ระหว่างความรู้สึก กินอร่อยๆ ทั้งวัน กับอิ่มสบายทั้งวัน
อิ่มสบาย มันสบายกว่านะ
ต่อให้มันอร่อย แต่ไม่อิ่มสักที หิวๆๆ กับอิ่มสบาย
อิ่มสบาย มันสบายกว่าจริงๆ
ไม่ใช่สภาพอยากๆๆ ต่อให้สุขที่มันได้สมใจ แต่มันยังไม่อิ่ม
อาหารนี้อร่อย แต่ยังไม่อิ่ม มันไม่สบาย
อาหารนี้ไม่อร่อย แต่อิ่มสบาย
เป้าหมายสูงสุดของคนอยู่ตรงนี้ คือ อิ่มสบาย
แต่กิเลสมันจะมาหลอกๆๆ ว่าเป็นสุข
แต่ใจมันไม่อิ่มสบาย ไม่เป็นสุข
อย่างเราจะอยากได้อะไรมาๆๆ ก็คิดว่าจะเป็นสุข มันจะอิ่มจะสบาย
มันได้เรื่องนี้ แล้วจะเป็นความสุข แล้วมันจะพอ
เคยได้มา มันก็อิ่มแล้วมันก็สบาย แต่คราวหน้ามามันก็อยากอีก
มันก็อิ่มไม่รู้จักพอ อยากอีกก็หิวอีก
คนไม่รู้วิธีที่สงบสบายแบบยั่งยืน คือ ต้องกำจัดกิเลสได้ เราก็ไม่ต้องไปอยาก ก็สบาย ไม่ต้องไปเสียพลัง ไปเหนื่อย
เขาก็อิ่มสบายแบบไม่ยั่งยืน อยากไปอีกๆๆ อิ่มสบายชั่วคราว ก็อยากไปอีก ไม่รู้จบ ในทางพุทธะรู้จักกำจัดกิเลส อิ่มสบายยั่งยืน
ที่เสพ ก็ไม่ได้เสพไปเพื่ออะไร
คนเราลึกๆ แสวงหาความพอนะ
แต่วิธีการหา แสวงหาความพอที่ไม่รู้จักพอ
ลึกๆ รู้ว่ามันเป็นสุข แต่มันไม่รู้จักพอ
มันพอแล้ว แต่ไม่พอยั่งยืน
แม้เรื่องนั้นหายไปได้ ก็ยังอยากหามาดูแล
ลึกๆ แต่ละวันคนหาความพอ
ระหว่างหาความอร่อยกับความอิ่ม
คนทั่วๆไป ให้ค่าอะไรมากกว่ากัน
คนมีกิเลส เอาทั้งสองอย่างแน่
ระหว่างกินให้มันอร่อย กับกินให้รู้จักพอ
ถ้ายังไม่ลดกิเลส เอาทั้งสองอย่างแน่
แต่ลึกๆ ในใจ เอาอิ่มนั้นมันสำคัญกว่าอร่อย
แต่อร่อยด้วยก็ดี
แต่เป้าหมายสูงสุดจบแล้ว ต้องการความอิ่มไว้
คนทั่วไป เขาต้องการความอิ่ม แต่ได้อร่อยด้วยก็ดี
คนไม่ลดกิเลส บางครั้งอาหารถูกปาก แต่ไม่ถูกใจเขา แต่เขากิน กินเพื่อให้มันอิ่ม เพราะความหิวมันทรมาน เขาเลยให้มันอิ่ม
จริง ๆ ชีวิตแท้ๆ ต้องการความอิ่ม ความพอ ความสงบ ความไม่ทรมาน
แต่ว่า เขาไม่ได้สิ่งนี้ไปตลอดเท่านั้น ใจเขาได้แค่ชั่วคราว ระงับอีก หมดไป ก็อยากได้อีก
คนเราต้องการความอิ่มความสงบความสบาย
ด้านจิตใจ สามารถอิ่มได้ตลอดเวลาได้
ถ้ารู้จักพุทธะ สามารถได้ความอิ่มได้ตลอดเวลา
แต่คนทางโลก เขาได้ความอิ่มชั่วคราว
สุขปลอมก็ไม่ได้ดีไปกว่าความอิ่มหรอก
ลึกๆ มนุษย์ต้องการหยุดความทรมาน เขาอยากได้ เขาทรมาน
ลึกๆ เขาอยากหายทรมาน ให้ความทรมานระงับไป ถูกบำบัดไป
วิธีการของเขา มีวิธีเดียว คือ เอามาตอบสนอง ตอบสนองแล้วมันเป็นสุข ก็หายไป ก็ไปหลงเป็นสุข ซ้อนเข้ามาอีกทีเลย
ทำไปเรื่อยๆ มันกลายเป็นติด 2 สุข เลย คือ สุขเวทนา และอกมทุกข์อกมสุข
ลึกๆ จริงๆ ใจมันมีทั้งความอิ่มความพอ
เรียนรู้การลดกิเลส คนร้ายคนชั่วจะได้ลดลง
ไปตามใจกิเลส ไม่รู้จักลดละเลิก จะมีแต่คนชั่ว และทำร้ายได้มากขึ้น
น่ากลัว อาจารย์ไม่เห็นอะไรน่ากลัวกว่ากิเลส
กิเลส มันน่ากลัว เอาหอกแทงวันละ 300 เล่ม 1,000 เล่ม
กิเลสมันน่าเกลียดน่ากลัวจริงๆ เอาให้มันตายเลย
ความคิดกิเลส น่าฆ่าให้ตายจริงๆ คนไม่รู้กิเลส ก็หลงเสพทุกวัน ๆ คนไม่ดี ก็มากขึ้นทุกวัน
คนก้าวร้าย เลวร้าย มากขึ้นทุกวัน
นี้คือ ความไม่สำรวม ไม่เรียบร้อย มันสนองกิเลส มันก้าวร้าว ไม่เรียบร้อย
กิเลสมันไม่สงบเสงี่ยม ไม่งดงาม ไม่ดีงาม ไม่มีคุณค่าอะไรเลย มีแต่ความเลวร้าย
คนเอาแต่ใจตัวเอง มันน่าเกลียดจริงๆ ตรวจดีๆ
น่าเกลียดจริงๆ เอง ยังอยู่กับข้าหรือ
มันตัวเรานั้นแหละ
มันน่าเกลียดจริงๆ
พ่อครูฯว่า เอาแต่ใจตัวชั่วโดยอัตโนมัติ
จะได้รีบตรวจสอบ ตัวก้าวร้าว ตัวไม่พอ ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ ตัวสุขปลอมทุกข์จริง
อธิบายเทวดาจาตุมหาราช
เทวทูตสูตร
เทวทูตมี 5 เกิด แก่ เจ็บ ร้าย ตาย
มาเตือนตัวเรา เตือนผู้อื่น ให้รีบเพิ่มศีลให้ได้ จะพ้นทุกข์ได้
โดยเฉพาะจิตวิญญาณที่ไร้ทุกข์ได้
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า อะไรที่ไม่แน่ใจ ก็ไม่ต้องไปกินไปใช้
ไม่ประมาท
ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่กินแล้วสบายก็มีจริง สิ่งที่กินแล้วไม่สบายก็มีจริง ก็ไม่ประมาท
630525_ธรรมะพาพ้นทุกข์
ดร.ใจเพชร กล้าจน
25 พฤษภาคม 2563
อาคารดอยฟ้า พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ
13.00-17.00 น.
ติตตามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=ISHK_wxPlnA