ทำความดีไป ลดกิเลสไป ช่วยเหลือผู้อื่นไป แล้วจะเห็นปาฏิหาริย์
รายการธรรมะพาพ้นทุกข์ นำธรรมะมาปฏิบัติในเหตุการณ์ปัจจุบัน ทุกข้อปัจจุบัน นี้เป็นการนำธรรมะจากพระพุทธเจ้า ที่ท่านตรัสรู้ ว่าท่านปฏิบัติอย่างไร ในแต่ละสถานการณ์ ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
สถานการณ์โควิด ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ผลก็ออกมาที่โควิดนี้แหละ ผลปรากฏว่า ตอนนี้ทั่วโลก ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทะลุ 6 ล้านรายแล้ว
เวลาไปเสพกิเลส หรือคิดอยากเสพ มันก็หมดแรงแล้ว ไม่ได้ดั่งใจ มันหมดแรง ทำไม่ดีได้ทุกเรื่อง หมั่นพิจารณาซ้ำ ๆ ว่านี้เป็นทุกข์ทั้งมวล ไม่มีสุขเลย อยากนี้ เป็นทุกข์ นำทุกข์ใจ ทุกข์กาย และเรื่องร้ายทั้งมวลมาให้ ฉะนั้นเวลาเสพกิเลสมา รับผลร้ายได้ทุกเรื่อง เขาทำร้ายได้ทุกเรื่องที่คิดจะทำ ไม่มีอะไรต้านทานได้ ส่วนวิบากดี เขาจะกันดีไม่ได้ กันอย่างไรก็ไม่อยู่ เมื่อเขาจะออกฤทธิ์ ร้ายเข้ามาไม่ได้ ทำความดีไป ลดกิเลสไป ช่วยเหลือผู้อื่นไป แล้วจะเห็นปาฏิหาริย์ ทำไปปรับไป ให้ข้อมูลกัน แบ่งปันกัน ใจไร้กังวล
การสื่อสารธรรมะ
การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการสื่อสารธรรมะออกไป ช่วยเหลือผู้คน ที่จะทำได้ นี้เป็นบารมีที่จะทำได้แต่ละท่าน ไม่มีอะไรดีที่สุดเท่าธรรมะแท้ ฉะนั้น ก็เอาธรรมะแท้ไปปฏิบัติให้ผาสุกให้ได้ การปฏิบัติทางโลก เคยรู้มาแล้ว ส่วนที่กำจัดกิเลสได้ เราจะไม่กลับไปอีกเลย เพราะเรามีปัญญารู้ แต่ส่วนที่ยังกำจัดไม่ได้ เรายังไม่รู้ว่า สุขที่หาที่เปรียบไม่ได้ มันเป็นอย่างไร พลังผาสุกที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สุขที่ไม่มีอะไรเปรียบได้ คือ นัตถิอุปมา ไม่มีสิ่งใดเทียมเท่า
ทำได้ ก็ทำ ไม่ต้องเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อนทำไม? ต้องเดี๋ยวนี้สิ จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร ทำดู ว่านิพพานแท้เป็นอย่างไร สูงสุดแท้เป็นอย่างไร รีบปฏิบัติเลย ดีเยี่ยมเลย โดยเฉพาะการพิจารณาทุกข์โทษภัย ให้ได้ ว่ามันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ ไม่ใช่สุข แล้วมันทุกข์ทั้งหมดทั้งมวล โดยเฉพาะเมื่อคราวอยากเสพมา ให้พิจารณา ทุกข์กิเลสเอาให้เต็มรอบเลย
เอาให้ซ้ำ ๆ เลย มันจะสลายเมื่อไรก็ช่างมัน หมั่นพิจารณามันไปเรื่อย ๆ เอาตั้งแต่ใจเป็นอย่างไร อยากเสพไม่ได้เสพ ใจทุกข์เป็นอย่างไร วันนี้ได้เสพ วันอื่นก็อยากเสพต่อ ๆ อยากเสพ มันก็อยากได้มาก ๆ ได้สุขเยอะ ๆ ได้ความสุขเยอะ ๆ กิเลสมันก็แตกตัวไปมาก หมดเรี่ยว หมดแรง เซลล์ไม่มีพลังมาดันพิษออก พิษมันก็ค้าง กิเลสมันอยากเสพ มันก็แตกตัว แล้วทำชั่วได้ทุกเรื่อง
ฉะนั้น อยากเสพกิเลส มันก็เจอเรื่องร้าย เพราะมันเหนี่ยวนำเรื่องร้ายมาทั้งโลก พิจารณาซ้ำ ๆ จนมันตายเลย มาช่องไหนก็เข้าไม่ได้ เพราะมันโดนพลังปัญญาของเราเข้าไป ตายอย่างเดียวเลย ใช้ปัญญาเป็นเกราะวิเศษ พิจารณาเข้าไป ๆ รับรองละลาย
มารเรารู้จักเธอแล้ว เธอนั้นมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน มันจะละลาย สลายไปเรื่อย มันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น ชั่วกัปชั่วกัลป์เลย นี้ดีกว่า ผ่องใสกว่า ต้องมีใจที่จะพิสูจน์ มีฉันทะ มีความพอใจที่จะเข้าไปหาสัจจะอันนี้ ว่าเป็นอย่างไร
เรื่องกิเลส
เพราะแบบกิเลส เราก็เคยรู้มาแล้ว กิเลส เราบอกว่ารู้มาแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว เรายังรู้ไม่หมด จริง ๆ แล้ว มันทุกข์ทั้งหมดทั้งมวล แท้ที่จริง มันไม่ใช่สุขเลย มันเป็นทุกข์ ถ้ารู้มันจะไม่อยากเสพเลย มันจะละลายเลย ก็ตรวจให้ดีระหว่าง อยากเสพไม่อยากเสพ นี้ดีเยี่ยมที่สุด พิจารณาไตรลักษณ์เข้าไป ซ้ำ ๆ พิจารณา ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ พิจารณาซ้ำ ๆ เข้าไป ที่จริงมันไม่มีสุข มีแต่ทุกข์ พิจารณาเข้าไปซ้ำ ๆ จนมันสลาย แล้วเราจะมีปัญญา ทำสมดุลร้อนเย็น เราก็มีปัญญา จะช่วยเหลือผู้อื่นได้มากขึ้น
ความรู้หนึ่งเราจะได้จากปัญญาพระพุทธเจ้า อีกความรู้หนึ่ง ก็ได้จากตัวเรา เห็นจากตัวเราเลย ว่าเราได้ทำ ได้ปฏิบัติ นี้ได้เห็นวิบากดี นี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการตื่นแต่เช้า มารจะมาหลอกว่า อย่าเพิ่งรีบลุกนะ มันจะเสียสุขภาพ มันจะพักไม่พอ ให้เรานิ่ง ๆ มันจะกินพลัง ให้มันซึมกระทือ บื้อ ๆ เข้าไว้ พักมาก ๆ จะได้หายง่วง อย่าเพิ่งตื่นมามันจะง่วงมาก จะทรมานมาก อย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งออกจากเต็นท์ ก็สังเกตมากี่ทีแล้ว ก็ไม่เห็นจะสดชื่นเลย นี่มันหลอกเรานี้หว่า นี้มารผู้มีบาป นี้มันหลอกเรา ทำตัวให้สดชื่น ให้กระปรี่กระเปร่า ถ้าไม่สดชื่น อยากรู้ว่าเป็นมารจริงหรือเปล่า หรือเป็นเทพ มารมันจะชอบมาทรมาน มาหลอกเรา ว่ามันเป็นเทพ ๆ จริง ๆ มันหลอก ๆ
อาจารย์ก็รีบลุกขึ้นมา รีบเอาปัสสาวะหยอดตา มันบอกให้เรางัวเงีย เราก็สดชื่น ออกมาสักพัก มันก็สดชื่น ทำไปสักพัก ความง่วง ความงัวเงีย มันก็ไปแล้ว ก็สดชื่นดี
อาจารย์สังเกตหลายวันแล้ว ว่าบางวันมันล้า ๆ มันมีลม เราก็ทำเท่าที่เราสบาย คำว่าไม่สบาย แสดงว่า เทวทูตมาเตือน เราก็ปรับแก้ไป มันแค่ท้องอืด ก็ผายลม ก็ไปดีท็อกซ์ ดีท็อกซ์เสร็จ ก็โล่งเลย แสดงว่าไม่ค่อยไปสลายพิษ ถ้าสลายพิษก็สบายเลย อะไรที่ยังไม่ได้ทำ เทวทูตจะมาเตือน ถ้าจำเป็นต้องทำดีท็อกซ์ เราก็ทำ ถ้าไม่จำเป็น เราก็ไปทำอย่างอื่นได้
จะได้รู้ว่า การจะทำอะไร จะทำเพื่ออะไร การถอนพิษ ทำเพื่ออะไร เราจะเอาวัคซีน หรือเราจะเอาสบาย ชีวิตเราก็เลือกได้ ถ้ามีอะไรมากระซิบเรา แล้วเราทำตามนั้น แสดงว่า นั้นเป็นเทพ แล้วถ้าเราทำตรงนั้น แล้วไม่ได้ผล แต่ทำตรงกันข้ามนั้น มันดี นี้คือเป็นมาร มาหลอกเรา
การล้างได้ว่า เราวางได้ แล้วจะรู้ว่าแล้วเราติดยึดหรือไม่ติดยึด นี้เป็นมารคนละชั้นแล้ว นื้คือตัวประมาณ เทพและมารมีเหตุผลทั้งคู่ ต้องเลือกเอา จะเรียกว่าเทพก็ได้ แต่เทพองค์ไหน จะเก่งกว่ากัน แต่ถ้าเทพที่เก่งกว่า จะบอกถูก แต่ส่วนใหญ่จะมีมารแทรก ฉะนั้น แต่ละกิจกรรมให้อ่านดูว่า เสียงเทพหรือเสียงมาร
เทพหรือมาร
ที่สังเกตว่า เทพไม่ยึดมั่นถือมั่น มารจะยึดมั่นถือมั่น ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นได้แล้ว ก็จะมีเทพ 2 องค์ องค์หนึ่งเก่ง องค์หนึ่งไม่เก่ง เทพเหมือนกัน บริสุทธิ์ใจเหมือนกัน จะมีองค์หนึ่งถูก องค์หนึ่งผิด มาด้วยกัน เราก็พิสูจน์เอา ก็เชื่อองค์เก่งสิ ก็ทำตาม 2 องค์ดูสิ องค์ที่ผิดนี้เป็นมาร แต่มาหลอกว่าเป็นเทพ ตัวเองไม่เก่ง ประมาณไม่เก่ง มารที่ไม่รู้ความจริง แล้วคิดว่าตัวเองนั้นรู้จริง จริง ๆ แล้วไม่รู้มันก็มาหลอก เราจึงต้องรู้ว่า อันไหนองค์จริง องค์หลอก
สรุปมารมันจะมาหลอก มันมักจะมาว่าทำตามแล้วไม่เห็นได้อย่างที่ว่า ฉะนั้น ให้ทำกลับกัน แสดงว่านั้นแหละ วิสุทธิเทพ เหตุการณ์เดียวกัน มันมีทางเลือก 2 ทาง เทพและมาร ให้ประมาณดูเลย ถ้าประมาณไม่ถูก ก็ทดลองทำเลย แล้วจะเห็นจริง นี่คือวิธีตรวจสอบ มารและเทพ
อยากรู้ว่า ถ้าจริง มันจะดีขึ้น ๆ แต่ถ้าไม่จริง มันมีแต่แย่ลง ๆ ยิ่งเราลดกิเลส ช่วยเหลือผู้อื่น เราจะอ่านความจริงนี้ได้เร็วขึ้น ๆ มันจะบอกเร็ว มาตลีเทพสารถี มันจะละหน่ายคลาย บอกให้หน่ายคลายได้ แต่ถ้าผู้ที่ไม่ทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น มาตลีเทพสารถี จะไม่มาช่วยเลย แต่ถ้าใครทำความดี บำเพ็ญบุญกุศลได้ดี มาตลีเทพสารถีจะมาบอกเร็ว ใครไม่บำเพ็ญบุญกุศล พญามารจะมาบังไว้ไม่ให้รู้ตามฤทธิ์ไว้ จนหมดฤทธิ์ ก็จะออกฤทธิ์ ถ้าเพิ่มกิเลส ไม่ลดกิเลส มาตลีเทพสารถี ก็ไม่หาให้ กลายเป็นพญามารมาหาให้ กลับหัวให้เลย
อะไรที่กำจัดกิเลสได้ มันจะบอกเรา แต่ถ้ากำจัดไม่ได้ มันจะหลอกเรา อย่างพริกเผ็ด ๆ มันจะหลอกเรา เป็นโทษเป็นภัย มันจะหลอกว่าหวาน ทั้ง ๆ ที่เป็นพิษ เดี๋ยวอีกหน่อย มันจะไม่สบาย แต่ถ้าเราตั้งศีล มันจะบอกเร็ว ถ้าไม่ตั้ง ก็นาน กว่ามันจะบอกเรา อย่างกินอาหารรสจัด ต้องกินต้องนานกี่ปี กว่ากระเพาะจะทะลุ มันพังพินาศ ใครอยากรู้ความจริงตามความเป็นจริง ก็ต้องลดกิเลส จะให้วิบากดีได้เร็ว ไม่ลดกิเลส ก็ให้วิบากร้ายได้
การจะลดวิบากร้ายได้เร็ว คือ การลดกิเลส เมื่อลดกิเลส ลดวิบากร้าย ก็มาจัดการกับร่างกาย สุขจากใจไร้กังวล ว่าสัมผัสหรือไม่สัมผัส ถ้าสัมผัส แล้วเกิดผลดี มันก็จะออกฤทธิ์เป็นประโยชน์ ถ้าออกฤทธิ์ไม่ดี เป็นโทษ มันก็จะบอกเร็ว
แต่บางที่เวลาวิบากเข้า เขาก็จะไม่ให้รู้ข้อมูล พลังความดีของแต่ละท่านนั้นแหละ ที่คอยตามช่วยเหลือแต่ละท่าน
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
ราบการธรรมะพาพ้นทุกข์
30 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.00-16.00 น.
อาคารดอยฟ้า พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ