หลังจากเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม คนรอบตัวๆ ก็ทานน้ำปัสสาวะกัน ก็ยังไม่แน่ใจ มีจิตอาสาหลายคนเล่าแชร์ประสบการณ์การใช้น้ำปัสสาวะและประสบความสำเร็จเกือบทุกโรค ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจทดลองใช้น้ำปัสสาวะควบคู่ไปกับเทคนิค 9
ปัจจุบัน ใช้น้ำปัสสาวะไม่เคยขาด ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำปัสสาวะ หยอดหู หยอดตา ล้างหน้า ทุกวันนี้จะดื่มน้ำปัสสาวะในตอนเช้า วันละแก้วเต็มๆ ใช้ล้างหน้าทุกวัน โดยไม่ได้ล้างออกและแบ่งส่วนหนึ่งในการดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้ บางครั้งก็ใช้หมักผมด้วย
สิ่งที่ประทับใจจากการใช้น้ำปัสสาวะคือ การที่ตนเองหายจากการเป็นเบาหวาน ส่วนตัวรู้สึกว่า อาการจากการเป็นเบาหวานดีขึ้น วันไหนถ้าไม่ได้ดื่ม พลังชีวิตจะตก หลังจากที่ได้ใช้แนวทางนี้ ได้ทิ้งยาเคมี ยาหมอและไม่มีอาการเบาหวานมากวนอีก
พอผ่านไปประมาณปีกว่า เลยตัดสินใจลองวัดน้ำตาล จึงมีความมั่นใจในหลักการดูแลแบบแพทย์วิถีธรรมร่วมกับการใช้น้ำปัสสาวะมากขึ้น เพราะมันช่วยทำให้โรคเบาหวานหายได้
หลังจากนั้น ตัดสินใจเลิกอาชีพขายน้ำเมา มาขายผลิตภัณฑ์สุขภาพแทน ซึ่งก็ไม่ทุกข์ใจอะไร ค่ายสุขภาพตามหลักแพทย์วิถีธรรมของหมอเขียว นอกจากจะให้องค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพแล้วยังให้ธรรมะอีกด้วย สอนให้เราลดกิเลสด้วย ซึ่งจากธรรมะของคุณหมอ ทำให้สามารถเลิกอาชีพนี้ได้โดยไม่ทุกข์เลย
ส่วนประสบการณ์การใช้น้ำปัสสาวะในชีวิตประจำวันนั้น เคยเป็นตาอักเสบ มีอาการตาแดง ก็ใช้ศาสตร์แพทย์วิถีธรรม ใช้น้ำสกัดย่านางหยอดตา ผ่านไป 2 วันมันก็ดีขึ้น แต่ยังไม่หาย ก็ได้ใช้น้ำปัสสาวะ โดยการกระพริบตาในน้ำปัสสาวะ โดยจะทำทุกครั้งที่ปัสสาวะออกมา (ถ้ามีอาการจะใช้ทุกครั้ง) ปรากฏว่าอาการเคืองใต้เปลือกตาหายไปทันที ตาหายแดงทั้งสองข้าง จึงได้พบความมหัศจรรย์ของน้ำปัสสาวะ
ประสบการณ์อีกอันคือ เคยโดนมีดบาดเป็นแผลลึก ได้ใช้นิ้วนั้น แช่น้ำปัสสาวะ ปรากฏว่าเลือดหยุดและแผลปิดดี หรือแม้แต่ อาการปวดชายโครง เป็นๆหายๆตลอด ได้ดื่มน้ำปัสสาวะและดื่มทุกครั้งที่ปัสสาวะออกมา จนกระทั้งอาการปวดหายไป
สุดท้ายอยากจะฝาก เทคนิคในการดื่มน้ำปัสสาวะได้ง่ายคือ ดื่มน้ำเยอะๆ และทานอาหารที่มีรสจืด น้ำปัสสาวะนั้นสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เป็นยาในร่างกายเรา แม้ว่าน้ำปัสสาวะนั้นจะมีพิษ แต่ก็เป็นพิษอ่อนๆ เหมือนเซรุ่ม ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกายเรา