3. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่แนะนำและเก็บบันทึกโดยจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ เครือข่ายแพทย์วิถีพุทธ นักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และประชาชนผู้ที่ใช้การแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 8 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ))
กรณีศึกษาที่ | 3.71 |
ชื่อ | Yajaira Barreto |
เพศ | หญิง |
อายุ | 60 ปี |
จังหวัด | อเมริกา |
โรคหรืออาการ : เป็นมะเร็งเต้านมเป็นเวลา 10 ปี และมะเร็งได้ลามไปที่ตับอ่อน
โรคหรือาการ เป็นมะเร็งเต้านมเป็นเวลา 10 ปี และมะเร็งได้ลามไปที่ตับอ่อน เมื่อเดือนสิงหาคม 2011 ได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายที่ทำงานดีสนีย์ตอนดึก บอกว่ามีเพื่อนป่วยมากอยู่ในห้องฉุกเฉินที่ไมอามี่ขอความช่วยเหลือด่วน สามีของเขาได้ขับรถเป็นเวลาสี่ชั่วโมงเศษ เพื่อเดินทางมารับสมุนไพร เขาเล่าว่าตอนนี้เมียอยู่ในห้องฉุกเฉินเป็นมะเร็งตับอ่อนขั้นสี่มีอาการปวดทรมานอย่างแสนสาหัส หมอต้องให้ยาแรงกว่ามอร์ฟีนถึง 6 เท่าทุก ๆ 3 ชั่วโมง เพื่อระงับอาการปวด เป็นข้ามวันแล้ว ทนแถบจะไม่ไหวแล้วทั้งปวดทั้งแพ้ยา
การดูแลและแก้ไขอาการ :
ปล้อง (จิตอาสาที่ให้คำปรึกษา) บอกว่าพอมีสมุนไพรที่ศึกษามาคือย่านาง ไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหนเพราะยังไม่เคยใช้กับคนที่มีอาการปวดรุนแรงขนาดนี้ ตอนนั้นพอมีย่านางบ้าง เลยปั่นเข้มข้นและกรองกากออกและแช่น้ำแข็งให้เขาเดินทางกลับไปให้ญาฮายร่าสามีเธอเอาน้ำย่านางใส่ถ้วยกาแฟ มีหลอดดูด แอบให้เธอดื่ม ตอนเวลาสองทุ่ม เขาเล่าว่าตั้งแต่ดื่มครั้งแรกนั้น เธอไม่มีอาการปวดเลยจนกระทั่ง 6 โมงเช้าพยาบาลเข้าเวร ทะเลาะกันว่า 10 ชั่วโมงแล้ว ทำไมไม่ได้ลงบันทึก เธอบอกพยาบาลว่าไม่มีอาการปวดเลยไม่ได้กดเรียกมาให้ยาหมอรู้เรื่องงงมากว่าเป็นไปได้ยังไงไม่ปวดเลยตั้งสิบชั่วโมงรีบเอาเธอไปตรวจสแกนอย่างละเอียดและเธอก็เริ่มปวดอีกช่วงระยะหนึ่งอาทิตย์ที่อยู่โรงพยาบาล สามีก็แอบเอาย่านางให้ดื่ม อาการที่เจ็บก็หายไปผลของการตรวจเลือดพบว่าค่ามะเร็งลดลงหมอส่งกลับบ้าน ทุก ๆ อาทิตย์สามีจะขับรถมารับน้ำย่านางหรือฝากใครที่จะไปไมอามี่นำไปให้เธอกลับบ้านและได้ไปโบสถ์วันอาทิตย์ไปร้านอาหาร หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสสามีเธอเล่าว่าน้ำย่านางที่ปั่นสดแล้วดื่มทันทีอาการเจ็บจะทุเลาลงเร็วมากและยาวนาน ถึง 10 ชั่วโมง แต่พอเด็ดแล้วแช่ตู้เย็นไว้สักสามสี่วัน แล้วนำมาปั่น อาการปวดกลับคืนมาทุก ๆ 5 ชั่วโมง.วันไหนย่านางหมด สามีเธอก็ต้องให้ยาแรงกว่ามอร์ฟีนนั่นอีกปล้องก็ได้ปั่นเข้มข้นและแช่แข็งไว้ให้ทุกครั้งเผื่อไว้ถ้าหาของสดไม่ทัน หลังจากนั้นอีกสามอาทิตย์ เธอและสามีได้เดินทางไป แม็กซิโก เธอเอาย่านางแช่แข็งไปด้วยเธอบอกว่าถ้าทางสนามบินให้โยนทิ้ง เธอจะดื่มตรงนั้นทั้งหมด ก่อนเดินทางเธอได้ส่งโน๊ตสั้น ขอขอบคุณที่ได้อุทิศช่วยเหลือเธอให้คลายจากอาการเจ็บปวด