่นในพระพุทธศาสนา เหมือนเราปลูกข้าวเราจะเลือกที่มันอุดมสมบูรณ์ เราหว่านข้าวไปก็จะได้รับผลที่ดีนั้น แต่ถ้าเราหว่านพืชในนาที่ไม่มีดิน มีแต่กรวดหินทรายพืช ก็จะไม่งอกงามไม่เจริญ ตนเองจะชอบทำบุญกับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คือเราทำใจได้ ก็เป็นเช่นนั้นเอง เพราะเราทำมาแบบนี้ได้เท่านี้จะไปฝืนไม่ได้เกิดแก่ เจ็บ ตาย ทุกคนยอมรับความจริง