ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัสว่า ดินไม่ดีอย่างไรก็ช่าง ให้ใส่ปุ๋ยหมัก คือ อินทรีย์วัตถุลงไป อินทรีย์วัตถุ เช่น วัชพืชสดหรือแห้ง ต้นกล้วยสับ เศษอาหาร ใส่ลงไปในดิน
คลุกดินกับอินทรีย์วัตถุให้เข้ากันและตีแปลงขึ้นมา ยกแปลงขึ้นมาให้สูงพอประมาณ ปล่อยน้ำเข้ามาและทำเป็นร่องด้วย ทำเป็นร่องสลับไปสลับมา ให้น้ำวิ่งได้หมด ยกแปลงสูงขึ้นมาแล้วทำร่องให้ เวลาเปิดน้ำเข้ามา ระดับน้ำให้ต่ำกว่าระดับสูงสุดของแปลงประมาณ 5 เซนติเมตร ให้น้ำไหลเวียนตลอด ตรงไหนที่ดินต่างระดับ น้ำจะเริ่มไหลแรง ถ้าตรงไหนน้ำไหลแรง เราจะทำร่องขึ้นมา เรียกว่า “ทางน้ำ”
1. ร่องระหว่างแปลงที่เราทำไว้ จุดก่อนกระแสน้ำแรง คือจุดที่เสมอกัน เราต้องเอาดินคั่นไว้ เอาพลาสติก หรือ กระสอบ คั่นหรือปู
2. ตัดขนาดของกระสอบหรือถุงพลาสติกให้พอเหมาะพาดเป็นรูปตัว U หรือตัว V แล้วเอาดินที่เปียกๆ มาแปะๆ ทั้งด้านข้างและหัวท้ายกดลงไปให้ดินยึดพลาสติกหรือกระสอบคลุมดินขึ้นมาให้สูง เท่าที่จะกั้นน้ำได้
3. เปิดน้ำใส่ร่องระหว่างแปลง ระดับน้ำให้ต่ำกว่าระดับสูงสุดของแปลงประมาณ 5 เซนติเมตร แล้วทำพลาสติกคลุมไปเรื่อยๆ ทำเสร็จปลูกพืชได้เลย วิธีนี้ช่วยลดการกัดเซาะของดินที่ทางน้ำไหลผ่าน ทำให้น้ำที่ต่างระดับมีน้ำพอเพียงเสมอกัน การกระทำแบบนี้ ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ดินมีความชุ่มชื้น
แล้วเราก็มาดูน้ำเป็นระยะๆ
การทำงานก็มาดูเป็นระยะๆ มันก็จะมีข้อบกพร่อง คนเราจะมีวิบากร้าย มีวิบากดี ที่จะเสริมหนุนให้เกิดสภาพดีๆ แล้วเราก็จะมาเห็นวิบากร้ายที่เขาจะทำให้เกิดความพร่องขึ้น เขาจะพร่องแง่นั้นเชิงนี้
เราก็มาดูมาปรับ แล้วก็ทำกรรมใหม่ให้ดี เดี๋ยวมันก็จะเห็นข้อพร่องเอง โลกนี้พร่องอยู่เป็นนิจ มันจะมีวิบาก คนเราต่อให้ทำดีขนาดไหนก็จะข้อพร่องแง่นั้นเชิงนี้ ก็เป็นวิบากเก่าที่เราต้องชดใช้ไป แต่วิบากใหม่ก็ทำให้มันดี ปรับปรุงใหม่ พร่องตรงไหนก็ปรับปรุงไปเรื่อยๆ มันก็จะเกิดสภาพที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
2 พฤศจิกายน 2563
พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ติดตามข้อมูลรายละเอียด วิชาทำทางน้ำในนาแปลงเล็ก เพิ่มเติมได้ตาม link ด้านล่าง
https://www.facebook.com/groups/1627870050835020/permalink/2741812842774063/