การทำโคกหนองนา พวธ. (แพทย์วิถีธรรม) มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ อาจารย์ได้พัฒนาเพอร์มาคัลเจอร์ บารายคัลเจอร์ ทำแปลงพอเพียง ทำคลองไส้ไก่ ทำร่องน้ำ พัฒนามาเรื่อย ๆ และทดลองปลูกว่าได้ไหม ถึงวันนี้เป็นเนินพอเพียง เป็นโคกหนองนา พวธ. (แพทย์วิถีธรรม) ที่สมบูรณ์แล้ว
โคกหนองนา พวธ. มีอาหารครบทุกอย่างในจุดเดียวกัน
วิธีการทำโคก
- เอาอินทรียวัตถุสดหรือแห้ง เช่น วัชพืชสด เศษอาหาร กิ่งไม้ใบไม้สดแห้ง เอามากองรวมกันให้หนาประมาณ 1 ฟุต กว้างยาวประมาณ 1-2 เมตร จากนั้นขุดดินถม ความสูงของดินประมาณ 1 คืบ ประยุกต์ตามพื้นที่
2. ขุดหลุมตรงกลาง 1 หลุม เพื่อปลูกพืชหลัก รอบ ๆ หลุมปลูกพืชหมุนเวียนอายุสั้น อีก 4-5 หลุม ปลูกพืชหลากหลายในระยะห่างที่พอดี ที่พืชเจริญเติบโตด้วยกันได้ดี ใส่อินทรียวัตถุ สดหรือแห้ง เช่น วัชพืชสด เศษอาหาร แหนแดงรองก้นหลุม
3. โคกเราก็จะปลูกพืชหลัก เช่น มะละกอ ต้นกล้วย แซมด้วยแก้วมังกร ปลูกถั่วหลากหลายชนิด ปลูกผักที่เราจะกินจะใช้ ก็จะทำให้มีอาหารครบหมดทั้ง 5 หมู่ ถั่วเป็นโปรตีน ไขมัน ข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรต ผักผลไม้ก็มีวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ธาตุอาหารครบ ที่เดียวครบเลย
วิธีการทำหนองนา
- นากว้างยาว ประมาณ 1-2 เมตร ใส่อินทรียวัตถุสดหรือแห้ง เช่น กิ่งไม้ใบไม้ เศษอาหาร ขุดดินถมความสูงของดิน 1 คืบ
2. มีน้ำ ให้เปิดน้ำใส่ เหยียบให้อินทรียวัตถุจมลงไปในตม ให้เป็นดินตมที่ไม่เละจนเกินไป เตรียมแปลงไว้ 1-3 วัน
3. เกลี่ยหน้าดินให้เสมอกัน รอให้ดินอยู่ในสภาพที่ไม่เละเกินไป จึงหว่านเมล็ดข้าว การเตรียมเมล็ดข้าวเพื่อหว่าน นำเมล็ดข้าวใส่กระสอบแล้วนำไปแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้ 1-2 วัน ยกกระสอบขึ้นจากน้ำให้แห้ง ทิ้งไว้ 3 วัน เมล็ดข้าวจะงอกรากออกมาดี
4. นำเมล็ดข้าวที่เตรียมไว้ไปหว่าน ให้เมล็ดข้าวจมลงไปในตมลึกประมาณ 1-3 มิลลิเมตร จากนั้นหว่านแหนแดงลงไปคลุมเมล็ดข้าว เพื่อไม่ให้รากของข้าวถูกแดดเผา และให้รากข้าวจมลงในแปลงได้ดีขึ้น แหนแดงเป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับต้นกล้า กล้าข้าวจะงอกได้ดี ถอนกล้าได้ง่าย ประมาณ 1 เดือนก็สามารถเอาต้นกล้าข้าวไปปักดำนาได้
5. ขุดร่องข้าง ๆ เพื่อให้มีน้ำวิ่งรอบ ๆ เพื่อให้น้ำหล่อเลี้ยงพืช นาก็จะเป็นหนองอยู่ในตัว เป็นหนองนาใช้สำหรับปลูกข้าว ปลูกพืชน้ำ จะเป็นนาเล็ก ๆ สลับไปกับโคก ส่วนที่เป็นโคกกับนาจะสลับกันไป
คนไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องยนต์กลไกอะไรที่มาก ก็ใช้มือทำ พวกเราก็ใช้มือทำ ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่ต้องประหยัด เงินทองก็หายาก เครื่องยนต์กลไกก็หายาก ก็ใช้เรี่ยวใช้แรงใช้มือเราทำ และก็สามารถปลูกได้หลายอย่าง เราปลูกแก้วมังกรข้าง ๆ ต้นกล้วย ไม่ต้องไปหาเสาให้ยุ่งยาก เอาต้นกล้วยเป็นเสาของแก้วมันกร ถ้าต้นกล้วยได้ผลแล้ว เราก็ตัดเครือไปกิน แล้วก็ได้ต้นเสาสำหรับแก้วมังกร เป็นเสาถาวรด้วย แล้วเขาก็จะงอกต้นใหม่ออกมาอีก ต้นกล้วยก็เป็นเสาให้แก้วมังกรไปเรื่อย ๆ เขาจะขึ้นไปด้วยกัน
อาจารย์เคยปลูกถั่วฝักยาวข้างต้นกล้วย เขาเลื้อยขึ้นไปบนต้นกล้วยไม่ต้องทำร้านเลย เก็บมากินได้เลย สบายมาก มะละกอก็ปลูกใกล้ ๆ ต้นกล้วยได้ ห่างสัก 1 เมตร ถ้าดินดี ๆ ปลูกใกล้ ๆ กันได้เลย (ถ้าดินไม่ดีปลูกใกล้ ๆ จะแย่งอาหารกัน) แล้วก็ปลูกถั่ว ห่างกันสัก 1 คืบ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง หรือจะปลูกถั่วแป๋ให้เลื้อยขึ้นต้นกล้วยก็ได้ ถั่วฝักยาวไร้ค้าง วอเตอร์เครส อ่อมแซบ ผักหวานบ้าน เราออกแบบได้ว่าจะปลูกอะไร เพียงแต่ว่าอย่าให้พันกันมาก อย่างฟักทองถ้านำมาปลูกก็จะคลุมเพื่อนไปหมด ฟักทองก็ให้ปลูกแยกต่างหาก บวบก็เลื้อยขึ้นต้นกล้วยได้
เรามีต้นกล้วย ชงดินดี ๆ เอาอินทรียวัตถุใส่ แหนแดงใส่ดี ๆ จะปลูก ถั่วแป๋ บวบ มะระหวาน หรือฟักแม้ว ชมจันทร์ ดอกขจร (ดอกสลิด) เลื้อยขึ้นต้นกล้วยได้หมดเลย เลือกเอาดูเอาว่าจะปลูกอะไรได้แค่ไหนที่จะเข้าไปเก็บได้ ไม่ยากไม่ลำบากนัก วางแผนเอา อะไรที่ขึ้นด้วยกันลำบากมันคลุมกันมากเกินไปก็หลีกเลี่ยง ทำไปปรับไปเราจะมีปัญญาไปเรื่อย ๆ พยายามปลูกพืชที่กินได้นาน
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
27 พฤษภาคม 2564
ณ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ ตำบลป่าแป๋ อำภอแม่แตง
จังหวัดเชียงใหม่