คำว่า “พืช”
เรื่องอาหารจับหลัก 3 ประเด็นเท่านั้น รับประทานพืช จืด สบาย คำว่ารับประทานพืช คือ ละเลิกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์นั้น ทางด้านวิทยาศาสตร์จะมีกรด ความร้อน มีธาตุที่มีกรดเยอะ ก่อนที่สัตว์จะตายมันจะกลัวตาย เขาไม่อยากตายเขาจะผลิตพลังงานขึ้นมาผลักดันความกลัวตายออก ฉะนั้น กรดแลคติก (Lactic acid) กรดยูริค (Uric acid) อะดรีนาลีน (Adrenaline) กระตุ้นให้เกิดการผลิตพลังงาน คาร์บอนไดร์ออกไซด์ กรดและความร้อนจะเยอะ เซลล์เราทำงานทุกวันมีกรดและความร้อนอยู่แล้ว จะกลายเป็นกรด เป็นความร้อนที่เป็นพิษไป เติมกรดเติมความร้อนจากเนื้อสัตว์เข้าไปอีก จะก่อโรค ทำให้เซลล์บีบเอาพิษออกทำให้ผิดโครงสร้าง โครงรูป เสียหน้าที่ เสียภูมิต้านทาน ดังนั้นการกินเนื้อสัตว์จึงเป็นการลดภูมิต้านทาน ในขั้วโลกเหนือเอสกิโมกินเนื้อสัตว์มาก เพราะว่าไม่มีพืชผักจะกิน ต้องกินเนื้อสัตว์มาก กินเนื้อนมไข่มาก ทำให้มีโรคมากอายุสั้น อายุเฉลี่ย 27 ปีครึ่ง เสียชีวิต
ตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน จูฬกัมมวิภังคสูตร ว่าการเบียดเบียนทำให้โรคมากและอายุสั้น อันนั้นมันชัดเจนในเรื่องนี้จึงควรลดละเลิกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เท่าที่ทำได้แล้วมากินพืช ผัก ธัญพืช เป็นหลัก ที่เมือง ชนเผ่าฮันซา ประเทศปากีสถาน กินพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นหลัก ไม่ทานเนื้อสัตว์ อายุเฉลี่ย 110 ปี โรคน้อยที่สุด จะเห็นได้ว่า มันตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ในจูฬกัมมวิภังคสูตร การไม่เบียดเบียนทำให้มีโรคน้อยและอายุยืน ส่วนเมืองไทยนั้นเรากินเนื้อสัตว์บ้างไม่กินเนื้อสัตว์บ้าง กินกับข้าวบ้างกินพืชบ้างกินเนื้อสัตว์บ้าง เบียดเบียนครึ่ง ไม่เบียดเบียนครึ่ง อายุประมาณ 70 บวกลบ เสียชีวิต ตอนนี้ไม่ค่อยจะถึง ยิ่งโควิดมายิ่งเสียชีวิตเร็ว เป็นต้น คนที่เข้าค่ายของเรามีทั้งติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ มาเรียนรู้แพทย์วิถีธรรม 3 แสนท่านนั้น พบว่าพบว่า 90 % มีสุขภาพดีขึ้น ในค่ายเราพาไม่รับประทานเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย กลับบ้านไปก็ไปลดละเลิก เท่าที่ทำได้ นี่คือข้อมูลที่ชัดเจน ว่าการลดละเลิกเนื้อสัตว์และ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์นั้น มีสุขภาพที่ดีขึ้นจริง พี่น้องก็ได้หันมาทานพืชอาหาร 5 หมู่มาขึ้น ผัก ผลไม้ ข้าว เมล็ดธัญพืช ไขมันต่างๆ หลัก 5 หมู่ครบเลย เรียกว่ารับประทานพืช
คำว่า“จืด”
จืด คือ รสจืดอย่างคือไม่ทานรสจัด ถ้ารับประทานอาหารเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม รสจัดเกินไป งานวิจัย หรือแพทย์ทุกแผนกล่าวว่าก่อโรค เพราะฉะนั้น เราลดความจัดลงมาทานรสจืด ที่ไม่ยากไม่ลำบาก ปรุงเท่าที่รู้สึกสบาย ปรุงด้วยเกลือเป็นหลัก ซีอิ้ว เต้าเจียว กะปิ ปลาร้าอย่าไปใส่เยอะ ปรุงรสจืด ใส่เท่าที่รู้สึกสบาย เบากายมีกำลัง เป็นอยู่ผาสุกเป็นหลัก อิ่มท้อง สบาย เบากาย มีกำลัง อิ่มท้อง จืด คือ ปรุงรสเท่าที่สบาย เบากายมีกำลัง อิ่มนาน
คำว่า “สบาย”
ใช้พืชที่เราใช้แล้วรู้สึกสบาย รับประทานพืชในความรู้สึกที่สบาย จะใช้พืชเย็น-ร้อนเลือกใช้เหมาะสม เรียนรู้ ถ้าไม่รู้ฤทธิ์ร้อน หรือฤทธิ์เย็น เลือกผสมเอามาทานแล้วรู้สึกสบาย ไม่ยาก เลือกพืชเราทานแล้ว รู้สึกเบากายมีกำลัง อิ่มนาน เบาท้อง พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ทำความสบายทำให้มีโรคน้อยแล้วอายุยืน หลักการรับประทานอาหาร อาหารเป็นหนึ่งในโลกเป็นหลักเป็นวิธีหลักที่ทำให้แข็งแรง มีฤทธิ์ 30% บวกลบ ทานให้ถูกต้อง นี้ คือ หลักรับประทานอาหารให้แข็งแรงสู้โรคโควิด โรคติดเชื้อ โรคไม่ติดเชื้ออื่นได้ พิสูจน์มาแล้ว เบาท้อง เบากาย สบาย มีกำลัง อิ่มนาน ตัวไหนใช้สบายเลือกตัวนั้นใช้หลักใหญ่ นี้คือหลักรับประทานอาหาร พืช จืด สบาย
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
นักวิชาการอิสระ ผู้เชียวชาญการแพทย์ทางเลือกวิถีธรรม
รายการธรรมะพาพ้นทุกข์
29 กรกฎาคม 2564
ณ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
จัดทำโดย
มูลนิธิแพทย์วิถีธรรมแห่งประเทศไทย