2. บันทึกกลุ่มตัวอย่างจาก ผู้ใช้การแพทย์วิถีพุทธที่เป็นจิตอาสาแพทย์วิถีพุทธ
ระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2558
(ประเภทข้อมูลที่ 10 แบบบันทึกกรณีศึกษาของจิตอาสาและนักศึกษาแพทย์วิถีพุทธ และข้อมูลที่ 12 แบบสอบถามประสบการณ์การใช้แพทย์วิถีพุทธ เทคนิค 9 ข้อ)
กรณีศึกษาที่ | 2.25 |
ชื่อ | นางเอมอร แซ่ลิ้ม |
เพศ | หญิง |
อายุ | 45 ปี |
จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
โรค | โรคปวดศีรษะไมเกรน โรคมดลูกโต 9 เซ็นติเมตร |
อาการ | เลือดออกจากมดลูก |
วันสัมภาษณ์ | 2 ธันวาคม 2556 |
“ดิฉันป่วยเป็นไมเกรน เส้นเลือดสมองตีบเฉียบพลัน มักจะมีอาการปวดหัวรุนแรง จนมีผลกับระบบกล้ามเนื้อ บริเวณ ตา แขน ขา ปวดข้างขวา มีผลต่อระบบการพูด จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการก็ยังเป็น ๆ หาย ๆ จนได้รู้จักการแพทย์วิถีธรรมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 ได้ปรับสมดุลร้อนเย็นของร่างกายด้วยเทคนิค 9 ข้อ อาการที่เคยเป็นก็ไม่กลับมา”
อาการเจ็บป่วย เลือดออกจากมดลูก โรคที่เป็น มดลูกโต 9 เซ็นติเมตร เป็นมาประมาณ 3 ปี
มีก้อนเลือดออกจากในมดลูก มาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2556 ออกจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2556 เป็นเวลา 10 วัน
ดูแลตัวเองด้วยหลักแพทย์วิถีธรรม ปรับสมดุลร่างกายด้วยอาหารเป็นหลัก โดย ให้สังเกต ตัวเองว่า ร่างกายต้องการ ทานอาหารแบบไหน ซึ่งช่วง 10 วันแรกนั้น ร่างกายทานอาหารไม่ค่อยได้ เหม็นกลิ่นน้ำมัน ของทอด (ได้กลิ่นแล้วเวียนศีรษะ) รับประทานน้ำมะพร้าว น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น ผลไม้ และน้ำปัสสาวะ เป็นหลัก ช่วงแรก ๆ กลางคืนจะนอนไม่หลับ มีอาการหายใจไม่ค่อยออกในบางครั้ง วิธีแก้ไข ลุกขึ้นกดจุดลมปราณ และกัวซาในจุดที่รู้สึกไม่สบาย จะมีอาการง่วงนอนตลอดเวลาเนื่องจาก ออกซิเจนในเลือดน้อย มีอาการมึนศรีษะ
หากวันไหน ที่มีอากาศเย็นจะเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ วิธีแก้ไข กินน้ำอุ่น อาการดีขึ้น หลังจากประจำเดือนหมด ปัสสาวะในช่วงเวลากลางคืน รสชาติปัสสาวะชืด ไม่มีรสชาติ (ไม่อร่อย) กินไม่ลง (น้ำเปล่ารสชาติดีกว่า) แก้ไขด้วยการปรับอาหาร จากฤทธิ์เย็นเป็นฤทธิ์ร้อน รสชาติปัสสาวะดีขึ้น
อาการไม่สบายในช่วงแรกนั้น ร่างกายมีภาวะร้อนเกิน ไม่สามารถรับประทานอาหาร น้ำมัน ของทอด ของเผ็ด มันได้ กินผลไม้เป็นหลัก หลังจากอาการดีขึ้น เริ่มมีอาการหอมข้าว หอมกระเทียม เริ่มทานอาหารได้ ทานผักบุ้งแล้วไม่อร่อย กินไม่ลง เลยทดสอบปรับเปลี่ยนอาหารมาเป็นอาหารฤทธิ์ร้อน เช่น อาหารที่ทำมาจาก กระเพรา ขมิ้น มะกรูด ตะไคร้ รู้สึกทานได้ดี มีพลังมากขึ้น จากการสังเกตุตัวเอง หากวันไหนตื่นมาตอนเช้าแล้วเกิดอาการเกร็งข้อมือ (เหมือนมือชา) ฝ่ามือครึ่งบน จะเหลืองซีด และเริ่มมีอาการเจ็บปลายนิ้ว (ชี้ กลาง นาง) พอรับประทานอาหารฤทธิ์ร้อน ฝ่ามือแดงขึ้น ฝ่ามือด้านบน สีเป็นปกติ ขูดกัวซาเพื่อให้เลือดลมไหลเวียน (เป็นการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว)
ผลตรวจเลือดที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ
วันที่ | Hct เม็ดเลือด Female 37-47 | W.B.C เม็ดเลือดขาว 5,000-10,000 | Platelet count เกล็ดเลือด 140,000-400,000 |
04/04/56 | 18.7 | 4,400 | 270,000 |
17/04/56 | 19.8 | 5,000 | 280,000 |
25/06/56 | 23.3 | 7,300 | 395,000 |
จากอาการที่เป็นดังกล่าว ร่างกายมีอาการเพลีย เดินขึ้นบันได ทำงานออกแรงมาก จะมี เหนื่อยหอบ แต่พลังชีวิตดี เมื่อได้นอนพัก อาการดังกล่าวก็จะดีขึ้น ปัจจุบัน เดินขึ้นบันได ทำงานออกแรง ไม่เหนื่อยหอบ พลังชีวิตดี ยกเว้น วันที่มีประจำเดือนมา จะมีอาการเพลีย ลุกไม่ค่อยขึ้นแต่หากได้รับประทานผลไม้ อาการจะดีขึ้น
สรุปเทคนิคที่ใช้ คือ 1. ทานน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสด /น้ำปัสสาวะ 2. ออกกำลังกาย กดจุดลมปราณ 3.ปรับสมดุลด้วยอาหารตามร่างกาย ณ. เวลานั้น ๆ บางวันก็ทานฤทธิ์ร้อน บางวันก็ทานฤทธิ์เย็น 4.ขูดกัวซา 5.ดีท๊อกซ์บ้างเป็นบางครั้ง 6. พักผ่อนให้เพียงพอ (รู้เพียร รู้พัก)
อาการไม่สบายนิ้วช้ำบวม
เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2556 เกิดอาการนิ้วโป้ง ช้ำบวมเล็บสีดำ แก้ไขตัวเองด้วยการพอกดินที่นิ้ว ดินแห้งเร็วมากในวันที่ พอก และรู้สึกปวดแผลเหมือนตุ๊บ ๆ นิ้วมีถุงน้ำ ในวันที่ 4 กรกฏาคม 2556 เจาะถุงน้ำที่นิ้วโป้งเอาน้ำเหลืองและเลือดเสียออก อาการปวลดลง วันที่ 5 กรกฏาคม สีเล็บดีขึ้น หนังที่ตัดแห้งขึ้น ทำการพอก ซ้ำ นิ้วโป้งแห้งไม่ช้ำวันที่ 7 กรกฏาคม 2556