ไฮไลท์ #หลงคบคนชั่วเป็นมิตร คนดีเราก็หลงว่าเขาเป็นคนไม่ดี คนไม่ดีเราก็หลงว่าเขาเป็นคนดี มันไม่ซวยเหรอชีวิต พระพุทธเจ้าบอกอย่าคบคนชั่วให้คบคนดี เสร็จแล้วเราก็หลงว่าคนดีอ่ะไม่ดี แล้วก็หลงว่าคนไม่ดีนี่ดี แล้วเป็นยังไงทีนี้ ตกลงได้คบคนดีหรือคนชั่ว ก็ได้คบคนชั่วเท่านั้นแหละ
#เพราะหลงว่าคนดีนี่เป็นคนชั่ว เราเลยไม่คบแล้วหลงว่าคนชั่วนี้เป็นคนดี ไอ้เราก็ว่าจะไม่คบคนชั่วแต่เราไปหลงว่าเขาเป็นคนดี แล้วยังไงล่ะคบใครล่ะ คบคนชั่ว แค่นี้ก็ซวยแล้วชีวิต แค่นี้ก็ซวยแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ไม่รู้จะซวยยังไงแล้ว
เมื่อกี๊อาจารย์พูดถึงวิบากของ พาลบัณฑิตสูตร ในข้อแรก ถูกว่าๆแล้วก็ถูกให้ข้อมูลจากเหตุการณ์ที่ผิดๆ ที่มันเป็นโทษ ให้ข้อมูลผิดๆให้เราคำนวณผิด ให้เราประมาณการกระทำที่มันเป็นผลเสียต่อเรา ให้เราทำสิ่งที่มันเป็นผลเสียต่อเรา มันโหดจริงๆเลยนะวิบากมันให้ข้อมูลผิด
เสร็จแล้วเขาทำให้เรากลัวเรื่องร้ายเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะอะไร ทำไมถึงกลัวเรื่องร้าย วิบากข้อที่ 2 กลัวเรื่องร้ายเพราะอะไร เพราะกิเลส กิเลสมันอยากได้สุขใช่ไหม ไม่อยากได้ทุกข์ใช่ไหม เรื่องร้ายนี่มันทำให้ทุกข์ใช่ไหม มันไม่อยากได้มันอยากได้แต่สุขมันไม่อยากได้ทุกข์ มันไม่อยากได้ทุกข์มันกลัว กิเลสมันกลัวทุกข์
มันชอบสุขมันเกลียดทุกข์ มันกลัวทุกข์ มันชอบเรื่องดีเพราะเรื่องดีนี่มันรู้สึกเป็นสุข สภาพดีๆสภาพสมใจ ชังเรื่องร้ายๆ มันเป็นทุกข์ มันเป็นอย่างนี้เพราะฉะนั้นมันจะกลัว เห็นไหมวิบากข้อที่ 2 มันจะกลัว ถ้ายังพอกกิเลสอยู่ มันจะเจออันนี้ตลอดกาล เจออันนี้ตลอดกาล
อันที่ 3 เป็นยังไง วิบากอันที่ 3 คือเวลาเจอเรื่องร้ายแล้วทุกข์แรง ทำไมทุกข์แรงล่ะ เพราะมันมีพลังงานพลังงานของกิเลสนี่มันเป็นมันชนิดนี้อาจารย์ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว มันมีฤทธิ์แบบนี้มันมีพิษแบบนี้ มันมีพิษทุกข์นี่แหละ พิษกลัวพิษทุกข์นี่แหละมันจะทุกข์แรงเลยเวลาเจอเรื่องร้าย แตะเปรี้ยงออกอาการเลย
มันเป็นพลังงานที่สร้างความรู้สึกทุกข์ให้กับชีวิต ทุกข์ทรมานแรงกลัวแรงหวั่นไหวแรง ทุกข์แรงหดหู่แรง อึดอัดแรง โอ๊ยทรมานแรง มันเป็นตัวทรมานที่แรงกิเลสเป็นตัวทรมานที่แรง เมื่อเจอสภาพที่ไม่ถูกใจสภาพที่สภาพไม่พอใจหรือสภาพที่ร้ายๆ มันจะเป็นตัวทรมานที่แรง
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่ามันเหม็นมาก มันเหม็นมากทั้งคือเหตุการณ์มันก็ไม่ดี กระแทกเข้ามาปุ๊บทรมานแรงทันทีเลย มันเป็นตัวทรมานทรมานจริงๆ มันเป็นตัวจริงเสียงจริงของความทรมานเลย มันมีความสามารถในการสร้างความรู้สึกทรมานให้กับตัวเอง ให้กับเรา แล้วสามารถสร้างให้เรารู้สึกว่าเป็นเราทั้งๆที่จริงเป็นมัน แต่มันสามารถสร้างให้รู้สึกว่าเป็นเราได้
แต่ถ้าเรากำจัดมันได้หมดนะทุกข์เข้ามาขนาดไหนเรื่องร้ายเข้ามาขนาดไหนเปรี้ยงๆๆเข้ามา หายไปเลยไม่เห็นมีทุกข์เลย ไอ้หย่า มันหลอกเรานี่หว่าว่ามันเป็นเราเราเป็นมัน ถ้าเรากำจัดมันได้จริงนะ จะร้ายขนาดไหน เปรี้ยงๆๆเข้ามาขนาดไหน ไม่สะดุ้งสะเทือนไม่หวั่นไหว ไม่มีไม่มีทุกข์นั้นเลย อย่างนี้เป็นต้น
มันหลอกเราว่ามันเป็นเราเราเป็นมัน มันหลอกได้เก่งขนาดนั้น แล้วสร้างความรู้สึกให้เราทุกข์ตามมันไปได้ นี่ตราบใดที่มันยังอยู่มันจะมีฤทธิ์อย่างนี้ มันจะมีฤทธิ์อย่างนี้ เพราะฉะนั้นมันร้ายมาก อาจารย์ยังไม่เห็นอะไรที่ร้ายขนาดนี้
เพราะฉะนั้นนี่กิเลสมันจึงเป็นวิบากร้าย กิเลสคือตัวได้สมใจสุขใจไม่ได้สมใจทุกข์ใจ จึงเป็นวิบากร้ายตัวจริง ตัวจริงเสียงจริง ถ้าใครยังเหลืออันนี้อยู่นี่ ยังจะเหลือความหวั่นไหวในชีวิตอยู่ เหลือความกลัวกังวลระแวงหวั่นไหว เราจะได้นรก 3 อันนี้
อาจารย์ว่ามันซวยบรมมาซวยแล้วนะ วิบากร้าย 3 ประเด็นนี้ก็ ในปัจจุบันน่ะ ส่วนตายไปนั้นหนักกว่านั้นท่านว่าอย่างนั้น ตายไปหนักกว่านั้นอีกท่านบอกเฉพาะในปัจจุบัน จะได้รับวิบากร้าย 3 ข้อ อาจารย์ว่าวิบากร้าย 3 ข้อมันก็ซวยบรมซวยแล้ว แค่ข้อแรกข้อเดียวนี้อาจารย์ก็ว่าซวยชิบหายเลย ซวยชิบหายเลย ไฟฉายมีก็บอกว่าไม่มี ปัดโธ่เอ๊ยมันก็มันอยู่ตรงนี้ คลำหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ก็ไม่ได้ใช้ อย่างนี้เป็นต้น
คนดีเราก็หลงว่าเขาเป็นคนไม่ดี คนไม่ดีเราก็หลงว่าเขาเป็นคนดี มันไม่ซวยเหรอชีวิต พระพุทธเจ้าบอกอย่าคบคนชั่วให้คบคนดี เสร็จแล้วเราก็หลงว่าคนดีอ่ะไม่ดี แล้วก็หลงว่าคนไม่ดีนี่ดี แล้วเป็นยังไงทีนี้ ตกลงได้คบคนดีหรือคนชั่ว ก็ได้คบคนชั่วเท่านั้นแหละ
เพราะหลงว่าคนดีนี่เป็นคนชั่ว เราเลยไม่คบแล้วหลงว่าคนชั่วนี้เป็นคนดี ไอ้เราก็ว่าจะไม่คบคนชั่วแต่เราไปหลงว่าเขาเป็นคนดี แล้วยังไงล่ะคบใครล่ะ คบคนชั่ว แค่นี้ก็ซวยแล้วชีวิต แค่นี้ก็ซวยแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ไม่รู้จะซวยยังไงแล้ว
อาจารย์ ดร.ใจเพชร กล้าจน
วิชชาธิการบดีสถาบันวิชชาราม
ให้โอวาทนักศึกษาวิชชาราม
11 มิถุนายน 2563
ณ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ
ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โอวาทจากอาจารย์หมอเขียวถึงลูกศิษย์
ยูทูป: https://youtu.be/eWy_aB_A-bw