การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ประเทศไทย ทางรัฐบาลได้ประกาศนโยบาย อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อความไม่ประมาทและป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในประเทศ ส่งผลให้ บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ต้องปิดตัวลง หลายคนขาดรายได้ มีเงินไม่พอเลี้ยงชีพ
จากสถานการณ์ดังกล่าว มูลนิธิแพทย์วิถีธรรมแห่งประเทศไทย จึงได้เริ่มต้นโครงการ “รวมพลังแบ่งปันด้วยใจที่บริสุทธิ์” เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ face sheild และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขขาดแคลน เมื่อส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงพอแล้ว จึงได้เริ่มกิจกรรมต่อมาคือ มอบข้าววิถีธรรมไร้สารพิษสำหรับทำโรงบุญหรือหุงแจก เริ่มต้นโครงการอาจารย์หมอเขียวมีดำริ จะให้เกิดการแบ่งปันในรูปแบบสาธารณโภคี ข้าวหม้อแกงหม้อ มากินข้าวหุงสุกแบ่งปันกัน แต่เมื่อดำเนินโครงการไปสักระยะ พี่น้องจิตอาสาก็ได้นำข้าวสารไปแจกในบางพื้นที่ อ.หมอเขียว จึงปลดล็อคให้ทำโรงบุญแจกทั้งข้าวสารและข้าวสุก ซึ่งพี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมและพี่น้องที่มาร่วมบำเพ็ญที่รวมพลังเข้ามา ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่มาจากทั่วโลกแม้จะมีปัญหาช่วงวิกฤตโควิดแต่ก็มาร่วมมารวมพลังกัน
ภาคอีสาน
จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม โดยการนำของ อาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน ได้ระดมสรรพกำลังทั้งทุนรอนและทีมงานจิตอาสา ช่วยกันนำข้าววิถีธรรมไร้สารพิษ จากสหกรณ์เกษตรอินทรีย์เลิงนกทา อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ออกแบ่งปันให้กับผู้ที่ขาดแคลนในยามวิกฤตโควิด-19 ระบาด
โรงบุญแรกของโครงการรวมพลังแบ่งปันด้วยใจที่บริสุทธิ์ เกิดขึ้นที่ ภาคอีสาน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขถาพตำบลท่าไคร้ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยการนำของ ผอ.รพ.สต. นายวงศ์ประสิทธิ์ มะลิรส และ อสม.ในพื้นที่ ได้ร่วมแรงร่วมใจ ทำข้าวผัดดอกเกลือ ข้าวมันเห็ด เป็นอาหารมังสวิรัติไม่มีเนื้อสัตว์แจกในชุมชนกว่า 300 หลังคาเรือน ซึ่งโครงการหุงข้าววิถีธรรมแจกในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับการสนับสนุนสานต่อโครงการจาก ดร.สม นาสะอ้าน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ในจังหวัดมีอำเภอที่อาสาบำเพ็ญบุญกุศล 10 แห่งได้แก่ อ.เมือง อ.ฆ้องชัย อ.สหัสขันธ์ อ.นาคู อ.เขาวง อ.หนองกุงศรี อ.นามน อ.ห้วยผึ้ง อ.ยางตลาด และ อ.กมลาไสย ซึ่งแต่ละอำเภอเจ้าหน้าที่อสม.และสาธารณสุข ได้ร่วมกันทำข้าวห่อใบบัว ใบตอง ใบตองตึง เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ
เมื่อโครงการจุดประกายขึ้นที่กาฬสินธุ์ พี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดขอนแก่น ก็มาร่วมนำข้าววิถีธรรมหุงสุก ทำโรงบุญในจังหวัดของตนเองด้วยมีทั้งแจกที่วัดและ อสม.เดินแจกตามบ้าน มหาสารคาม อ.เมือง แจกในหลายพื้นที่ ส่วนจังหวัดขอนแก่น มีพี่น้องร่วมโครงการใน อ.เมือง อ.พล อ.ซำสูง และ อ.น้ำพอง ตามมาด้วยการบำเพ็ญของพี่น้องจิตอาสา จ.สุรินทร์ ที่ได้ทำน้ำสมุนไพรและข้าววิถีธรรมหุงแจกในเขต อ.เมืองและอ.พนมดงรักให้กับโรงพยาบาลพนมดงรัก
เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ในจังหวัดยโสธรพี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมยโสธรและอุบลราชธานีทำโรงบุญแจกข้าวผัดดอกเกลือ ที่ บขส.ยโสธรและโรงพยาบาลยโสธร มีของมาสมทบเช่น เงาะ น้ำตาล ไข่สด น้ำยาล้างจาน ชาวชุมชนเข้าแถวรับแม้จะยาว แต่ก็มีระเบียบ เว้นระยะห่าง และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์
ภาคใต้
จิตอาสาแพทย์วิถีธรรมสวนป่านาบุญสอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แจกข้าวสารให้กับชาวบ้านเขาพระทอง ต.เขาลำปะ ชาวบ้านดีใจและซาบซึ้งที่เราไปแบ่งปันข้าววิถีธรรมไร้สารพิษ แม้จะไม่มากแต่เป็นการแสดงน้ำใจในสถาณการณ์ที่ลำบากเช่นนี้
ที่จังหวัดชุมพร พี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม ร่วมกับหน่วยทหารบก ร.25 พัน 1 มาช่วยทำโรงครัวจิตอาสา มีคุณครูจากโรงเรียนเทศบาล มาช่วยแพ็คกล่องและทีมงาน อสม.ปากน้ำและเครือข่ายแพทย์วิถีธรรมชุมพร เตรียมวัตถุดิบในการปรุงอาหาร
จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชุมพรรับหน้าที่นำอาหารไปแจกตามชุมชนที่มีผู้ป่วยติดเตียงและผู้ด้อยโอกาส จ.สุราษฎร์ธานี บำเพ็ญความดีที่ อ.คีรีรัฐนิคม อ.บ้านนาเดิม อ.เมือง และ อ.กาญจนดิษฐ์ แจกข้าวสารวิถีธรรมไร้สารพิษ น้ำมันพืช ซีอิ๊วขาว น้ำยาเอนกประสงค์ ผักไชยา หัวปลี และกล้วยน้ำว้าตามชุมชนที่มีผู้ขาดแคลน และยังมีพี่น้องภาคใต้ในหลายจังหวัดที่ทำโรงบุญแจกจาก จ.ตรัง จ.ภูเก็ต จ.ระนอง ที่บำเพ็ญตามกำลังของตนเอง
ภาคเหนือ
พี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมภาคเหนือ ขานรับโครงการ “รวมพลังแบ่งปันด้วยใจที่บริสุทธิ์” ขอมอบข้าวหุงสุกวิถีธรรมเป็นข้าวไร้สารพิษ แบ่งปันพี่น้องที่ขาดแคลนใน จ.พะเยา
แจกข้าวสารและข้าวหุงสุกให้กับชาวชุมชนที่ขาดแคลนใน อ.จุน เดินแจกตามบ้าน และร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเช่น ธกส. อ.จุน โรงพยาบาลอำเภอจุน และได้นำข้าวสารใส่ในตู้ปันสุขจ.ลำพูน
จัดกิจกรรมที่บ้านจิตอาสาอำเภอเวียงหนองล่อง แจกมะม่วงข้าววิถีธรรมหุงสุกให้ผู้เดือดร้อน จ.เชียงราย บำเพ็ญที่ ธกส.อ.เมือง โรงพยาบาลแม่ลาว รพ.สต.ดงเทพนิมิต นำข้าววิถีรรมหุงใส่กล่องแจกและมีผู้ร่วมบำเพ็ญน้ำเปล่า 500 ขวด มะไฟ 1 เข่ง และในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำโรงบุญแจกข้าว พืชผักไร้สารพิษ น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น ที่วัดศรีสุพรรณ ร่วมกับ จิตอาสาจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วย
ภาคกลาง
พี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม รวมพลังนำข้าวสารและของใช้จำเป็น ทำโรงบุญแจกในหลายพื้นที่ เช่นวัดเล่งเน่ยยี่ ศูนย์สร้างโอกาสเด็กครูเชาว์พระราม 8 ร่วมแบ่งปันกับสถาบันอาศรมศิลป์ และ ทำโรงบุญอาหารมังสวิรัติ แจกข้าวสาร ดอกเกลือ ให้กับชาวชุมชนหมู่ 8 ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
โดยจัดกิจกรรมหน้าสวนป่านาบุญ 9 มีพี่น้องจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมภาคกลางมาร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง บางท่านเตรียมผักบุ้งที่ปลูกเองมาแจกในงานวันนี้ด้วย ต่างสร้างความอิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
อาจารย์หมอเขียวได้ให้ธรรมะในโครงการนี้ว่า “รวมพลังแบ่งปันด้วยใจที่บริสุทธิ์” เป็นความเจริญของจิตวิญญาณที่มีคุณค่า และงดงามที่สุดในโลก เป็นความมีน้ำใจ เป็นความเจริญ เป็นความงดงามของจิตวิญญาณที่มาร่วมแบ่งปันกันด้วยใจที่บริสุทธิ์ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีมากก็แบ่งปันกันตามมาก มีปานกลางก็แบ่งปันตามปานกลาง มีน้อยก็แบ่งกันตามน้อย ก็จะทำให้ทุกชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ทำให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข
เป็นสัมมาทิฏฐิ คือ ความรู้ ความเห็น ความเข้าใจที่ถูกต้อง ที่สำคัญจำเป็นที่สุดข้อที่ 1 คือ ทานที่ให้แล้วมีผล (อัตถิ ทินนัง) คือ การให้ การแบ่งปัน การให้การเสียสละมีผลเป็นบุญ คือ การชำระกิเลสตัวโลภ ให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้รอยยิ้ม และคำขอบคุณ เป็นการ “ให้เพื่อให้” ตรงกับคำคมเพชรจากใจเพชรที่กล่าวว่า “ให้แล้วคิดที่จะไม่เอาอะไรจากใครให้ได้” ผลที่เกิดขึ้นทันทีจากการให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ คือ ความสุขใจ ความสบายใจ ความผาสุก ความผ่องใส ความไร้กังวล