การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชด้วยศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม ตำบลในวงเหนือ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง
วันมาฆะ ศรีเมือง
Wanmaka Srimuang
กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตำบลในวงเหนือ อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ชนิดกลุ่มเดียว วัดก่อนและหลังการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีความเสี่ยงในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชด้วยศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม โดยประเมินผลการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมในเกษตรกรจากการเปรียบเทียบความรู้เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมและผลระดับสารเคมีในเลือดก่อนและหลังร่วมกับการประเมินความรู้เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดำเนินการวิจัยเดือนมกราคม -พฤษภาคม พ.ศ. 2567 มี 4 ขั้นตอน คือ
1) ศึกษาสถานการณ์และวิเคราะห์ปัญหาหลังการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
2) พัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงด้วยศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม
3) นำรูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกรสู่การทดลองใช้จริง
4) ประเมินผลการพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกร กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) เกษตรกรผู้ป่วยทุเรียนที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี กำจัดศัตรูพืช จำนวน 114 คน 2) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบบันทึกการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม แบบทดสอบความรู้เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ผลระดับสารเคมีในเลือดเกษตรกรก่อนและหลังการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม และแบบทดสอบความรู้ เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา สถิติ Paired t-test
ผลการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช พบว่า เกษตรกรมีความรู้หลังการอบรมมากกว่าก่อนการอบรมทุกข้อ มีความรู้เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม ก่อนและหลังอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 84.20 และระดับสูงร้อยละ 97.40 ตามลำดับ คะแนนเฉลี่ยของความรู้ก่อนและหลัง เท่ากับ 17.22 และ 26.89 ตามลำดับ เมื่อทดสอบความแตกต่างทางสถิติพบว่าคะแนนเฉลี่ยของความรู้หลังการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีสารเคมีในเลือดก่อนและหลังการใช้ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมอยู่ในระดับเสี่ยง ร้อยละ 63.20 และร้อยละ 51.80 ตามลำดับ โดยอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยลดลง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีความรู้เรื่องศาสตร์การแพทย์วิถีธรรมมากกว่าร้อยละ 60 ทุกข้อ
คำสำคัญ : รูปแบบการดูแลสุขภาพ, ศาสตร์การแพทย์วิถีธรรม, ประเมินผลการใช้, เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีความเสี่ยง, ความรู้, สารเคมีในเลือด
ABSTRACT
This study is one-group research and development, measuring before and after the use of ethical medicine. The aim is to develop health care patterns for farmers who are at risk of pesticide use with ethnic medicine. It evaluates the application of ethics in farmers by comparing their historical, ethical, and medical knowledge and blood levels of chemicals prior to and after their use, along with the evaluation of ethnic, ethnic, and medical knowledge by public health officials. The research, which was conducted from January to May 2024, has four stages: 1. study of the situation and analysis of post-pesticide treatment problems; 2. development of a health care model for farmers at risk of pesticide use; 3. development of a farmers health model for experimental use; 4) evaluation of the development of farmers’ health models; and the sample group is divided into two groups: 1. a total of 114 patients at risk from pesticide use; 2. five public health officials.
The health care patterns of farmers who studied the risk of using pesticide removal chemicals found that farmers had more post-training knowledge than before training. There was a medium level of pre- and post-medical knowledge. 84.20 percent and a high level of 97.40 percent, respectively. The average pre- and post-knowledge score was 17.22 and 26.89 percent, respectively. When statistical differences were tested, the average score of post-medical knowledge increased significantly. And the presence of chemical substances in the blood before and after the use of medical science was at a risk level. 63.20 and 51.80 percent, respectively, at a level of risk and insecurity, decreased. The public officers have knowledge of Dhama medicine for more than 60% of all items.
วิธีใช้ Embed PDF
- กรุณากดลูกศร ซ้าย-ขวา ในการเปลี่ยนหน้า
- ถ้าหากตัวอักษรเล็ก-ใหญ่เกินไป กรุณากดเครื่องหมาย บวก-ลบ เพื่อปรับขยาย-ลดตัวอักษร