บวบหอมมีฤทธิ์เย็น
บวบมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Luffa cylindrica (L.) Roem วงศ์ Cucurbitaceae บวบเป็นพืชที่ชอบขึ้นในแถบเอเซียอาคเนย์ และแพร่เข้าไปในจีนในราชวงศ์ถังหรือซ่ง
ชื่อสามัญคือ Smooth loofah ผลอ่อนสีเขียวมีลายเขียวเข้ม ผลแก่สีเขียวออกเหลืองจนถึงสีน้ำตาล มีเส้นใยเหนียว ลักษณะเป็นร่างแห การปลูกบวบหอมสามารถหยอดเมล็ดลงในแปลงปลูกโดยตรง เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 10-14 วัน ถอนแยกให้เหลือต้นที่สมบูรณ์ ระยะปลูก 40-90 x 60-90 ซม. ใช้ปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายแล้วใส่ก้นหลุมก่อนปลูก บวบหอมจะเลื้อยทอดยอดที่อายุ 15-20 วันหลังหยอดเมล็ด ทำค้างเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้เพื่อให้เถายึดเกาะ บวบหอมจะเริ่มออกดอกที่อายุ 42-70 วันหลังหยอดเมล็ดและเริ่มเก็บเกี่ยวผลอ่อนที่อายุ 63-91 วันหลังหยอดเมล็ด
สรรพคุณบวมหอม
คุณค่าทางอาหารในส่วนที่รับประทานได้ของบวบหอม 100 กรัม ประกอบด้วย พลังงาน 85 กิโลแคลอรี น้ำ 93 กรัม โปรตีน 0.6-1.2 กรัม ไขมัน 0.21 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4-4.9 กรัม แคลเซียม 16-20 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 24-32 มิลลิกรัม เหล็ก 0.4-0.6 มิลลิกรัม และวิตามินซี 7-12 มิลลิกรัม ผลอ่อนมีสรรพคุณแก้ร้อนใน ลดไข้ ขับน้ำนม ขับปัสสาวะ แก้เลือดออกตามทางเดินอาหาร แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
- ราก น้ำต้มราก กินเป็นยาระบาย
- ใบ ใบอ่อนกินได้ น้ำคั้นใบสด เป็นยาขับระดู ฟอกเลือด ส่วนน้ำต้มใบ ใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะอื่น ๆ ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และแก้ปัสสาวะเป็นเลือด ; ตำเป็นยาพอก แก้อาการบวมอักเสบและฝี
- ผล ผลอ่อนกินได้ เป็นยาระบาย ขับลม ขับน้ำนม และแก้อาการเลือดออกตามทางเดินอาหาร และจากกระเพาะปัสสาวะ
- เมล็ด กินเป็นยาทำให้อาเจียน และเป็นยาระบาย
ประโยชน์ของบวบในทรรศนะจีน
- ใบ รสขมเปรี้ยว คุณสมบัติเย็นเล็กน้อย สรรพคุณดับร้อนถอนพิษ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้อักเสบ น้ำจากใบสดใช้ทาแก้กลากบนหัว ใบตากแห้งบดเป็นผงใช้ห้ามเลือด
- ผล รสหวาน คุณสมบัติเย็น สรรพคุณ ดับร้อนถอนพิษ ทำให้เลือดเย็น
- เถา ทะลวงเส้นลมปราณ แก้ไอ ขับเสมหะ
- เมล็ด รสขม หวานเล็กน้อย คุณสมบัติไม่ร้อนไม่เย็น สรรพคุณ ดับร้อนถอนพิษ ขับเสมหะ ช่วยระบาย เมล็ดบวบเมื่อนำไปคั่วให้ดำ จะมีสรรพคุณยับยั้งพยาธิ
- รังบวบ รสหวาน คุณสมบัติไม่ร้อนไม่เย็น สรรพคุณ ดับร้อนถอนพิษ ทะลวงเส้นลมปราณ ขับปัสสาวะ ลดอาการบวม
- ราก แก้แผลเน่าเปื่อยอักเสบ (ใช้รากต้มน้ำล้างแผล จะทำให้แผลหายเร็ว)