“เรื่องของกสิกรรมไร้สารพิษเป็นสัจจะที่ทรงคุณค่าทรงประโยชน์ในชีวิตชั่วกัปชั่วกัลป์”
ยิ่งในยุคนี้เป็นยุคที่สำคัญที่สุดเลย ยุคนี้เป็นยุคที่จำเป็นมาก เป็นสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในชีวิตของแต่ละชีวิต ผู้มีปัญญาจะรู้ว่ากสิกรรมไร้สารพิษ เป็นสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน ตอนนี้ ต้องทุ่มโถมสร้าง ทุ่มโถมทำให้ได้มากที่สุดให้ได้ดีที่สุดเลย เพราะเป็นสิ่งที่ขาดแคลนที่สุด และจำเป็นที่สุดต่อชีวิต เป็นความอยู่รอดของเราและมนุษยชาติ
มาช่วยกัน ผู้ที่มีปัญญาจะรู้ว่ากาละไหนต้องเน้นอะไร จนพ่อครูบอกว่ายุคนี้ ใครอยู่หอคอยงาช้างอะไรที่ไหนๆ มาทำกสิกรรมไร้สารพิษให้หมดเลย เราและคนอื่นจะได้รอด ไม่อย่างนั้นตายกันจริงๆนะ ต่อให้มีความรู้มากมายแต่ไม่มีอาหารกินนี่ตายหมดเลยนะ
มันอันตรายมากเพราะอะไร เพราะว่าโควิดไม่ใช่เล่นๆ จะเป็นยุคที่ขาดแคลนอาหารอย่างหนักหนาสาหัสที่สุดเลย โควิดไม่ใช่เรื่องเล่นนะ โควิดนี่เขากำลังแรงกล้าเลยนะ เขาแกร่งมาก รวดเร็ว แข็งแรงมาก ประสิทธิภาพเขาสูงมาก เพราะฉะนั้น การออกฤทธิ์ของเขาจะยังอีกยาวนานเลย และวิธีเดียวที่จะหยุดยั้งเขาได้ก็คือ การทำกสิกรรมไร้สารพิษและก็ lock down
คือกสิกรรมไร้สารพิษจะทำให้เราได้อะไร
- เราได้ภูมิต้านทาน
- เรา lock down ได้
- เศรษฐกิจจะพอเป็นไปได้ จะแบ่งปันกันได้ ขายราคาถูกแล้วก็แบ่งปันกันได้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต
อย่างอื่นๆ มันจะหมดความจำเป็นลงไปเรื่อยๆ แม้แต่วัคซีน คนที่เครียดมากๆ วัคซีนจะไม่มีผลเลย มีงานวิจัยออกมาว่า ความเครียดลดฤทธิ์ของวัคซีนลงไปเลย อย่างนี้เป็นต้น
เพราะอย่างนั้น ถ้าไม่มีกสิกรรมไร้สารพิษ คนจะเครียดหนักเลยนะ ตกงานแล้วจะกินอะไร จะอยู่อย่างไร แล้วหนี้สินก็มี จะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้สิน แล้วอย่างอื่นขาย คนก็ไม่ซื้อเพราะมันไม่ได้จำเป็นต่อชีวิต แต่ถ้ามีพืชผักไร้สารพิษนี่คนซื้อนะ เพราะจำเป็นต่อชีวิต เรียกว่ารายได้ก็จะได้มาด้วย พอที่จะจุนเจือครอบครัว พอที่จะได้ใช้สิ่งนั้นสิ่งนี้ได้บ้าง อย่างนี้เป็นต้น อย่างอื่นๆ มันจะเริ่มไม่ได้ไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันจริงๆ
แพทย์วิถีธรรมทำให้เราได้เรียนรู้ กสิกรรมไร้สารพิษ สุขภาพ ธรรมะ อาจารย์ว่า 3 อย่างนี้ เป็นจุดที่แข็งที่สุดของแพทย์วิถีธรรมแล้ว นี่คือจุดเข้มแข็งที่สุดของเรา แล้วก็เป็นจุดเข้มแข็งที่สุดของมนุษยชาติ เรามาอยู่ในจุดที่เข้มแข็งที่สุด จุดที่เป็นประโยชน์ที่สุดเข้มแข็งที่สุดในการอยู่รอดปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุข แล้วก็มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ จริงๆ ทุกยุคทุกสมัย แก่นอยู่ตรงนี้แหละ แก่นอยู่ตรง ธรรมะ สุขภาพ กสิกรรมไร้สารพิษ 3 อย่างนี้เป็นแก่นสำคัญของชีวิต มั่นคงที่สุด พึ่งตัวเองได้มากที่สุด ปลอดภัยที่สุด อุดมสมบูรณ์ที่สุด ผาสุกที่สุด มีกินมีใช้ที่สุด มีคุณค่าที่สุดและเราก็ทำเอาเองได้ที่สุดด้วย มันเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด มีคุณค่าที่สุด ใครจะไปเห่ออะไรก็ช่างเขาเถอะ เรื่องของเขา
เราทำอันนี้แหละ ธรรมะ สุขภาพ กสิกรรม นี่แหละ อาจารย์ว่าเข้มแข็งที่สุดของชีวิตมนุษย์แล้ว ไม่มีอะไรเข้มแข็งกว่านี้ ไม่มีอะไรผาสุกกว่านี้ เราทำอันนี้ให้เป็นเอก เป็นเด่นเลย จริงๆ อาจารย์ส่งพี่น้องให้ไปเรียน ปริญญาโท ปริญญาเอก ก็ให้มาปลูกผักนี่แหละ ให้ไปเรียนมาทำกสิกรรมไร้สารพิษ ทำเรื่องสุขภาพ ทำเรื่องธรรมะ ทำสิ่งนี้ของเรา เป็นเนื้อ เป็นแก่น เป็นเอก เพราะยุคนี้คนหลงทางไปมากแล้ว เราต้องมาอยู่ตรงนี้เป็นหลัก เป็นแก่น เรียนปริญญาโท เรียนปริญญาเอกมาก็ต้องมาทำสิ่งนี้เพื่ออะไร เพื่อที่จะกระชากวิญญาณคนในสังคม ว่าสิ่งนี้สำคัญ จะจบอะไรมาก็ให้มาทำกสิกรรมไร้สารพิษ
มันเป็นศิลปะที่จะกระชากจิตวิญญาณคน ที่จะกระตุกจิตวิญญาณคนให้มาสู่สิ่งที่มีค่าต่อชีวิต บางท่านต้องไปเสียสละ เรียนปริญญาโท เรียนปริญญาเอกมา บางท่านเหตุปัจจัยไม่ต้องไปอย่างนั้นก็ทำตรงๆ มันจะมีพลังงานคนละแบบ ท่านที่ไปเรียนก็จะมีพลังอีกแบบหนึ่ง อีกจุดหนึ่ง อีกเหตุปัจจัยหนึ่ง ที่จะช่วยให้คนหันกลับมาทำสิ่งนี้ หรือท่านที่ไม่ได้ไปเรียนก็จะมีเหตุปัจจัยอีกอย่างหนึ่ง ทำแบบเดียวกันนี่แหละ เป็นอีกเหตุปัจจัยหนึ่งที่กระตุกวิญญาณคน เชื่อมโยงไปให้เห็นวิญญาณคน ให้เห็นคุณค่าประโยชน์ของสิ่งนี้ สานพลังกัน ร่วมกันทำ เป็นสิ่งที่มีค่าจริงๆ จำเป็นจริงๆ อาจารย์เห็นแล้วมันไม่มีทางอื่นที่จะรอด ตอนนี้แต่ละประเทศเขาก็รู้ว่ามันมีปัญหา แต่เขาก็ยังลุ้นๆว่า โควิด คงจะหมดไป เขาก็ลุ้นๆ อยู่ในใจเขาอย่างนั้น
แต่ดูข่าวทุกวันมันจะหมดไหม มันจะหมดเร็วๆนี้ไหม อาจารย์ว่าไม่มีวี่แววเลยนะ มีแต่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มไปเรื่อยๆ อันเก่าก็ขยายมากขึ้น สายพันธุ์ใหม่ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ พฤติกรรมคนก็ไม่ได้เปลี่ยนมากมายนัก ลดกิเลสก็ไม่เป็นอย่างนี้เป็นต้น มันจะเป็นยังไง ลดกิเลสก็ไม่เป็น ดูแลสุขภาพก็ไม่เป็น ทำกสิกรรมไร้สารพิษก็ไม่เป็น แล้วมันจะรอดได้อย่างไร ขนาดเราพยายาม ขนาดเราเร่งเต็มที่เลยนะ เรานี่ก็ไม่ได้มีอบายมุข ไม่ได้มีกิเลสที่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย เกินความจำเป็นที่เราต้องไปเสพอะไร มุ่งมาสิ่งที่จำเป็นอย่างเดียวเลยนะ สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดที่ชีวิตจะอยู่รอด อยู่เย็นเป็นสุข และก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น มุ่งมาทิศเดียวเลย เปรี้ยงๆมาเลย ยังเกือบจะไม่ทันเลย เกือบจะไม่พอเลย นี่ขนาดเราโถมมาเลยนะ
แล้วคนที่เขายังหลงกิเลสฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไปหลงสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตอยู่นี่จะเป็นอย่างจะทันไหม มันก็ไม่พออยู่พอกิน มันจะขาดแคลนไม่ทันการณ์ คนเหล่านั้นน่ะไปไม่รอดอย่างเดียว ไม่รู้จะไปทางไหน ขวัญกระเจิง หลายลีลา ช็อคตายเลยก็มี ป่วยหนักก็มี ไม่ตายไม่ป่วยหนักก็สติเลอะเลือน ขวัญกระเจิง เป็นบ้าจิตฟุ้งซ่าน เพราะเขาไม่อยากให้เกิดสิ่งเลวร้ายขึ้น แล้วมันเกิดแล้วเขาทำใจไม่ทัน ไม่อยากพลัดพรากจากสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วมันต้องพลัดพราก
แต่ถ้าเขาได้เรียนรู้กับเรา เขาได้เรียนรู้ทำความจริง รวมพลังให้แน่น แต่ละคนช่วยกันทำ รวมพลังกันให้แน่น สานพลังกันให้แน่นปึ๊กๆ ทั้งที่อยู่ที่ศูนย์ ทั้งที่อยู่ที่บ้าน สานพลังกัน ทำๆๆ แล้วสื่อสารความจริงที่อยู่รอดปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุขออกไป สิ่งที่อยู่รอด อยู่เย็นเป็นสุข เป็นคุณค่าต่อทุกชีวิตสื่อออกไปๆ วันที่เขาทุกข์ เขาจะมีสติ วันที่เขาทุกข์ เขาจะรู้สึกว่ามีสิ่งหนึ่งที่เป็นที่พึ่งได้
อาจารย์ไม่รู้จะอธิบายยังไง อาจารย์รู้แต่ว่ามันมีคนที่เขาไม่ได้หวั่นไหวอย่างนี้ เขาจะรู้ว่า แล้วทำไมกลุ่มนี้ไม่หวั่นไหวเลย แล้วทำไมอยู่รอด ถึงตอนนั้นเขาจะมั่นใจเลยว่าแบบนี้รอด แบบอื่นไม่รอดแล้วเขาจะเห็นเลย แบบที่ไม่รอดมีทั้งโลกเลย แบบที่รอดเขาจะดิ่งมาปฏิบัติอย่างนี้เป็นต้น แล้วเขาจะรอดได้เป็นลำดับๆ
เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ทำสิ่งนี้ ทุกยุคทุกสมัยทำสิ่งนี้ ยุคนี้ยิ่งจำเป็นที่สุดเลย อาจารย์ว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุด 3 อย่างนี้แหละ กสิกรรมไร้สารพิษ สุขภาพ และ ธรรมะ สำคัญที่สุดเลย ถ้าได้อันนี้ได้หมดทุกอย่าง สิ่งจำเป็นในชีวิตอื่นๆ จะเข้ามาได้หมด จะเป็นเศรษฐกิจอะไรๆ ก็จะเข้ามาได้หมด แต่ถ้าไม่ได้ 3 อย่างนี้ก็หนักหนาสาหัส
อาจารย์มารู้ตัวเองว่า เกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยากให้เป็นสิ่งที่ง่าย โดยเฉพาะทำ 3 อย่างนี้แหละ นำหน้าก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็น ธรรมะ สุขภาพ กสิกรรมไร้สารพิษ มันเป็นสิ่งที่ยาก คนในโลกรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อน ลำบากในการทำ สิ้นเปลือง อาจารย์ก็เกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยากให้เป็นสิ่งที่ง่าย ทำให้มันง่ายเข้าไว้ ง่ายเข้าไว้ เพื่อคนจะปฏิบัติได้ง่ายและพ้นทุกข์ได้เร็ว ก็ทำมาเป็นลำดับๆ เรื่องอื่นๆ ก็เหมือนกัน ต้องทำสิ่งที่ยากให้เป็นสิ่งที่ง่าย
แต่ตอนนี้ทำ 3 อย่างหลักๆ เกิดมาชาตินี้ก็ทำ 3 อย่างนี้ ธรรมะ สุขภาพ กสิกรรม สิ่งที่คนรู้สึกว่ายากเหลือเกิน อาจารย์จะทำให้มันง่าย แล้วก็พาผู้คนอยู่รอดปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุข อาจารย์ไปทำงานเมื่อเช้าก็ยังคุยกันกับพี่น้องเราว่า จริงๆพระโพธิสัตว์ ถ้าท่านเกิดมาในยุคที่มันไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็จะเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่เห็นความแตกต่างอะไรหรอก ไม่รู้ค่า ไม่รู้ประสิทธิภาพของท่านเท่าไรหรอก ไม่รู้จักความสามารถ ไม่รู้จักบารมี ไม่รู้จักองค์ประกอบของท่าน เพราะมันไม่ได้เดือดร้อนอะไร และท่านก็ไม่อยากจะไปอยู่ยุคนั้นเท่าไรหรอก ก็ไปเรียนรู้เฉยๆ ไปก็ไม่ได้ไปสอนอะไรใครมาก เพราะเขาดีอยู่แล้ว ในยุคที่ไม่มีปัญหา มีแต่คนดีเขาก็ดีอยู่แล้ว เขาไม่มีปัญหาอะไร ไปเกิดในยุคนั้นก็จะไม่เห็นความโดดเด่นของพระพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์ แต่ถ้าท่านมาเกิดในยุคที่ท่านตั้งจิตมาบำเพ็ญ ในยุคที่ทุกข์เข็ญ ยุคที่เต็มไปด้วยความเดือดร้อน เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน แง่เชิงต่างๆ ที่คนก็ไม่รู้จะหาทางออกทางไหน ไม่รู้จะแก้กันทางไหน อันนี้แหละพระโพธิสัตว์พระพุทธเจ้ามา คนมีปัญญาก็จะเห็น จะเริ่มเห็นคุณค่า จะรู้ประโยชน์ว่าท่านมีความรู้มีบารมี มีองค์ประกอบที่จะพาชีวิตผู้คนให้พ้นทุกข์ได้
ก็จะเห็นขึ้นมา มีความโดดเด่นขึ้นมา แล้วคนก็จะมาเรียนรู้สัจจะ จากท่านแล้วก็จะพากันปฏิบัติสู่ความพ้นทุกข์
ผู้มีปัญญาก็จะเห็นสิ่งนี้ พ่อครูก็เน้นย้ำ อาจารย์ก็เน้นย้ำ พระพุทธเจ้าท่านเน้นย้ำ ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าแล้วว่า “อาหารเป็นหนึ่งในโลก” กสิกรรมจะทำให้ได้อาหาร ได้ยา ทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นต่อชีวิต
อาจารย์เน้นย้ำเรื่องกสิกรรม เรื่องธรรมะ สุขภาพ กสิกรรม เดินคู่กันไปเลย 3 อย่างนี้ เขาเรียกว่า 3 พลัง เดินคู่กันไป สานพลัง เป็นพลังครบ 3 จะเป็น 3 สุข ไม่ใช่ 3 เศร้า เศร้าทั้ง 3 อันก็เจ๊งกันพอดี
3 สุข 3 สร้างสรรค์ 3 สุข 3 สร้าง สร้างสุข สร้างสิ่งที่ดีงาม ที่เป็นประโยชน์แท้ต่อชีวิต มันจะครบ Cyclic order ครบ 3 ครบเพชร เป็นพลัง co-efficient มันจะครบเพชรเหวี่ยงไปเป็น 4, 5, 6, 7 ได้ ถ้าไม่ครบ 3 ก็เหวี่ยงไม่ได้ 1 ก็เก็บไม่ได้ 2 มันก็คาอยู่เท่านี้ พอ 3 ปุ๊บจะเหวี่ยงทันที ขึ้นมา 3 ปุ๊บจะเหวี่ยงทันที มันจะเกิดพลังเหวี่ยง พลังเหวี่ยงที่แรงที่สุดตอนนี้คือ พลัง 3 สร้าง 3 สุขจะเป็นพลังเหวี่ยงที่แรงที่สุด
ธรรมะ สุขภาพ และ กสิกรรม ตอนนี้เป็น 3 พลัง เหวี่ยงให้เต็มที่เลย เหวี่ยงไปแล้วจะเข้าสู่ 4, 5, 6, 7 ขึ้นไป ไม่มีอะไรแรงกว่า 3 พลังนี้แล้ว 3 พลังนี้แรงที่สุดในโลกแล้วที่จะกอบกู้มนุษยชาติ เรานี่ยึดหัวหาด 3 อันนี้เลย ธรรมะ สุขภาพพึ่งตนแพทย์พุทธศาสตร์ แพทย์วิถีธรรมเรา
ธรรมะ สุขภาพพึ่งตน กสิกรรมไร้สารพิษ เอา 3 สิ่งนี้ให้เป็นเอกเลย เหวี่ยง 3 อันนี้ให้เต็มที่เลย ปฏิบัติให้เต็มที่ สานพลังให้เต็มที่ จะเป็นพลังเหวี่ยงโควิด เหวี่ยงภัยพิบัติต่างๆ ออกไปจากชีวิตของเราเองและพี่น้องที่มีบุญกุศลร่วมกัน จะสานพลังเข้ามา และก็จะเกิดประโยชน์ขึ้น
ธรรมะในวันครู 16 มกราคม 2564
ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
ณ ศาลาดอยฟ้า พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ
ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่