1. บันทึกการสัมภาษณ์กรณีศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธสำหรับผู้ที่มาเข้าอบรมค่ายสุขภาพ แพทย์วิถีพุทธ 5-7 วัน
ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ 1 อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายแพทย์วิถีพุทธทั่วโลก
ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 7 การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ ผ่านสื่อออนไลน์ – ยูทูบประเภทข้อมูลที่ 9 แบบบันทึกสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ และ ประเภทข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 1.74 |
ชื่อ | เรืองเพชร สามเมือง |
อายุ | 55 ปี |
อาชีพ | รับราชการผสมเทียมโค |
จังหวัด | ราชบุรี |
โรค | โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตต่ำ |
วันสัมภาษณ์ | 9 ธันวาคม 2557 |
ได้แนะนำและช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในที่ทำงาน ให้หายจากอาการไม่สุขสบาย ซึ่งตนคิดว่าเป็นกุศล ส่งผลให้ตนหายจากการเจ็บป่วยด้วย มีแนวคิด “เน้นการพึ่งตน และแบ่งปันเกื้อกูลผู้อื่น”เป็นเบาหวานไขมันในเลือดสูง ความดันต่ำ 3 ปี รักษาโดยใช้ยาแผนปัจจุบัน ที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ย้ายมารักษาที่ โรงพยาบาลโพธาราม 2 ปี
เริ่มเข้ามาเรียนรู้ในค่ายสุขภาพครั้งแรก รับประทานอาหารในค่ายด้วยความยากลำบาก รู้สึกว่าไม่อร่อยเลย. รสชาติแย่มาก เนื่องจากแตกต่างจากรสชาติที่ตนเคยรับประทานเป็นประจำที่บ้านอย่างสิ้นเชิง หลังจากเข้าค่ายครั้แรกก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแต่อย่างใด ยังปฏิบัติตัวเช่นเดิม ทั้งเรื่องรสชาติอาหาร และการออกกำลังกาย แต่ตนได้ติดตามข้อมูล ข่าวสารการจัดค่ายสุขภาพมาตลอด ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายสุขภาพเป็นครั้งที่ 2 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม จากหนังสือ “ความลับฟ้า” พบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ “ปัสสาวะบำบัด” จึงทดลองดื่มปัสสาวะของตนเองขณะอยู่ในค่ายสุขภาพ ประกอบกับในช่วงเวลานั้นมีอาการไม่สบายคือ วิงเวียนศีรษะ หน้ามือ อ่อนเพลีย ได้ดื่มปัสสาวะ ประมาณ 1 ขันหลังจากออกมาจากห้องน้ำ อาการไม่สุขสบายดังกล่าวหายเป็นปลิดทิ้งรู้สึกโปร่ง โล่ง “รู้อย่างนี้กินตั้งนานแล้ว” ครั้งแรกที่เข้าค่ายสุขภาพไม่ได้คิดถึงเรื่องการรักษาโรคเบาหวานและไขมันสูงเท่าใดนักแต่หวังผลเรื่องการลดน้ำหนัก ซึ่งเดิมน้ำหนักตัว 74 กิโลกรัม หน้าท้องยื่นออกมาชัดเจน ตนได้ขอคำปรึกษาจากจิตอาสา เรื่องการลดน้ำหนัก จิตอาสาได้แนะนำ ให้รับประทานอาหารสุขภาพอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะลดน้ำหนักได้หรือไม่ ตนได้ตัดสินใจมาเข้าค่ายสุขภาพทุกเดือน และได้นำความรู้ไปปฏิบัติต่อเนื่อง เมื่อกลับไปอยู่บ้านประกอบกับได้ชักชวนเพื่อน ๆ เข้ามาเรียนรู้ในค่ายสุขภาพด้วย แต่ช่วงแรก ๆ เพื่อน ๆ ไม่สนใจ หาว่า “บ้าหมอเขียว” จนกระทั่งได้เข้าค่ายสุขภาพครั้งที่ 5 น้ำหนักลดลงมาเหลือ 68 กิโลกรัม รวมลดลง 6 กิโลกรัม การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายที่เห็นชัดเจนอีกประการหนึ่ง คือผิวบริเวณใบหน้าที่เคยหมองคล้ำ กลับกระจ่างใสขึ้น เคยมีอาการผื่นคัน บริเวณแขน ใช้ยาหม่อง ยาทาผิวหนังหลายขนานก็ยังไม่หายแต่เมื่อทดลองใช้ปัสสาวะทาเพียงครั้งเดียว ผดผื่นคันก็หายไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ตนยอมรับและเชื่อมั่น ในสรรพคุณของน้ำปัสสาวะอย่างสนิทใจ ปัจจุบันเหลือจากการใช้งาน ตนจะเก็บใส่ขวดไว้ใช้เผื่อมีกรณีฉุกเฉินเจ็บป่วยกะทันหันก็นำมาใช้ได้เลย นอกจากนั้นจะเก็บไว้ใช้ดองเปลือกมังคุด เอาไว้ทาแผลให้กับสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย
ก่อนเข้าค่ายครั้งล่าสุดแพทย์ที่รักษาโรคเบาหวานได้นัดตรวจอาการตามปกติ แพทย์ได้ตรวจสอบเปรียบเทียบประวัติการตรวจย้อนหลัง พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดได้รับการควบคุมเป็นอย่างดีต่อเนื่อง ส่งผลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จากครั้งแรก ๆ ระดับน้ำตาลในเลือด คือ 226 mg/dl. หลังจากได้เข้ามาเรียนรู้ในค่ายสุขภาพและปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่อง พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ล่าสุด 124 mg/dl.แพทย์พิจารณาให้หยุดการใช้ยาลดน้ำตาล เหลือเฉพาะยาลดไขมันในเลือดซึ่งต้องมีการติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการณ์ในคราวต่อไป ทำให้ผู้ป่วยดีใจมาก ซึ่งแต่เดิมมีความคิดไม่อยากกินยาไปตลอดชีวิตได้แนะนำและช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในที่ทำงาน ให้หายจากอาการไม่สุขสบาย ซึ่งตนคิดว่าเป็นกุศล ส่งผลให้ตนหายจากการเจ็บป่วยด้วย มีแนวคิด “เน้นการพึ่งตน และแบ่งปันเกื้อกูลผู้อื่น”
ขณะนี้มีความพอใจกับรสชาติอาหารในค่ายสุขภาพมาก ยังแปลกใจตนเองว่า ทำไมรู้สึกอร่อย แตกต่างจากครั้งแรก ๆ ที่เข้าค่าย แอบคิดว่า แม่ครัวแอบใส่ผงชูรสหรือเปล่า? “หมอเขียวบอกว่า คนที่รับประทานอาหารสุขภาพได้อร่อย ถือว่าเป็นคนมีบุญ” จึงทำให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากว่า ตนเองเป็นคนมีบุญ การใช้เทคนิคยา 9 เม็ด ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จึงจะส่งผลการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพในทางที่ดีขึ้นได้ ใช้หลักเศรษฐกิจพอพียง ลดค่าใช้จ่าย และต้องพึ่งตน