1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.37 |
ชื่อ | จันทวรรณ ฉัตรวัชรกุล |
เพศ | หญิง |
จังหวัด | ชลบุรี |
อายุ | 49 |
โรค | โรคภูมิแพ้ |
วันสัมภาษณ์ | 7 กันยายน 2555 |
คุณจันทวรรณ: สวัสดีค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ
คุณจันทวรรณ: ดิฉันพูดไม่ค่อยเก่งนะคะ แต่ว่าให้พิธีกรถามแล้วก็ ดิฉันชื่อ นางจันทวรรณ ฉัตรวัชรกุลนะคะ ค่ายมา 3 ครั้งน้ำหนัก 80 กิโลกรัม เดินเหมือนนักเลงค่ะ หุบแขนไม่ลง
จิตอาสา: 3 ครั้งนี่คือครั้งแรกนี่เมื่อไรคะ
คุณจันทวรรณ: ที่ปี 2553 ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ
คุณจันทวรรณ: แล้วก็ไปดอนตาล 2 ครั้งนะคะไปดอนตาลก็ล่าสุดก็คือมิถุนายนเข้าค่ายพระไตรปิฎกค่ะ
จิตอาสา: เข้าครั้งแรกเมื่อปี 2553
คุณจันทวรรณ: 2553
จิตอาสา: ที่มุกดาหาร
คุณจันทวรรณ: ไม่ค่ะที่นี่แหละค่ะ
จิตอาสา: อ๋อที่กาญจนบุรี มิถุนายนหรือว่า
คุณจันทวรรณ: มิถุนายน 2553 ค่ะ
จิตอาสา: มิถุนายน 2553 ตอนนี้มากันยายน 2555 ก็ 2 ปีนะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ 2 ปีค่ะ
จิตอาสา: เป็นครั้งที่ 3
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ครั้งที่ 2 ก็คือพระไตรปิฎกที่ผ่านมา
คุณจันทวรรณ: พระไตรปิฎกที่ปีคาบปีด้วยค่ะ แล้วก็ปีที่ผ่านมาด้วย ปีเท่าไรนะปี 2555 นี่ค่ะมิถุนายนค่ะ
จิตอาสา: ครั้งพระไตรปิฎกนี่เข้ากี่ครั้งคะ
คุณจันทวรรณ: 2 ค่ะ
จิตอาสา: 2 ครั้งก็คือเปิดเทอมที่ผ่านมาเป็นนักศึกษาแพทย์วิถีธรรม
คุณจันทวรรณ: เป็นนักศึกษาปี 1 ด้วยค่ะ
จิตอาสา: อ๋อ เป็นนักศึกษาแพทย์วิถีธรรมด้วย แสดงว่าก่อนหน้านั้นได้เข้ามา 1 ครั้งเมื่อประมาณสิ้นปีที่แล้วเหรอคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ตุลาคม 2554 หรือเปล่าคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะโอเคก็เท่ากับเข้าสุขภาพครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
คุณจันทวรรณ: ค่ะ คือค่ายสุขภาพนี่เข้าครั้งเดียว
จิตอาสา: ก็คือครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของสุขภาพค่ะ แล้วก็พระไตรปิฎก 2 ครั้งนะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ โอเคค่ะแล้วทีนี้คุณจันทวรรณมาด้วยเนื่องจากอะไรคะ
คุณจันทวรรณ: ก็เป็นภูมิแพ้อย่างแรงเลยนะคะก็แพ้มาก เจออะไรก็ถ้าเข้าไปในตลาดนี่ก็จะแพ้น้ำมูกไหลตลอด แต่ตอนนี้หายไปโดยไม่รู้ตัวเลย ไม่ได้คิดว่ามันจะหายแล้วก็ผลพลอยได้ก็คือลดน้ำหนักได้ แต่ที่ลดได้จริง ๆ ก็คือทานมื้อเดียวเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมานี่เอง ปกติถ้าเข้าปี 2553 นี่คือ
จะทานมังสวิรัติเลย แต่ว่ามันก็อร่อย 3 มื้อมันก็อ้วนมาเหมือนเดิมลดไป 4 กิโลกรัม จากค่ายไปนะคะ แล้วก็ไปทานมังสวิรัติ ก็มันเป็นแป้งเป็นอะไรอย่างนี้ก็ก็อ้วนเท่าเดิมอีกค่ะ ก็เลยตั้งใจไว้ว่าถ้าไปเข้าค่ายพระไตรปิฎกนี่ก็จะได้ทานมื้อเดียวใช่ไหมคะ ตั้งตบะครั้งแรกนี่ล้มเหลวพอมาครั้งที่ผ่านมานี่ลดไป 12 กิโลกรัม เอาจริงก็คือลดโดยไม่เพลียไม่อะไรเลยค่ะ เหมือนคุณหมอว่ามีพลัง ไม่เพลีย แล้วก็ทำงานหนักได้ด้วย จากที่เคยแบบอ้วนเก้งก้างแล้วก็ปวดแข้งปวดขา แล้วก็เป็นหวัดง่ายด้วยค่ะ ก็หายไปหมดเลย ก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะจากที่เคยปวด ปวดขาปวดแข้งปวดอะไรนี่หายหมดแล้ว ก็เจ็บตรงสะโพกนี่นะคะน้ำหนักมันเยอะใช่ไหมคะ เดินเหินลำบากมาก ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะทานมื้อเดียวตลอดไปเลย แล้วก็ทานมังสวิรัติ มังสวิรัตินี่ก็คือต้องเป็นมังสวิรัติตามสูตรหมอเขียวนะคะ คือจืด เราก็ทานจืดบ้างแล้วก็ทานอร่อยบ้าง อร่อยนี่ก็คืออาจจะใส่พวกเค็มนิดหน่อย พวกเกลือพวกซีอิ๊วอะไรอย่างนี้ แต่ถ้าเกลือจะดีที่สุดค่ะอย่าทานแป้งมาก
จิตอาสา: คือจริง ๆ มาด้วยอาการภูมิแพ้
คุณจันทวรรณ: ภูมิแพ้ค่ะ แล้วก็อ้วนด้วย
จิตอาสา: คืออ้วนน้ำหนักเกิน
คุณจันทวรรณ: ค่ะ น้ำหนักเกินมาก
จิตอาสา: มีไขมัน เบาหวาน ความดันด้วยหรือเปล่าคะ
คุณจันทวรรณ: ยังไม่มีโรค แต่คิดว่าถ้าปล่อยไว้ก็จะโรคจะตามมาแล้วค่ะ เพราะมันเริ่มเหนื่อย
จิตอาสา: อายุเท่าไรนะคะ
คุณจันทวรรณ: 49 ค่ะ
จิตอาสา: 49 ทำอาชีพอะไรคะ
คุณจันทวรรณ: ทำร้านผ้าม่านก็อยู่ว่าง ๆ ก็ทานแหลกจุบจิบ
จิตอาสา: ก็คือแสดงว่าด้วยพฤติกรรมเดิมนี่เป็นคนชอบทานอาหาร
คุณจันทวรรณ: ใช่
จิตอาสา: ทั้งวันหรือเปล่าคะ
คุณจันทวรรณ: ก็ทานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างกล้วยทอดอะไรพวกนี้ค่ะ
จิตอาสา: ก็คือทานอาหารจุบจิบ ชอบกินขนมกรุบกรอบ
คุณจันทวรรณ: ใช่ค่ะ ชอบกินขนม ใช่ค่ะ
จิตอาสา: อ้อ ก็คือทำไปด้วยอาจจะเครียดนะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ ใช่
จิตอาสา: ต้องดีไซน์ทั้งวันหรือเปล่าคะ ทำไปก็เลยพอว่างเมื่อไรก็เลยหยิบมาทานอาหารกินเล่นไปเรื่อย ๆ
คุณจันทวรรณ: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ก็เลยทำให้น้ำหนักเกิน
คุณจันทวรรณ: น้ำหนักเกินมาก
จิตอาสา: โดยไม่รู้ตัว
คุณจันทวรรณ: ไม่รู้ตัวเลย ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทำยังไงก็ไม่ลง
จิตอาสา: เคยจากที่ปกติปกตินี่จะอยู่ประมาณเท่าไรคะกี่กิโลกรัมคะ
คุณจันทวรรณ: เกือบ 80 ค่ะ
จิตอาสา: ไม่ใช่ ปกติของตัวเองที่เคยป็นคนสุขภาพดีนี่
คุณจันทวรรณ: ที่เคยสุขภาพดีก็นี่ล่ะค่ะ น้ำหนักประมาณสัก 64
จิตอาสา: คือปัจจุบันนี้เหลือ
คุณจันทวรรณ: ตอนนี้เหลือ 61 แล้วค่ะ
จิตอาสา: เหลือ 61
คุณจันทวรรณ: แล้วก็คิดว่าจะลงไปอีกค่ะให้เหลือตัวบาง ๆ ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ จาก 80 เหลือ 61 ลดไปเกือบ 20 กิโลกรัม
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ใช้เวลาประมาณกี่เดือนนะคะ
คุณจันทวรรณ: ก็จากมิถุนายนมานี่ลงมา 12 แต่ก่อนหน้านั้นก็ลงมาทีละหน่อย เพราะว่าเราทานมังสวิรัติแบบเต็มมื้อ 3 มื้อครบ แต่ตอนที่มิถุนายนที่ผ่านมานี่ มื้อเดียวแล้วมื้อเดียวแล้วก็ไม่จุกจิก
ไม่อะไรเลย ทานแบบเคร่งครัดเลยค่ะ
จิตอาสา: แล้วว่าแต่ตอนนี้ทานมังสวิรัติไหมคะ
คุณจันทวรรณ: ทานค่ะ ทานมาตั้งแต่ออกจากค่ายปี 2553
จิตอาสา: ก็คือก่อนหน้าไม่ใช่มังสวิรัตื แต่พอเข้าค่ายปุ๊บเป็นมังสวิรัติเลย
คุณจันทวรรณ: ค่ะเป็นมังเลย ก็ตัดเลย
จิตอาสา: ทำไม ทำไมถึงตัดได้ขนาดนั้นน่ะค่ะ
คุณจันทวรรณ: ก็ปกติก็ไม่ค่อยทานเนื้อสัตว์อยู่แล้ว แล้วก็เลยคิดว่ามันก็ตัดได้ง่าย ๆ ไม่ยากเท่าไรค่ะ
จิตอาสา: ก็ต้องอนุโมทนาด้วยนะคะ สามารถตัดได้เลยหลังจากเข้าค่าย เป็นเพราะดูชีวิตร่ำไห้หรือเปล่าคะ
คุณจันทวรรณ: ไม่ได้ดูค่ะ
จิตอาสา: อ้าว ค่ายนั้นยังไม่มีชีวิตร่ำไห้เหรอ
คุณจันทวรรณ: มีค่ะ มีให้ดูค่ะแต่ไม่ได้ดูสงสารมัน
จิตอาสา: ไม่กล้าดูก็อย่างบางท่านในค่ายนะคะเขาบอกดูแล้วไม่กล้าไปทานเลยก็มีนะคะก็ได้อานิสงส์จากการดู
คุณจันทวรรณ: ก็มีผลนะคะ
จิตอาสา: มีใครเมื่อวานดูแล้วรู้สึกว่าจะไม่ทานเลย มีไหมคะมีไหม มี ๆ ช่วยยกมือหน่อยนะคะปรบมือให้กับท่านผู้นั้นหน่อยนะคะ เพราะว่าเมื่อวานนี้ได้เข้ากลุ่มนะคะ มีคุยกับคุณอาท่านหนึ่งบอกว่านี่ดูแล้วกลับไปจะไม่ทานแล้ว เพราะว่ารู้สึกสงสาร
คุณจันทวรรณ: ใช่
จิตอาสา: เหมือนคุณจันทวรรณนะคะ อยากลดน้ำหนักนะคะ ก็คือเปลี่ยนเป็นมังสวิรัติเลย
คุณจันทวรรณ: ได้ผลจริง ๆ
จิตอาสา: ลดไม่รู้ตัว แล้วเมื่อก่อนที่ผ่านมานี่ได้เคยไปใช้สูตรลดความอ้วน
คุณจันทวรรณ: อ๋อ ไม่ ๆ ไม่เคยใช้ แต่ว่าปกติชอบออกกำลังกาย แล้วทีนี้มันอ้วนเกินน่ะ วิ่งก็ไม่ได้ จะไปว่ายน้ำก็ใส่ชุดมันก็น่าเกลียด ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่เดิน เดินก็เจ็บขา แต่เราไม่ได้ลดอาหารไงคะ เราไม่ได้ทานจืด พอทานจืดแล้วรู้สึกว่ามัน มันเปลี่ยนไปเลยค่ะ แล้วเราไม่เพลียด้วย แต่ตอนแรก ๆ ก็ต้องอดทนหน่อยนะคะ มันจะมีอะไรที่มันเป็นวิบากกรรมของเรานี่ ให้เราต้องฝึกความอดทน คือต้องใช้ธรรมะเข้าช่วยด้วยค่ะ
จิตอาสา: ก็คือมาในค่ายปกติทานมาเยอะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ ก็ใช้ธรรมะช่วยด้วย
จิตอาสา: ทานมาเยอะเลย ก็คือในค่ายนี่ทานสุขภาพ 3 มื้อ
คุณจันทวรรณ: ใช่ค่ะ ค่ะ
จิตอาสา: ครั้งแรกนะคะแล้วก็ค่อย ๆ ลด
คุณจันทวรรณ: ลด
จิตอาสา: จนมาเข้าพระไตรปิฎกถึงฝึก
คุณจันทวรรณ: มื้อเดียวเลยค่ะ
จิตอาสา: ตั้งตบะโดยทานมื้อเดียวนะคะ
คุณจันทวรรณ: ตั้งตบะเลยค่ะ
จิตอาสา: จากมิถุนายนมาถึงนี่ 3 เดือนก็ ลดไป 12 กิโลกรัม
คุณจันทวรรณ: 12 กิโลกรัม
จิตอาสา: ค่ะ
คุณจันทวรรณ: แล้วก็ทำงานหนักได้ ตื่นดึกได้โดยที่ไม่เพลียเลย แล้วก็ทำอะไรก็ดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงด้วยค่ะ เปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ แล้วก็มั่นใจในตัวเอง แต่ก่อนจะแบบอ้วนแล้วก็ไม่อยากจะใส่เสื้อผ้าไม่อยากออกจะไปไหน ไม่อยากคุยกับคนด้วยมันไม่มั่นใจในตัวเองด้วยค่ะ
จิตอาสา: แล้วที่บอกเป็นภูมิแพ้นี่มีอาการอย่างไรคะ
คุณจันทวรรณ: คือภูมิแพ้นี่เป็นมานานแล้ว แล้วพ่อแม่นี่เป็นหอบหืดด้วยแล้วตัวเองก็คิดว่าน่าจะเป็นด้วยทีนี้เราไม่ได้ไปคิดว่ามันจะหายแต่ว่ามันเป็นผลพลอยได้จริง ๆ คือหายโดยที่เราไม่ได้คิดว่าโรคภูมิแพ้นี้จะหายแต่มันหายไปโดยไม่รู้ตัวจริง ๆ ค่ะ ไม่ได้เราไม่ได้ไปคิดว่า เออ กินแบบนี้แล้วจะหายจากโรคภูมิแพ้ต้องไม่ไปสนใจมันน่ะค่ะ มันหายหายเองจริง ๆ เลย
จิตอาสา: หายไปโดยไม่รู้เรื่อง
คุณจันทวรรณ: ค่ะ ปกตินี่ถ้าฝนอย่างนี้นะ น้ำมูกมาแล้วค่ะ มาแบบไม่รู้ตัวเลยหลุดออกมาเลยน้ำมูกใส ๆ ค่ะแต่นี่ไม่เป็นค่ะ หายจริง ๆ
จิตอาสา: แล้วแต่ก่อนที่จะมารู้จักแพทย์วิถีธรรมดูแลในเรื่องของภูมิแพ้ยังไงคะ มีอาการ คือมีน้ำมูกไหลใส ๆ เหรอคะ อย่างเดียว
คุณจันทวรรณ: ค่ะก็จะไม่ทานยาเลยเป็นคนไม่ทานยา พอมาเจอแพทย์วิถีธรรมนี่คือใช่เลย คือ จะไม่ชอบทานยาอะไรเลย ไม่กินยา
จิตอาสา: อาการที่เด่นชัดนี่คืออะไรคะน้ำมูกไหลใส
คุณจันทวรรณ: น้ำมูกแล้วก็คัน คันตา คันหมดเลยนี่แถวหน้าแถวอะไรอย่างนี้เหมือนกับเราไปโดนอะไรมาคัน ๆ น่ะค่ะ แล้วตานี่จะคันมาก จะขยี้จนที่เป็นเนื้อเหมือนเนื้อต้อในตาค่ะก็เดี๋ยวนี้ไม่คันแล้วไม่เป็นอะไรจมูกก็จะมีกลิ่นด้วยแต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่เป็นค่ะ ดี ดีขึ้นเยอะเลยดีมากเลยเกือบ 100 % เลยค่ะ
จิตอาสา: แล้วทำรายละเอียดในยา 9 เม็ดยังไงคะ เล่าให้ฟังนิดนึงค่ะ มาครั้งแรก 7 วันนี่พี่เลี้ยงแนะนำยังไง อาจารย์หมอเขียวแนะนำยังไงแล้วปฏิบัติยังไง ทำไมถึงได้ดีขึ้นหายไปได้ด้วยอะไร
คุณจันทวรรณ: อ๋อ ยา 9 เม็ด คือที่สำคัญนี่ที่ค่ายนี่เราได้ทำอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่ที่กลับไปบ้านนี่เราจะต้องทำด้วย เราจะต้องเคร่งครัดในตัวเอง จะต้องแต่ดิฉันก็ไม่ได้ทำทุกวันจนก็กระท่อนกระแท่นมาตลอดค่ะ แต่ช่วงพอเข้าค่ายพระไตรปิฎกตั้งแต่ปีที่แล้วมานี่ก็พยายาม คือพยายามตั้งใจว่าจะทำให้ได้ค่ะจนมามิถุนายนที่ผ่านมานี่คือ 100 % เลยตั้งใจได้ แล้วก็ทำได้เกือบทุกเม็ด ก็ที่สำคัญก็คือเรื่องน้ำสมุนไพรเราทำได้เองที่บ้าน แล้วก็อาหารสามีดิฉันก็ 120 กิโลตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 115 แล้ว เขาก็ทานมังสวิรัติก็คือเอาชนะ เขาเห็นเราเขาเห็นเราไงคะ เขาก็เลยเชื่อเรา เขาก็สนับสนุนด้วยให้มาช่วยมาเป็นจิตอาสา เพราะได้ผลจริง ๆ เขาเห็นเราทำได้ไงคะ
จิตอาสา: ค่ะ
คุณจันทวรรณ: แล้วก็มีคือ จะมีพอกทาแล้วก็ที่สำคัญคือต้องใช้ธรรมะด้วยนะคะ ต้องเรียนรู้ด้วยนะคะ มันช่วยได้เยอะเลยค่ะ
จิตอาสา: แล้วครั้งแรกนี่มาด้วยกันกับสามีหรือเปล่าคะ
คุณจันทวรรณ: ไม่ได้มาแต่ว่าจะให้เขามาเข้าค่าย แต่เรากลับไปทำให้เขาค่ะ กลับไปทำให้เขา ให้เขาลางานแล้วเราก็ทำให้เขา 5 วันอย่างนี้ ก็ได้ผลแล้วตอนนี้เขาก็ทานมังสวิรัติแล้ว
จิตอาสา: ก็เปลี่ยนตาม
คุณจันทวรรณ: ก็เปลี่ยน
จิตอาสา: นี่อันนี้ก็เป็นตัวอย่างของที่ทำตัวอย่างที่ตนใช่ไหม
คุณจันทวรรณ: ค่ะใช่ค่ะ
จิตอาสา: คือยิ่งไปพูดกับคนใกล้ตัวส่วนใหญ่ที่จะบอกอาจารย์ก็จะบอกบอกว่าพูดกับคนใกล้ตัวนี่พูดยาก
คุณจันทวรรณ: พูดยากมากเราพูดไม่ได้เลย เราไม่ต้องอธิบายอะไรเลยไง แต่เราต้องทำที่ตัวเราค่ะให้เขาเห็นพอเขาเห็นปั๊บนี่เขาเชื่อเรา แล้วเขาทำตามเรา ให้เราได้สอนได้เปิดใจให้เราบอกให้ทำตามอย่างนี้ค่ะ
จิตอาสา: ครั้งแรกกลับไปนี่ไปยัดเยียดอะไรให้กับพ่อบ้านไหมคะ
คุณจันทวรรณ: ไม่ ไม่ได้ยัดเยียดค่ะแต่เขาเห็นเรากลับไปนี่น้ำหนักเราก็ลดลงเขาก็เห็น
จิตอาสา: จากค่ายแรกเลยเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเลย
คุณจันทวรรณ: จากค่ายแรกค่ะ 4 กิโลกรัมค่ะ เห็นชัดอยู่
จิตอาสา: 4 กิโลกรัม นะคะ วันนี้ใครน้ำหนักลดบ้างคะมีไหมคะ
คุณจันทวรรณ: ต้องลดนะคะต้องลดเยอะอยู่
จิตอาสา: มีไหมคะ ยกสูง ๆ เลยหลายท่านนะคะน้ำหนักลดแล้วใครน้ำหนักเพิ่มคะ มีไหม ก็มีเหมือนกัน แต่คนที่เพิ่มนี่ผอม ๆ นะสมควรจะเพิ่มบางทียังไม่สมดุลนะคะแต่อันนี้อันนี้ลดลงเพราะว่าอันนี้ จำได้ว่าตอนนั้นพี่เขาไปบุรีรัมย์ด้วยใช่ไหม
คุณจันทวรรณ: ใช่คะ
จิตอาสา: น่าจะรู้สึก
คุณจันทวรรณ: ยังอ้วนอยู่ใช่ไหมคะ
จิตอาสา: ยังอ้วนกว่านี้นะวันนี้เห็น
คุณจันทวรรณ: เห็นชัดเลย
จิตอาสา: ใช่ ๆ จำพี่เขาไม่ได้แล้วล่ะ เพราะว่าพี่เขาผอมลง
คุณจันทวรรณ: มีรูปค่ะ เดี๋ยววันหลังจะเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดู
จิตอาสา: ค่ะแล้วได้ปฏิบัติต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้
คุณจันทวรรณ: ต่อเนื่องค่ะ แล้วก็คิดว่าจะตลอดไปด้วยค่ะ
จิตอาสา: ถ้าอย่างนี้อยากจะแนะนำพี่น้องเรายังไงบ้างคะในเรื่องของยา 9 เม็ด คือทำไม เมื่อกี้พี่จันทวรรณนิดหนึ่ง รู้สึกตั้งใจมากเลยทำไมถึงบอกอยากกินมื้อเดียว
คุณจันทวรรณ: อ๋อที่อยากกินมื้อเดียวน่ะ เราได้สุขภาพเราด้วย แล้วมันพอทำแล้วนี่มันเห็นผลจริง ๆ เห็นผลก็คือตัวเรานี่โล่งโปร่งสบาย คิดอะไรก็เหมือนกับเออ มันไม่มึน ไม่ง่วงไม่ง่วงหงาวหาวนอน แต่ก่อนที่อ้วน ๆ นะคะพอกลางวันนี่ก็ขนาดนอนทั้งคืนแล้วกลางวันยังอุตส่าห์ง่วงอีกแล้วมันมันเห็นผลจริง ๆ ต้องปฏิบัติค่ะ หวังว่าถ้ากลับไปบ้านแล้วนี่อย่าทิ้งเพราะว่าถ้าทิ้งแล้วนี่ 2-3 วันน่ะเราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือเราทำได้แล้วนี่จากที่ค่ายนี้นะคะ 7 วันนี่ เราไปทำต่ออีกอาทิตย์หนึ่ง แล้วก็อีกอาทิตย์หนึ่งมันจะ เราจะชนะมันค่ะ
จิตอาสา: ก็จริง ๆ ต้อง
คุณจันทวรรณ: ต้องอยู่ที่ใจเรา เราต้องเข้มแข็งค่ะ มันจะมีมารมาผจญเยอะอยู่ อาหารที่เรารอบ ๆ ตัวเรา เราต้องอย่ากิน ๆ โอเคกินนิดหน่อยแต่ว่าเราแต่นี่หักดิบเลยนะคะ ไม่กินเลยเดี๋ยวนี้มองอาหารทั่ว ๆ ไป ก็ไม่อร่อยแล้วมันเป็นพิษคิดว่าอย่างนั้นมันเป็นพิษ พิษทั้งนั้นเลย มีแต่น้ำมัน มัน ๆ อย่างกล้วยทอดนี่ของโปรดเลยนะคะ ไม่กินเลยที่จริงเรากินได้ใช่ไหมคะ มังสวิรัติ แต่ไม่ ไม่เอาเลยทอด ๆ แล้วก็อาหารนี่เวลาทำก็ไม่ใส่น้ำมันเลยค่ะ
จิตอาสา: ตอนนี้ก็คือใช้วิธีพิจารณาอย่างที่อาจารย์แนะนำ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ พิจารณาค่ะ วิธีพิจารณาคือมองไปเห็นโทษของมันเลย
จิตอาสา: ใช้วิธีพิจารณาประโยชน์แล้วก็โทษ
คุณจันทวรรณ: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: ก็คือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเอง สิ่งที่เป็นโทษก็ไม่เอานะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะ อันนั้นก็คือจากที่พี่จันทวรรรณนะคะได้เข้าค่ายก็อานิงสงส์น้ำหนักลด
คุณจันทวรรณ: อานิสงส์จริง ๆ เลยค่ะ
จิตอาสา: ทานมื้อเดียวได้นะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: แล้ววันนี้ก็มีความผาสุก พลังชีวิตเต็ม
คุณจันทวรรณ: มีความผาสุกมากเลยค่ะ
จิตอาสา: ค่ะแล้วในตอนที่ปฏิบัติยา 9 เม็ดในค่ายครั้งแรกนี่ ในเรื่องน้ำฉี่กับดีท็อกซ์เป็นยังไงคะ อยากให้เล่าเพราะว่าส่วนใหญ่พี่น้องอาจจะยังไม่ค่อยกล้าทำ 2 ข้อนี้ น่าจะเป็นข้อที่ยากที่สุด
คุณจันทวรรณ: น้ำฉี่นี่ตอนแรกก็ยังไม่ทานเพราะว่าเราเราเคยทานเนื้อสัตว์มาใช่ไหมคะ แต่พอเรามาอยู่ในค่ายนี่เราได้ทานมังสวิรัตินี่สัก 2-3 วันน่ะ เราเลยลอง ลองแล้วก็จืดนะคะ เพราะว่าแต่ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วเรายังทานเนื้อสัตว์บ้างนี่มันจะมีรสแบบที่เราไม่ชอบ เราก็ไม่เอาต่อไม่ทานต่อแล้ว พอมาอยู่ค่ายนี่ได้ทานก็เลยทานได้แล้วทุกวันนี้ก็ยังทานอยู่นะคะ เพราะว่าเราทานมังสวิรัติจืดนี่มันจะไม่ รสชาติมันจะไม่ลำบากมากทานได้ แล้วก็มันทำให้มีพลังชีวิตด้วยที่สำคัญอย่าลืมนะคะ แล้วก็ดีท็อกซ์ก็ 2 วันบ้าง 3 วันบ้างแล้วแต่ แล้วแต่ว่าเราอึดอัดมากน้อยขนาดไหนจริง ๆ แล้วก็สามารถทำได้ทุกวันแล้วแต่ แล้วแต่ทั่ว ๆ ไปก็สัก 2 วันก็ได้
จิตอาสา: แล้วใช้น้ำอะไรทำคะ
คุณจันทวรรณ: ใช้ส่วนมากใช้น้ำสมุนไพรถ้าไม่มีจริง ๆ หายังไม่ได้ทำน้ำสมุนไพรก็น้ำกลั่น แล้วก็น้ำฉี่นี่ล่ะค่ะ น้ำฉี่ของเรานี่ล่ะค่ะ
จิตอาสา: น้ำปัสสาวะนะคะ
คุณจันทวรรณ: สุดยอดไม่ต้องหาที่ไหน
จิตอาสา: ทำแล้วก็โปร่ง โล่ง สบายนะคะ
คุณจันทวรรณ: โปร่ง โล่ง สบายจริง ๆ ค่ะ
จิตอาสา: อันนี้ก็เป็นอีก 1 ตัวอย่างที่พึ่งตนนะคะ แล้วก็ใช้ของที่อยู่ใกล้ตัว
คุณจันทวรรณ: ใช่ค่ะ
จิตอาสา: นะคะวันนี้ก็มีความผาสุกน้ำหนักลดอย่างที่เห็นนะคะ 19 กิโลกรัม นะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ปีนะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ 2 ปี
จิตอาสา: ที่นี้พี่เขาก็จะไปปฏิบัติต่อ ทิ้งท้ายที่สุดนี้พี่อยากฝากอะไรให้กับพี่น้อง
คุณจันทวรรณ: ก็อยากให้พี่น้องกลับไปปฏิบัติต่อเนื่องนะคะ แล้วก็ไม่ใช่ทานจืดอย่างนี้ทุกมื้อก็ได้ อาจจะ ถ้าเราก็ต้องทานมีรสชาติบ้างเพราะทานจืดอย่างเดียวบางทีอาจจะ เราอาจจะมันไม่สมดุลน่ะค่ะ เราก็ต้องทานที่มันมีรสชาติบ้างแต่ว่าอย่าลืม อย่าลืมปฏิบัติต่อเนื่องนะคะ เพราะไม่งั้นนี่ถ้าเราทิ้งไปนี่เราก็จะกลับมานี่มันยาก เราก็จะต้องกลับมาใหม่ในค่ายใหม่ แต่ยังไงถ้าเกิดว่ามันไปจริง ๆ เราก็กลับมาเข้าค่ายใหม่แล้วเราก็ตั้งตบะใหม่ก็คงไม่พ้น น่าจะความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ
จิตอาสา: ก็คือ เลยใช้วิธีมาสมัครเป็นนักศึกษาแพทย์วิถีธรรมด้วยหรือเปล่าที่จะ
คุณจันทวรรณ: เป็นนักศึกษาแพทย์ด้วย แล้วก็เผื่อจะได้มีโอกาสได้ช่วยผู้อื่นได้บ้างค่ะ ก็ต้องทำตัวอย่างให้คนอื่นได้เห็นด้วยค่ะ
จิตอาสา: ก็เข้าสูตรวิถีชีวิตของแพทย์วิถีธรรมแล้วนะคะ
คุณจันทวรรณ:ค่ะ
จิตอาสา: อันนี้ก็เป็นนักศึกษาแพทย์วิถีธรรมปี 1 นะคะ
คุณจันทวรรณ:ค่ะ
จิตอาสา: ค่ะก็ต้องขอบพระคุณพี่จันทวรรณมากนะคะ
คุณจันทวรรณ: ค่ะ
จิตอาสา: ถ้าใครเห็นแล้วอยากมาเป็นนักศึกษาก็ลองดูนะคะสอบถามพี่เขาได้นะคะ ขอบพระคุณนะคะ
คุณจันทวรรณ: ขอบคุณค่ะ